ไหนใครคิดถึงญี่ปุ่นบ้างยกมือขึ้นนนน ?? ถ้าเรามีสิบมือก็จะยกสิบมือเลยค่ะ เพราะคิดถึงมากกก TT ด้วยความที่ตอนนี้ไปไหนไม่ได้ แม้แต่ต่างจังหวัดก็ไม่กล้าออกไปเที่ยว เลยขอมาเขียนทริปญี่ปุ่นที่เราไปมาเมื่อปลายปี 2019 ก่อนจะเกิดโควิดแบบเฉียดฉิวเลยค่ะ จริง ๆ ว่าจะเขียนตั้งแต่กลับมาแล้ว แต่ยังไม่มีเวลา จนผ่านไปสองปีแล้ว 55555 ตามมาเที่ยวทิพย์กันเลยค่ะ ^^

เหมือนทุก ๆ ทริปรวมทริปนี้เราจะไปกับครอบครัวของแฟนเราค่ะ ทั้งหมด 8 คน (ปกติเราจะเขียนทริปเที่ยวไว้อีกแอคเค้าท์นึง แต่โดนบล็อกไปกู้คืนไม่ได้ แอบเสียดายกระทู้เที่ยวหลาย ๆ ที่มาก TT) อันนี้เป็นตารางเที่ยวของเราตลอดทริปแบบคร่าว ๆ แพลนบางแพลนก็จะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์นั้น ๆ เลย แต่จังหวัดจะเป็นตามแพลนเลยจ้า

เราบินกันตีสองเพื่อให้ไปถึงที่นู่นตอนเช้าพอดี ปกติเวลาเที่ยวแล้วต้องบินนาน ๆ ก็จะเลือกว่าประมาณนี้เหมือนกันทุกครั้งค่ะ เวลาถึงจะได้เก็บของเข้าที่พักและเที่ยวกันเลย เอาให้คุ้มที่สุด 555555

ครั้งนี้เป็นการมานาโกย่าครั้งแรกของเราและทุกคนในทริปเลยค่ะ ลงสนามบินนาโกย่า เดินทางจากสนามบินด้วย First Class Car ไปยัง Meitetsu Nagoya

และนี่คือภาพบรรยากาศเมืองนาโกย่า จุดที่ตั้งของโรงแรมที่เราจะมาพักกันค่ะ เดินจากสถานีไม่ไกลมากเท่าไร ถึงแม้จะต้องลากกระเป๋าคนละใบก็สบายค่ะ บวกกับอากาศเย็น ๆ 12 องศายิ่งเดินชิลเลย

แต่ก่อนจะเข้าที่พักเราก็แวะหาอะไรกินก่อนค่ะ ลงเครื่องมายังไม่ได้กินอะไรกันเลย แล้วก็ไปเจอร้านนี้ระหว่างทางที่เดินไปโรงแรม แล้วใกล้โรงแรมมากกก (ลืมถ่ายรูปหน้าร้านมา เจอแต่รูปนี้ 5555) เป็นร้านอาหารแบบพวกข้าวหน้าต่าง ๆ ค่ะ เปิด 24 ชั่วโมงด้วย แถมราคาไม่แพงด้วยทุกคน ดีงามสุด ๆ

ภายในร้านก็จะเป็นแบบนี้ มีโต๊ะสำหรับนั่งคนเดียว และนั่งหลายคนค่ะ ที่นี่เป็นแบบเดินไปสั่งและจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ และไปรับอาหารเอง เป็นแบบบริการตัวเอง เมนูค่อนข้างเยอะนะ เรียกได้ว่ากลายเป็นร้านที่เราฝากท้องไว้หลายมื้อมาก ๆ เลยค่ะ ระหว่างที่พักอยู่นาโกย่า

เมนูค่อนข้างเยอะนะคะ มีทั้งแบบเป็นจานเดี่ยว หรือแบบเป็นเซ็ตเลย เซ็ตนึงเริ่มต้น 590 เยนค่ะ จานเดี่ยวเริ่มต้น 240 เยนเอง ส่วนตัวเราว่าค่อนข้างถูกนะ

กินกันอิ่มแล้วก็เดินทางต่อ เพื่อเอาของมาเก็บที่โรงแรมค่ะ สองวันที่นาโกย่าเราจะพักกันที่ Smile Hotel Nagoya เป็นโรงแรมขนาดกลาง อยู่ติดทางเดินเลย เดินทางสะดวกมากค่ะ เราไม่ได้ถ่ายหน้าโรงแรมแบบดี ๆ มาเลย มีแต่รูปที่กำลังข้าวถนนไปโณงแรม ตึกสูง ๆ นั่นคือ Smile Hotel ที่พักของเราสองวันที่นาโกย่าค่ะ ! 

ห้องขนาดกลาง ๆ วิวของห้องเราเป็นตึกจอดรถค่ะ 555555 อุปกรณ์ในห้องมีให้ครบครันเลย ชุดนอน ผ้าเช็ดตัว แชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำ มีพวกน้ำเปล่า กาแฟดำ กาน้ำร้อน ไดร์เป่าผมให้พร้อมค่ะ ข้างล่างโรงแรมจะมีพวกใยขัดตัว อุปกรณ์อาบน้ำอื่น ๆ ให้ เราสามารถหยิบได้เลย ที่นี่มีบริการอาหารเช้านะคะ เป็นบุฟเฟ่ต์ แต่เราไม่ได้จองแบบมีอาหารเช้ามาค่ะ

สถานีต่อไปของเราคือ The Nagoya Castle ค่ะ เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Higashiyama Subway Line ไปลงที่ Sakae Station แล้วเปลี่ยนไปนั่งสาย Meijo Subway Line ไปลงที่ Shiyakusho Station ออกจากสถานีมาเดินอีกนิดก็จะถึงทางเข้าแล้วค่ะ 

ระหว่างทางเดินก็จะมีป่ายบอกทางไปปราสาทเป็นระยะ ๆ เลยค่ะ ไม่ต้องกลัวหลงเลย

อันนี้เราซื้อตั๋วเพิ่มกันเอง

อากาศดีมากกกกกกก

เอารูปน้องแมวที่ถ่ายไว้ตลอดทางเดินมาฝากค่ะ แมวที่นี่ไม่ขี้เล่น แต่ก็ไม่ดุนะคะ ตัวฟูมากก 55555

สิ่งแรกที่เราทำตอนมาถึงก็ครื้อออออ กินอีกแล้วค่ะทุกคนนนน 55555

รอบ ๆ และระหว่างทางเดินปราสาทมีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เยอะเลย วันที่เราไปเค้ากำลังจะจัดงานเทศกาลอะไรสักอย่าง แต่งานจะเริ่มอีกประมาณ 2-3 วันเลย เสียดายมาก ๆ อากาศร่มเย็น ต้นไม้เยอะมากกก ชอบความเล่นใหญ่ของคุณนินจามากค่ะ ถ่ายรูปกับนินจาฟรีนะคะ พ่อกับแม่แฟนก็เล่นใหญ่ไม่แพ้กัน 555555

มีร้านขายของฝากตามจุดทางเดินหลายร้านค่ะ มีศาลเจ้าที่ขายเครื่องรางด้วย

เราอยู่ที่นี่ไม่ได้นานมาก เดินเล่นรับลม ถ่ายรูปกันจนหนำใจก็เดินทางไปต่อค่ะ ระหว่างทางเดินกลับก็แวะกินอีกแล้วจ้าาาา จริง ๆ เค้ามีร้านอาหารระหว่างทางเข้าเยอะเลย แต่หลาย ๆ ร้านยังไม่เปิด ไม่แน่ใจว่าเค้าเปิดเย็น หรือวันนั้นเป็นวันหยุด 55555 แล้วก็มาเจอร้านไอศกรีมอันนี้ค่ะ

อร่อยยยยยยยยย เติมพลังแล้วพร้อมไปต่อจ้าาาา สถานีต่อไปของเราจะเดินทางไปที่ Nagoya Tower ค่ะ เดินทางโดยรถไฟใต้ดินเหมือนเดิม ขึ้นรถใต้ดินสาย Higashiyama มาลงที่สถานี Sakae ได้เลยค่ะ ย่านนี้จะมีแลนมาร์คที่ดัง ๆ อย่าง Oasis 21, Nagoya TV Tower

มาถึงย่านซาคาเอะ เราก็ตรงมาดูวิวของเมืองสวย ๆ ที่ Oasis 21  กันเลยค่ะ มีพวกร้านขายของสะสม โมเดลการ์ตูน อะนิเมะต่าง ๆ เยอะเลย เราขึ้นกันมาข้างบนสุดที่เป็นพื้นกระจก สวยสุด ๆ แล้วลมเย็นมากกก หนาวแบบเดินสั่นกันเลย จากบนนี้จะมองเห็นวิวของ Nagoya TV Tower ด้วยค่ะ แอบเสียดายที่ไม่ได้ขึ้นไปชมวิวบนนั้น เดิน ๆ กันไปสักพักก็ไปเดินหาอะไรกินบริเวณรอบ ๆ กัน !

เดินหากันอยู่นานมากกกกกกกกกกก ส่วนตัวเราว่าร้านแถว ๆ นี้ไม่ค่อยเยอะมากเท่าไรคะ ไม่ก็จะเป็นร้านแบบร้านดื่มซะมากกว่า เราต้องหาร้านอาหารธรรมดาเพราะว่าพี่สะใภ้กำลังท้อง แถมยังมีผู้สูงอายุอีกสองคนด้วย สุดท้ายมาจบที่ร้านราเมนร้านนี้ค่ะ

ช้อนแบบห้ามซดน้ำ 555555 แซววววว

รสชาติดีเลยค่ะ บวกกับความหิวเพราะเดินกันทั้งวันด้วย เลยอร่อยเข้าไปอีก 555555 กินเสร็จเราก็ไปส่งคุณพ่อ คุณแม่ที่โรงแรม ตอนแรกก็คืออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าไม่อยากนอน อยากไปเดินเล่นแถว ๆ ที่พักก็ยังดี เลยนัดกันกับวัยรุ่นทั้งสี่คนว่าจะไปเดินเล่นกันค่ะ ฮ่าาาาา

รอบ ๆ โรงแรมที่เราพักคือตึก และห้างเยอะมากกกกก แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเวลาประมาณ 3 ทุ่มแล้วค่ะ เลยทยอยปิด ๆ ไป แต่ก็จะยังมีร้านอาหาร ร้านอิซากายะเปิดอยู่ เดินเล่นกันไปเรื่อย ๆ เก็บภาพ ชมวิว ชมเมืองกันสักพัก แน่นอนว่า หิวจ้าาาาาาาา ใครเป็นบ้างคะ เวลาไปเที่ยวต่างที่ รู้สึกเจริญอาหารเป็นพิเศษ กินทั้งวัน กินแล้วกินอีก ฮ่าาาาาาาาา และจากที่เดินหาของกิน สุดท้ายก็มาจบที่ร้านไก่ทอดค่ะ ร้านรูปที่สี่ที่เราลง เปิดไฟแบบสว่างไสวเชิญชวน กลิ่นไก่ทอดหอมโชยมาตามลมเย็น ๆ มาก

ตอนเห็นโลโก้ก็แอบเอ้ะ ๆ คุ้น ๆ นึกไปนึกมาจำได้ว่ากรุงเทพมีนี่หน่าาาาาาาาาาา ตอนแรกกะว่าจะเข้าไปนั่งกินในร้าน พอเปิดเข้าไปก็คือนอกจากกลิ่นไก่ก็กลิ่นบุหรี่อบอวลมากกกกก เลยถอยทับออกมารอหน้าร้าน ส่งตัวแทนเข้าไปสั่งแล้วเอามายืนกินข้างนอกดีกว่าค่ะ

มาเป็นแพ็คเกจกล่องแบบน่ารักมั่ก

สั่งมาเป็นชุดเล็ก กะว่ากินขำ ๆ เฉย ๆ สรุปคืออร่อยมากกกกกกก แบบอร่อยจริง ๆ นะ กะว่ากลับไทยจะไปลองร้านที่ไทยบ้าง ว่ารสชาติเหมือนกันมั้ย

ยืนกินมันข้าง ๆ ร้านนี่แหละ 5555555 สุดท้ายคือไม่อิ่มจ้าาา แล้วดันหิวกว่าเดิมไปอีก พวกเราเลยตั้งฉายาว่าไก่เบิกเนตรค่ะ เบิกเนตรแบบกินแล้วไม่อิ่มแถมหิวกว่าเดิม ถามว่าทำไมไม่ซื้อเพิ่ม เอาจริงเลยคือราคาค่อนข้างสูง เราจะมาใช้เงินหมดตั้งแต่วันแรกไม่ด้ายยยย ฮ่าาาา เลยต้องเดินย้อนกลับไปกินข้าวร้านเดิมที่เรากินกันตอนมาถึง ยังดีที่ร้านนั้นเปิด 24 ชั่วโมง เลยมีของให้กินค่ะ จากนั้นก็กลับโรงแรม นอนพักผ่อนเก็บแรงไว้เที่ยววันต่อไป เย้ !

แนบรูปวิวจากห้องพักของเราค่ะ เป็นตึกจอดรถ และตึกอะไรสักอย่าง แถวนี้บริษัทเยอะนะคะ เราเห็นที่ร้านที่เราไปกินก็มีแต่คนใส่ชุดพนักงานบริษัทมากิน 

ปะ นอนเก็บแรงกัน ^^ ต่อด้านล่างเลยนะคะ ตัวอักษรเกินแล้วววววว