โลกตะลึง ทหารรับจ้าง Azov จับเด็กทารก เด็กเล็ก ผู้หญิง เป็นตัวประกันโล่มนุษย์จริง
ตามภาพ เด็กเล็กที่ถูกพวก Azov จับเป็นตัวประกัน ได้อยู่ในการอารักขาของทหารฝ่ายรัสเซียแล้ว
ในช่วงแรกที่กองทัพรัสเซีย ปฏิบัติการพิเศษปลดปล่อยชาวสลาฟเชื้อสายรัสเซีย ออกจากการปกครองของยูเครนนั้น มีการระบุถึงการปราบปรามกำจัดทหารรับจ้าง Azov Neonazi ที่เป็นกองพลน้อยของ NATO ในยูเครน ว่าพวกนี้มีจิตใจโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ พอๆ กับกลุ่มทหารรับจ้าง ISIS ของ NATO ในซีเรีย อิรัก ที่เคยโด่งดังเมื่อ 7 ปีก่อน และถูกรัฐบาลซีเรีย ร้องขอกองทัพรัสเซีย ไปกำจัดเป็นปุ๋ยจนสิ้นซากในเวลาแค่ 10 เดือนเท่านั้น แต่ชาวโลกก็ยังถูกสื่อตะวันตกครอบงำจนนึกภาพความโหดนั้นองพวก Azov ไม่ออก
จนเมื่อกองทัพพันธมิตรรัสเซีย กำจัดพวก Azov ในเมืองท่ามาริอูปัล ที่เป็นเสมือน Head Office NATO แห่งหนึ่งในยูเครน จนพ่ายแพ้ราบคาบกลายเป็นปุ๋ยชีวภาพไปราว 4,000 ราย
หนีกลับออกไปทางโปแลนด์ราว 1,500 ราย และติดค้างเป็น"มนุษย์ถ้ำ"ในห้องไต้ดินโรงงานเหล็กอาชอฟสตาล อีกเกือบ 2,000 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บหนัก 600 ราย และทนพิษบาดแผลไม่ไหวทะยอยกลับไปเก่าไปเรื่อยๆ ภายในห้องไต้ดินต่างๆ ที่เหม็นเน่าคละคลุ้งนั้น ซึ่งถ้ามีแต่พวก Azov อย่างเดียวอยากจะเป็นมนุษย์ถ้ำนานเท่าใดรัสเซียก็ไม่สนใจ ปิดล้อมอยู่แบบนี้ถล่มนวดด้วยปืนใหญ่นำวิถีไปเรื่อยๆ
แต่ที่สำคัญคือ "ตัวประกันพลเรือน" ที่รัสเซียรว่าเป็นเด็กทารก เด็กเล็ก ผู้หญิง คนชรา เพราะภายหลังรัสเซียควบคุมความสงบของเมืองมาริอูปัล ได้ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.65 ชาวเมืองทุกคนจำนวนมากให้การเป็นเสียงเดียวสอดคล้องกันว่า พวกทหารรับจ้าง Azov NATO พวกนี้โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ประหารชีวิตผู้คนในเมืองตามใจชอบ แล้วจี้จับตัวพลเรือนรอบโรงงานเหล็ก เป็นตัวประกันกวาดต้อนเข้าไปเป็นโล่มนุษย์ในถ้ำห้องใต้ดินโรงงานเหล็กปาน "เขาวงกต" นั้น ถึงตอนนี้ชาวตะวันตกก็ยังไม่เชื่อกันนัก เพราะสหรัฐ และ NATO สร้างภาพว่าพวก Azov นี้คือฮีโร่มาตลอด
แต่พลันภาพตัวประกันที่สามารถทะยอยออกมาจากถ้ำห้องใต้ดินโรงงานเหล็กแห่งนั้นได้ตอนนี้ราว 214 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กทารก และเด็กเล็ก 33 คน ที่เหลือเป็นผู้หญิง คนชรา
และพบผู้ต้องสงสัยเป็นชายฉกรรจ์แข็งแรงปะปนออกมาในแต่ละรอบ ชาวโลกจึงฮือฮาตาสว่าง ว่าที่รัสเซียบอกมาตลอดคือความจริง ที่ทหารรับจ้าง Azov จับตัวประกันพลเรือนเด็กๆ เหล่านี้ไว้นานถึง 2 เดือนในถ้ำห้องใต้ดินนั้น โดยไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ความโหดเหี้ยมจึงประจักษ์หลักฐานต่อชาวโลกครั้งแรก
ไม่ว่าฝ่ายยูเครนจะเคลมผลงาน หรืออ้างใดๆ แต่ตัวประกันพลเรือนเหล่านี้ก็คือตัวประกันมีตัวตนตามที่รัสเซียบอกมานานแล้วและยูเครนปฏิเสธมาตลอด
ภาพเจ้าหน้าที่กาชาดสากล และ UN เป็นสักขีพยาน เพื่อไม่ให้ฝ่ายยูเครน และสหรัฐ โยนบาปให้รัสเซียอีก
ทุกคนจะถูกเคลื่อนย้ายจากเขตโรงงานเหล็กแหล่งขังตัวประกัน แยกตัวไปที่หมู่บ้าน Bezymennoe ห่าง 30 กม.ตะวันออกชานเมืองมาริอูปัล ทางกองทัพรัสเซีย จะตรวจสอบ พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายภาพ ค้นหาโทรศัพท์ สอบปากคำ ตรวจสอบหนังสือเดินทาง ทะเบียนในฐานข้อมูลข่าวกรองรัสเซียว่าแท้จริงเป็นใคร ถ้าเป็นพลเรือนจริงๆ และประสงค์จะไปอยู่ยูเครน รัสเซียจึงจะส่งมอบตัวให้กับคณะสหประชาชาติ (UN) และกาชาดสากล แยกเดินทางต่อไปที่เมือง Zaporozhye ห่างไป 227 กม.จากเมืองมาริอูปัล
ส่วนพลเรือนที่หวาดกลัวทางการยูเครน และพวก Azov จะตามมาประหารชีวิตปิดปากภายหลัง จะมีอิสระเลือกอย่างเสรีจะไปพำนักที่ใดก็ได้ในเขตรัสเซีย บางคนก็เลือกจะไปอยู่ที่ไครเมีย และเมืองชายแดนต่างๆ ของรัสเซีย
ส่วนผู้ต้องสงสัยชายฉกรรจ์ ที่อาจตีเนียนออกมาพร้อมพลเรือนนั้น จะถูกตรวจเข้มถ้าพบว่าเป็นชาวต่างชาติ หรือทหารรับจ้าง Azov ชาวยูเครน จะถูกแจ้งความผิดและจับกุมส่งไปควบคุมตัวยังสาธารณรัฐโดเนตสก์ ชาวยูเครนจะมีสถานะเชลยสงคราม แลกตัวประกันระหว่าง 2 ฝ่าย
แต่ชาวต่างชาติจะโดนต้องโทษประหารชีวิต หรือ จำคุกไซบีเรียที่หนาวเย็น..
สรุป ทหารรับจ้าง Azov ไม่ใช่ฮีโร่ ตามที่สื่อตะวันตกสร้างภาพมาตลอด
ภาพทหารรับจ้าง Azov ที่ตีเนียนแฝงตัวออกมา และถูกทหารรัสเซียสอบสวน จนจับผิดได้ จึงถูกควบคุมตัวแยกไป
แต่จากหลักฐานนี้เป็นแค่ผู้ก่อการร้ายอุกฉกรรจ์ที่โหดเหี้ยม จับเด็กทารก เด็กเล็ก ผู้หญิงเป็นตัวประกันโล่มนุษย์เท่านั้นเอง 😁😁
ที่มา : RT , Sputnik, Reuters, กลาโหมรัสเซีย #WorldUpdate
https://www.facebook.com/112136971373318/posts/147011774552504/
โลกตะลึง ทหารรับจ้าง Azov จับเด็กทารก เด็กเล็ก ผู้หญิง เป็นตัวประกันโล่มนุษย์จริง
ตามภาพ เด็กเล็กที่ถูกพวก Azov จับเป็นตัวประกัน ได้อยู่ในการอารักขาของทหารฝ่ายรัสเซียแล้ว
ในช่วงแรกที่กองทัพรัสเซีย ปฏิบัติการพิเศษปลดปล่อยชาวสลาฟเชื้อสายรัสเซีย ออกจากการปกครองของยูเครนนั้น มีการระบุถึงการปราบปรามกำจัดทหารรับจ้าง Azov Neonazi ที่เป็นกองพลน้อยของ NATO ในยูเครน ว่าพวกนี้มีจิตใจโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ พอๆ กับกลุ่มทหารรับจ้าง ISIS ของ NATO ในซีเรีย อิรัก ที่เคยโด่งดังเมื่อ 7 ปีก่อน และถูกรัฐบาลซีเรีย ร้องขอกองทัพรัสเซีย ไปกำจัดเป็นปุ๋ยจนสิ้นซากในเวลาแค่ 10 เดือนเท่านั้น แต่ชาวโลกก็ยังถูกสื่อตะวันตกครอบงำจนนึกภาพความโหดนั้นองพวก Azov ไม่ออก
จนเมื่อกองทัพพันธมิตรรัสเซีย กำจัดพวก Azov ในเมืองท่ามาริอูปัล ที่เป็นเสมือน Head Office NATO แห่งหนึ่งในยูเครน จนพ่ายแพ้ราบคาบกลายเป็นปุ๋ยชีวภาพไปราว 4,000 ราย
หนีกลับออกไปทางโปแลนด์ราว 1,500 ราย และติดค้างเป็น"มนุษย์ถ้ำ"ในห้องไต้ดินโรงงานเหล็กอาชอฟสตาล อีกเกือบ 2,000 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บหนัก 600 ราย และทนพิษบาดแผลไม่ไหวทะยอยกลับไปเก่าไปเรื่อยๆ ภายในห้องไต้ดินต่างๆ ที่เหม็นเน่าคละคลุ้งนั้น ซึ่งถ้ามีแต่พวก Azov อย่างเดียวอยากจะเป็นมนุษย์ถ้ำนานเท่าใดรัสเซียก็ไม่สนใจ ปิดล้อมอยู่แบบนี้ถล่มนวดด้วยปืนใหญ่นำวิถีไปเรื่อยๆ
แต่ที่สำคัญคือ "ตัวประกันพลเรือน" ที่รัสเซียรว่าเป็นเด็กทารก เด็กเล็ก ผู้หญิง คนชรา เพราะภายหลังรัสเซียควบคุมความสงบของเมืองมาริอูปัล ได้ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.65 ชาวเมืองทุกคนจำนวนมากให้การเป็นเสียงเดียวสอดคล้องกันว่า พวกทหารรับจ้าง Azov NATO พวกนี้โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ประหารชีวิตผู้คนในเมืองตามใจชอบ แล้วจี้จับตัวพลเรือนรอบโรงงานเหล็ก เป็นตัวประกันกวาดต้อนเข้าไปเป็นโล่มนุษย์ในถ้ำห้องใต้ดินโรงงานเหล็กปาน "เขาวงกต" นั้น ถึงตอนนี้ชาวตะวันตกก็ยังไม่เชื่อกันนัก เพราะสหรัฐ และ NATO สร้างภาพว่าพวก Azov นี้คือฮีโร่มาตลอด
แต่พลันภาพตัวประกันที่สามารถทะยอยออกมาจากถ้ำห้องใต้ดินโรงงานเหล็กแห่งนั้นได้ตอนนี้ราว 214 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กทารก และเด็กเล็ก 33 คน ที่เหลือเป็นผู้หญิง คนชรา
และพบผู้ต้องสงสัยเป็นชายฉกรรจ์แข็งแรงปะปนออกมาในแต่ละรอบ ชาวโลกจึงฮือฮาตาสว่าง ว่าที่รัสเซียบอกมาตลอดคือความจริง ที่ทหารรับจ้าง Azov จับตัวประกันพลเรือนเด็กๆ เหล่านี้ไว้นานถึง 2 เดือนในถ้ำห้องใต้ดินนั้น โดยไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ความโหดเหี้ยมจึงประจักษ์หลักฐานต่อชาวโลกครั้งแรก
ไม่ว่าฝ่ายยูเครนจะเคลมผลงาน หรืออ้างใดๆ แต่ตัวประกันพลเรือนเหล่านี้ก็คือตัวประกันมีตัวตนตามที่รัสเซียบอกมานานแล้วและยูเครนปฏิเสธมาตลอด
ภาพเจ้าหน้าที่กาชาดสากล และ UN เป็นสักขีพยาน เพื่อไม่ให้ฝ่ายยูเครน และสหรัฐ โยนบาปให้รัสเซียอีก
ทุกคนจะถูกเคลื่อนย้ายจากเขตโรงงานเหล็กแหล่งขังตัวประกัน แยกตัวไปที่หมู่บ้าน Bezymennoe ห่าง 30 กม.ตะวันออกชานเมืองมาริอูปัล ทางกองทัพรัสเซีย จะตรวจสอบ พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายภาพ ค้นหาโทรศัพท์ สอบปากคำ ตรวจสอบหนังสือเดินทาง ทะเบียนในฐานข้อมูลข่าวกรองรัสเซียว่าแท้จริงเป็นใคร ถ้าเป็นพลเรือนจริงๆ และประสงค์จะไปอยู่ยูเครน รัสเซียจึงจะส่งมอบตัวให้กับคณะสหประชาชาติ (UN) และกาชาดสากล แยกเดินทางต่อไปที่เมือง Zaporozhye ห่างไป 227 กม.จากเมืองมาริอูปัล
ส่วนพลเรือนที่หวาดกลัวทางการยูเครน และพวก Azov จะตามมาประหารชีวิตปิดปากภายหลัง จะมีอิสระเลือกอย่างเสรีจะไปพำนักที่ใดก็ได้ในเขตรัสเซีย บางคนก็เลือกจะไปอยู่ที่ไครเมีย และเมืองชายแดนต่างๆ ของรัสเซีย
ส่วนผู้ต้องสงสัยชายฉกรรจ์ ที่อาจตีเนียนออกมาพร้อมพลเรือนนั้น จะถูกตรวจเข้มถ้าพบว่าเป็นชาวต่างชาติ หรือทหารรับจ้าง Azov ชาวยูเครน จะถูกแจ้งความผิดและจับกุมส่งไปควบคุมตัวยังสาธารณรัฐโดเนตสก์ ชาวยูเครนจะมีสถานะเชลยสงคราม แลกตัวประกันระหว่าง 2 ฝ่าย
แต่ชาวต่างชาติจะโดนต้องโทษประหารชีวิต หรือ จำคุกไซบีเรียที่หนาวเย็น..
สรุป ทหารรับจ้าง Azov ไม่ใช่ฮีโร่ ตามที่สื่อตะวันตกสร้างภาพมาตลอด
ภาพทหารรับจ้าง Azov ที่ตีเนียนแฝงตัวออกมา และถูกทหารรัสเซียสอบสวน จนจับผิดได้ จึงถูกควบคุมตัวแยกไป
แต่จากหลักฐานนี้เป็นแค่ผู้ก่อการร้ายอุกฉกรรจ์ที่โหดเหี้ยม จับเด็กทารก เด็กเล็ก ผู้หญิงเป็นตัวประกันโล่มนุษย์เท่านั้นเอง 😁😁
ที่มา : RT , Sputnik, Reuters, กลาโหมรัสเซีย #WorldUpdate
https://www.facebook.com/112136971373318/posts/147011774552504/