สวัสดีค่ะ เราจะมารีวิวศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต 

เราขอเกริ่นก่อนนะว่าเราเป็นคนที่มีตา 2 ชั้น อยู่แล้ว แต่มันหลบใน ซึ่งจะทาตาหรือกรีดตาไป คือเปลืองเครื่องสำอางมาก 
เพราะมันมองไม่เห็นเลยจ้าาา.... หลบอยู่ข้างในหมดเลย 55555

(อันนี้ภาพก่อนทำ ชั้นตาน้องจะแอบข้างในทำไมไม่รู้ ละพอมองแล้วชั้นตา 2 ข้างไม่เท่ากันอีก)
มันก็เลยมีความคิดนึงขึ้นมาว่า ทำตา 2 ชั้นดีป่ะว่ะ?? มันน่าจะมองเห็นชั้นตามากขึ้นน้าา.. ก็เลยเข้าขั้นตอนศึกษาหาข้อมูลจากหลายๆที่ ละพอยิ่งหาข้อมูลไปเรื่อยๆ มันก็เจอเคสที่มีปัญหา แบบทำตามาละออกมาเป็นหอยแครงบ้าง ทำมาแล้วไหมที่ผูกไว้หลุดบ้าง เป็นคีลอยด์ตรงตาบ้าง

ซึ่งเราตัดสินใจอยู่นานมากกก.... ว่าจะทำดีมั้ย!! เพราะเรากลัวเจ็บ เรากลัวต้องพักฟื้นนานๆ กลัวทำออกมาแล้วจะมีข้อผิดพลาด บลาๆๆๆ~

จนมาเจอที่นึง เราเข้าไป Consult เรื่องตา 2 ชั้น เค้าเลยแนะนำว่าเรามีตา 2 ชั้นอยู่แล้ว แต่มันแค่หลบใน เพราะเนื้อตามันตกลงมาเลยทำให้เวลาแต่งหน้ามันมองไม่เห็นเครื่องสำอางที่แต่งไป 
แต่คุณหมอก็อธิบายให้เราฟังหมดทุก”คำ”ถามที่ค้างคาใจ คือยกคิ้วไม่จำเป็นจะต้องทำเฉพาะคนหน้าแก่ หน้าเหี่ยวเท่านั้น อย่างเราที่มีปัญหาตาตก เนื้อตาเยอะ ก็สามารถยกคิ้วได้ มันจะทำให้หน้าเราดูสดใสมากขึ้น ดูเด็กลงไปอีก

เราก็เลยเอาว่ะ น่าสนใจ เลยมาปรึกษาหมอเรื่องยกคิ้วแบบจริงๆจังๆ คุณหมอก็บอกว่า เราควรยกคิ้ว + ดึงหน้าMidface 
ที่ยกคิ้วก็เพราะ จะทำให้ชั้นตาที่หลบในอยู่นั้น สามารถเห็นชั้นตาชัดมากขึ้น 
ส่วนดึงกน้าMidface ด้วยก็เพราะ เราเป็นคนที่แก้มเยอะ มันเลยส่งผลให้มีร่องแก้มขึ้นมา ซึ่งอายุเรามันแค่เลข 2 เอง และแผลมันก็เป็นแผลที่เปิดจุดเดียวกัน
หมอเลยแนะนำว่าทำพร้อมกันไปเลย มันจะทำให้หน้าเด็กขึ้นเยอะเลย

สุดท้าย!!! เราก็ตัดสินใจ ((((ทำยกคิ้วเนี่ยแหละ)))) พร้อมลงนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย

และแล้วก็ถึงวันทำศัลยกรรมยกคิ้วจ้าาา...

(อันนี้ก็เป็นภาพบรรยากาศในห้อง OR นะคะ)

ตื่นมาอีกที ก็รู้สึกถึงความตึงหน้ามากๆ ละก็ง่วงมากๆ จากนั้นแฟนเราก็มารับกลับบ้าน ละก็หลับฝันดีไปเลย

ตื่นมาวันที่ 1 หลังทำยกคิ้ว : ตื่นมาก็รู้สึกตึงๆหน้า และพอมองกระจกก็คือเห็นถึงความเปลี่ยนไปมากๆเลย ตาเฉี่ยวขึ้นเยอะ และไม่ค่อยช้ำเลย

วันที่ 2 หลังทำยกคิ้ว : หน้าเริ่มมีอาการบวมขึ้นมา คือบวมตั้งแต่ช่วงหน้าผากจนถึงช่วงแก้มด้วย เพราะเราทำดึงหน้าMidfaceร่วมด้วย 

วันที่ 4 หลังทำยกคิ้ว : หน้าเริ่มยุบบวมลงมากแล้ว เค้าก็ไปทำงานได้ปกติเลย

วันที่ 6 หลังทำยกคิ้ว : หมอบอกว่าพยายามอย่านอนซมอยู่บ้านเค้าเลยออกมาเที่ยวทะเลสะเลย

วันที่ 8 หลังทำยกคิ้ว : ลงเล่นน้ำยังไม่ได้ เพราะ แผลยังโดนน้ำไม่ได้ ก็ขอเอาเท้าแตะน้ำทะเลสะหน่อยละกัน 5555

วันที่ 10 หลังทำยกคิ้ว : วันนี้ Off Max แล้วจ้า ไม่เจ็บเลย สบายๆเหมือนมดกัด

วันที่ 12 หลังทำยกคิ้ว : เริ่มเข้าที่ขึ้นมากแล้ว ละก็มีแต่คนทักว่า “นึกว่าแอบไปทำหน้าผากมาด้วย เพราะหน้าผากสวยมาก”

วันที่ 14 หลังทำยกคิ้ว : 2 สัปดาห์แล้ว เริ่มเข้าที่แบบเห็นได้เริ่มชัดแล้ว ไม่คิดว่าจะเข้าที่ได้เร็วมากขนาดนี้ ชอบตาตัวเองมากๆ หน้าผากก็คือเข้ากับหน้าไปอีก ละที่ดึงหน้าMidfaceไป ทำให้แก้มลดลงไปอีก

(และนี้ก็คือภาพรวมหลังทำยกคิ้ว 14 วันที่ผ่านมานะคะ)

ส่วนตัวเราชอบมากเลย ตอนนี้มีแต่คนทักว่าทำตา 2 ชั้นมาหรอ? ทำหน้าผากมาหรอ? ฉีดลดแก้มมาหรอ? แต่ป่าวเลยเราแค่ยกคิ้ว + ดึงหน้าMidface แค่นั้น คือมันทำให้เห็นผลแบบเกินคาดมากๆ

เราไม่ผิดหวังจริงๆที่มาปรึกษาและทำกับหมอหนอน ที่ Masterpiece Hospital มันคุ้มค่าจริงๆแหละมันทำให้เราแต่งหน้าง่ายขึ้นมาก ทาตา กรีดอาย ก็จะไม่มีปัญหาอีกต่อไป

(และนี่เป็นรูปปัจจุบันของเราหลังทำยกคิ้ว 25 วัน)

หวังว่าการรีวิวของเราจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆผู้ที่ได้เข้ามาอ่าน ได้นำไปเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นนะคะ

เผื่อใครมีปัญหาแบบเดียวกัน ลองไปปรึกษาหมอที่เชี่ยวชาญดูก่อนนะคะ
~ เพื่อนๆอาจจะไม่ต้องทำตา 2 ชั้นให้มีแผลที่เปลือกตาก็ได้
~ การยกคิ้วอาจตอบโจทย์เพื่อนๆมากกว่า แบบเราที่มีปัญหามีชั้นตาแล้วแต่กลบใน

และสุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านจนจบนะค้า ถ้าเราว่างๆ เดี๋ยวนี้จะมาอัพเดตหน้าให้ดูเพิ่มเติมกันนะ See U 👋🏻💗