เวลานี้ 1 ในนักเตะที่ถูกจับตามองที่สุดในยุโรป ต้องมีชื่อของ
หลุยส์ ดิอาซ แน่นอน เพราะตั้งแต่ย้ายมาลิเวอร์พูล เขายิงไปแล้ว 5 ประตู หลังจากลงไป 21 นัด แต่การจะได้ตัวนักเตะคนนี้มานั้น ต้องบอกว่านี่ถือเป็น 1 ในการซื้อขายที่ฉลาดที่สุดของสโมสร รวมทั้งเป็น 1 ในผลงานชิ้นโบแดงของประธานผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของสโมสร
จูเลียน วอร์ด ผู้ซึ่งขึ้นมาแทยตำแหน่งของ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด
ที่ผ่านมา หลุยส์ ดิอาซ ตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรทั่วยุโรป จนในช่วงตลาดนักเตะเดือนม.ค. สเปอร์ส เป็นทีมที่แสดงความสนใจอย่างจริงจังและยื่นข้อเสนอให้กับ ปอร์โต้ พิจารณา ซึ่ง ปอร์โต้ ก็ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ในขณะที่ตัวของ ดิอาซ ก็กระสันที่จะย้ายไปโชว์ฝีเท้าในศึกพรีเมียร์ลีกเช่นกัน รวมทั้งลิเวอร์พูลเองด้วย ที่ติดตามมาตั้งแต่ปี 64 แล้ว แต่ค่าตัวของดิอาซที่ปอร์โต้ตั้งไว้นั้น เรียกว่า มหาโหดมากคือ 80 ล้านยูโร ลิเวอร์พูลจึงคิดที่จะเปิดการเจรจาในช่วงซัมเมอร์อีกทั้ง ดิอาซ ยังเหลือสัญญาแค่ 1 ปีครึ่งอีกด้วยจึงคิดว่าเจรจาช่วงนั้นน่าจะได้ราคาถูกกว่า
ทีมเจรจาของแดเนียว เลวี่ และ คอนเต้ ปิดข่าวได้ค่อนข้างเงียบ ประจวบเหมาะกับการที่ปอร์โต้ ยอมลดค่าตัวลงเนื่องจากภาวะการเงินติดตัวแดง จึงยอมรับที่ค่าตัว 60 ล้านยูโรบวกแอดออน แต่กลายเป็นว่าสเปอร์สดันเดินหมากพลาดครั้งใหญ่ ระหว่างการเจรจา สเปอร์ส กับ ปอร์โต้ กลับให้ จอร์จ เมนเดส ซุปเปอร์เอเยนต์คนดังที่มีส่วนช่วยในการย้ายทีมของนักเตะอนาคตไกลในโปรตุเกสหลายๆ คน รวมทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามาจัดการในเรื่องการซื้อขาย
เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ก็บ้านแตกสิครับ คาร์ลอส ฟาน สตราฮาเลน ไม่พอใจอย่างยิ่งที่เมนเดสเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องนี้จึงเกิดการขัดแข้งขัดขากันในการเจรจา เมื่อข่าวแบบนี้ออกไปถึงหูแมวมองของลิเวอร์พูลที่อเมริกาใต้เข้าก็สบโอกาสทันทีเพราะค่าตัวที่ทีมต้องจ่ายจริงๆ ลดลงมามากกว่าครึ่ง จูเลียน วอร์ด รีบยื่นข้อเสนอไปให้กับทางปอร์โต้ทันทีซึ่งค่าตัวใกล้เคียงกัน แถมคาร์ลอสยังไฟเขียวให้โอกาสกับลิเวอร์พูลเต็มที่เนื่องจากไม่มีเมนเดสเข้ามาจุ้นจ้าน นอกจากนี้ความได้เปรียบอีกอย่างก็คือ ลิเวอร์พูลยังพร้อมจ่ายเงินก้อนให้กับปอร์โต้ล่วงหน้าให้ได้ในทันทีอีกด้วย
เมื่อมาโดนปาดแบบนี้ก็ควันออกหูสิครับ เลวี่ ที่ตอนแรกกำลังจะได้ตัวดิอาซอยู่แล้วอยู่ๆ ทีมงานลิเวอร์พูลโผล่มาจากไหนไม่รู้ ถึงขั้นขู่ว่าจะไปฟ้อง จอห์น เฮนรี่ กับไมค์ กอร์ดอน ประธานสโมสรอีกด้วยแต่ก็ไม่มีประโยชน์เพราะ จอห์น เฮนรี่ ก็ทราบถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก
สุดท้ายจึงอยู่ที่ตัวดิอาซเองว่าจะย้ายไปอยู่ทีมไหน เมื่อลิเวอร์พูลเป็นเป้าหมายที่ดิอาซสนใจอยู่แล้ว แถมจากคำสัมภาษณ์ของพ่อของดิอาซที่เล่าว่า สเปอร์ส ยึกยักเกินไป เขาจึงเลือกลิเวอร์พูลแบบไม่ลังเล เมื่อทุกอย่างเคลียร์เรียบร้อย ลิเวอร์พูลจัดการส่ง เดวิด วู้ดฟายน์ และแพทย์ประจำสโมสร จิม โมซอน บินไปหา ดิอาซ ถึงอาร์เจนตินาทันที เพื่อเจรจารายละเอียดขั้นตอนสุดท้าย พร้อมกับตรวจร่างกาย และต้องเซ็นสัญญาให้ทันเวลาเดดไลน์ตลาดนักเตะ เนื่องจากขณะนั้น เจ้าตัวอยู่ระหว่างเตรียมทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่ง โคลอมเบีย ยกพลไปเยือน อาร์เจนตินา
รายงานข่าวระบุว่า แม้ ดิอาซ จะอยู่ระหว่างเก็บตัวแคมป์ทีมชาติ แต่สมาคมลูกหนังโคลอมเบียให้ความร่วมมือกับลิเวอร์พูลเต็มที่ จนในที่สุด ขั้นตอนทุกอย่างก็เรียบร้อยทันเวลา พร้อมกับภาพการชูเสื้อลิเวอร์พูลของดิอาซ แม้จะเป็นภาพที่ดูฉุกละหุก เหมือนถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือ แถมภาพยังดูแตกๆ อีกต่างหาก แต่อย่างน้อยก็เป็นภาพให้เดอะค็อปทั่วโลกได้รับรู้ว่า "หลุยส์ ดิอาซ" คือสมาชิกใหม่ในถิ่นแอนฟิลด์อย่างเป็นทางการแล้ว
ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณ สเปอร์สกับปอร์โต้ ที่ไปติดต่อ จอร์จ เมนเดส ให้มาจัดการเรื่องนี้ คือถ้าติดต่อผ่าน คาร์ลอส ฟาน สตราฮาเลน คงเสร็จสเปอร์สไปแล้ว ชัวร์ๆ แถมได้ค่าตัวลดลงจากเดิมที่จะต้องจ่ายตั้งครึ่ง ที่เหลือก็ไปลุ้นโบนัสเอา
เบิ้องหลังการปาดหน้าสเปอร์สคว้าตัว หลุยส์ ดิอาซ
ที่ผ่านมา หลุยส์ ดิอาซ ตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรทั่วยุโรป จนในช่วงตลาดนักเตะเดือนม.ค. สเปอร์ส เป็นทีมที่แสดงความสนใจอย่างจริงจังและยื่นข้อเสนอให้กับ ปอร์โต้ พิจารณา ซึ่ง ปอร์โต้ ก็ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ในขณะที่ตัวของ ดิอาซ ก็กระสันที่จะย้ายไปโชว์ฝีเท้าในศึกพรีเมียร์ลีกเช่นกัน รวมทั้งลิเวอร์พูลเองด้วย ที่ติดตามมาตั้งแต่ปี 64 แล้ว แต่ค่าตัวของดิอาซที่ปอร์โต้ตั้งไว้นั้น เรียกว่า มหาโหดมากคือ 80 ล้านยูโร ลิเวอร์พูลจึงคิดที่จะเปิดการเจรจาในช่วงซัมเมอร์อีกทั้ง ดิอาซ ยังเหลือสัญญาแค่ 1 ปีครึ่งอีกด้วยจึงคิดว่าเจรจาช่วงนั้นน่าจะได้ราคาถูกกว่า
ทีมเจรจาของแดเนียว เลวี่ และ คอนเต้ ปิดข่าวได้ค่อนข้างเงียบ ประจวบเหมาะกับการที่ปอร์โต้ ยอมลดค่าตัวลงเนื่องจากภาวะการเงินติดตัวแดง จึงยอมรับที่ค่าตัว 60 ล้านยูโรบวกแอดออน แต่กลายเป็นว่าสเปอร์สดันเดินหมากพลาดครั้งใหญ่ ระหว่างการเจรจา สเปอร์ส กับ ปอร์โต้ กลับให้ จอร์จ เมนเดส ซุปเปอร์เอเยนต์คนดังที่มีส่วนช่วยในการย้ายทีมของนักเตะอนาคตไกลในโปรตุเกสหลายๆ คน รวมทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามาจัดการในเรื่องการซื้อขาย
เมื่อมาโดนปาดแบบนี้ก็ควันออกหูสิครับ เลวี่ ที่ตอนแรกกำลังจะได้ตัวดิอาซอยู่แล้วอยู่ๆ ทีมงานลิเวอร์พูลโผล่มาจากไหนไม่รู้ ถึงขั้นขู่ว่าจะไปฟ้อง จอห์น เฮนรี่ กับไมค์ กอร์ดอน ประธานสโมสรอีกด้วยแต่ก็ไม่มีประโยชน์เพราะ จอห์น เฮนรี่ ก็ทราบถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก
สุดท้ายจึงอยู่ที่ตัวดิอาซเองว่าจะย้ายไปอยู่ทีมไหน เมื่อลิเวอร์พูลเป็นเป้าหมายที่ดิอาซสนใจอยู่แล้ว แถมจากคำสัมภาษณ์ของพ่อของดิอาซที่เล่าว่า สเปอร์ส ยึกยักเกินไป เขาจึงเลือกลิเวอร์พูลแบบไม่ลังเล เมื่อทุกอย่างเคลียร์เรียบร้อย ลิเวอร์พูลจัดการส่ง เดวิด วู้ดฟายน์ และแพทย์ประจำสโมสร จิม โมซอน บินไปหา ดิอาซ ถึงอาร์เจนตินาทันที เพื่อเจรจารายละเอียดขั้นตอนสุดท้าย พร้อมกับตรวจร่างกาย และต้องเซ็นสัญญาให้ทันเวลาเดดไลน์ตลาดนักเตะ เนื่องจากขณะนั้น เจ้าตัวอยู่ระหว่างเตรียมทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่ง โคลอมเบีย ยกพลไปเยือน อาร์เจนตินา
รายงานข่าวระบุว่า แม้ ดิอาซ จะอยู่ระหว่างเก็บตัวแคมป์ทีมชาติ แต่สมาคมลูกหนังโคลอมเบียให้ความร่วมมือกับลิเวอร์พูลเต็มที่ จนในที่สุด ขั้นตอนทุกอย่างก็เรียบร้อยทันเวลา พร้อมกับภาพการชูเสื้อลิเวอร์พูลของดิอาซ แม้จะเป็นภาพที่ดูฉุกละหุก เหมือนถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือ แถมภาพยังดูแตกๆ อีกต่างหาก แต่อย่างน้อยก็เป็นภาพให้เดอะค็อปทั่วโลกได้รับรู้ว่า "หลุยส์ ดิอาซ" คือสมาชิกใหม่ในถิ่นแอนฟิลด์อย่างเป็นทางการแล้ว