เกริ่นนำก่อนเลยนะคะ   เมื่อก่อนฐานะทางบ้านเราค่อนข้างยากจน  ตอนเรียนมัธยมและมหา'ลัย ได้เงินจากที่บ้านจำนวนจำกัดมาก ๆ  แค่วันละ 100 บาทเท่านั้น  จ่ายค่ารถประจำทางก็หมดแล้ว  ปิดเทอมจะหางานพิเศษทำ ที่บ้านก็ห่วงไม่ให้ไปไหนเลยค่ะ   ทำให้เราไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ 
   
     พอเราเรียนจบ โชคดีที่สอบติดข้าราชการทันที  ทำงานได้สักระยะเราก็มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง  ซึ่งเงินเก็บเหล่านี้  เราก็ใช้เติมเต็มในสิ่งที่ขาดหาย เช่น พาครอบครัวไปทานอาหารอร่อย ๆ ต่อเติมบ้านบ้าง  ซื้อครีมบำรุงต่าง ๆ  บ้างก็ช่วยค่ากับข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ  
   
     จนวันหนึ่ง เราอยากมีรถขับไปทำงานบ้าง จะได้ไม่เปียกฝน   เราจึงไปกู้ธนาคารมา350,000 เราก็ซื้อรถมือสองสภาพดีมาขับค่ะ  (รถบ้านซื้อต่อญาติ) ผ่อน 5 ปีดาวน์ไป 100,000 ค่ะ  (ราคารถ 400,000) ทีนี้มันทำให้เรามีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นค่ะ  ทั้งช่วยทางบ้าน ทั้งจ่ายค่ารถ  และธนาคารหักออกไป  แต่เราไม่เคยไปค้ำประกันใครนะคะ  
   
    ทำงานมาได้ 4 ปี ก็มีแฟนค่ะ เราคบกันมาสักระยะหนึ่ง(ไม่ได้อยู่ด้วยกัน) ตอนแรกก็ไม่ได้บอกเรื่องที่เราไปกู้มาค่ะ เพราะเราคิดว่า เรารับผิดชอบเองได้   พอแฟนมารู้ ก็หาว่าเราปิดบัง  และโกรธเรา  แฟนบอกผิดหวังกับเราที่เรามีหนี้ค่ะ   แต่เราไม่เคยเบียดเบียนเขาเลยนะคะ  เรารับผิดชอบหนี้เราเองทั้งหมด  ไม่เคยขอแฟนเลย   เราสงสารแฟนนะคะ  ไม่อยากให้เขาต้องมาทุกข์ใจเลย  เรารักเขามาก ๆ เราก็คุยกันแล้ว แต่แฟนก็ดูไม่แจ่มใสเช่นเคย 
 
   ตอนนี้เราชะลอการให้กับครอบครัวลงไป ครอบครัวก็เข้าใจเรานะคะ   ตอนนี้เราขยันขึ้นสองเท่า ทั้งงานประจำแล้วก็หารายได้เสริมโดยการขายของ  ก็พอมีกำไรบ้างเล็กน้อย  และเราไม่ก่อหนี้เพิ่มค่ะ  
     
     ขอถามเพื่อน ๆ ว่า  สมมุติแฟนคุณประสบปัญหาแบบนี้  คุณจะยังอยากคบกับแฟนอยู่ไหมคะ

** ข้อความเพิ่มเติม**  6/5/65  (14.24น.)
      ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นนะคะ  ตอนนี้คุยกับแฟนเรียบร้อยค่ะ ถึงเหตุผลต่าง ๆ ที่เรามีหนี้  ด้วยเราอายุ 30  ปีเท่ากันทั้งคู่ อยู่ในวัยสร้างตัว ทำให้เรากับแฟนต่างก็มีหนี้ของตนเอง และมีก่อนที่จะเจอกันด้วยค่ะ   คือเราบอกเค้าว่า  เราก็ต้องบริหารจัดการเงิน และวางแผนการเงินให้ดี ประคองตนเองกันไปก่อน  เราตกลงกันว่า ถ้าอยากมีอนาคตที่ดีกับเรา  ก็ต้องพยายามทั้งคู่นะ พอมีเวลาว่าง ค่อยมาเจอกัน ไปเที่ยวกัน แล้วเราแชร์กันดีกว่า เค้าก็รับฟังดีค่ะ
       เราทั้งคู่ก็ไม่ใช่คนรวยนะคะ แค่งานมั่นคงแค่นั้น ส่วนใหญ่ตอนไปเที่ยว เราจะแชร์กันค่ะ เราไม่เบียดเบียนการเงินเค้า
    ตัวเราเอง อีก 10 เดือน ก็ผ่อนรถหมดแล้วค่ะ เราก็จะมีเงินเก็บ และจะวางแผนการใช้เงินในอนาคตให้ดีค่ะ