สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
มีหลาน ก็หบานไม่แท้ล่ะนะครับ แม่เค้าไปท้องกับผู้ชายที่มีเมียแล้ว และแค่แอบมากินกันลับๆเฉยๆ ผู้ชายมาแต่งงานด้วยเป็นฉากหน้า มาตัวเปล่าเลยคนเดียว แต่งงานแล้วจากไป จนคลอดลูกออกมา ไม่เคยติดต่อกัน จนวันนึง หลานเข้าอนุบาล โดนเพื่อนล้อว่าไม่มีพ่อ ก็หัวร้อนไปต่อยตี เป็นเรื่องราวให้โรงเรียนเรียกไปพบ ได้ความว่า กดดันอยากมีพ่อ
แม่เค้าบอกกับลูกมาตลอดว่า มีพ่อแต่พ่อไม่อยู่ พอเด็กถามว่าพ่อไปไหน ก็ได้แต่บอกว่าไม่รู้ น้องบอกอยากเจอพ่อ แม่เค้าก็ตัดสินใจติดต่อไปหาผู้ชายคนนั้นซึ่งในเวลานั้นก็มีลูกของเค้าเองไปแล้ว ฝ่ายชายมาเยี่ยม นั่งคุยกับลูกชายที่ไม่เคยเจออยู่ชั่วโมงนึง ควักเงินให้ 500 บาท สั่งลาว่า "ขยันเรียนนะครับ"
ก่อนจะแยกจาก เด็กน้อยวิ่งไปถามพ่อว่า "พ่อจะมาหาหนูอีกมั้ย"
พ่อเขานิ่งไปแล้วบอกว่า "เป็นเด็กดีแล้วพ่อจะมาหานะ"
ผู้ใหญ่ตรงนั้นต่างก็รู้ว่า นี่คือการโกหกครั้งสุดท้ายของเค้าในฐานะพ่อของเด็กคนนี้
หลังจากนั้น การติดต่อทั้งหมดถูกตัดขาดลงไป เบอร์โทร อีเมล ทุกอย่างถูกเปลี่ยนแปลง ระงับไปทั้งสิ้น และตลกร้ายคือ ฝ่ายแม่ของเด็กไม่เคยรู้แม้แต่ชื่อจริง ที่อยุ่จริงๆของชายผู้นั้น ผ่านมาเกือบสิบปี เป็นที่แน่นอนแล้วว่า เด็กน้อยคนนี้จะไม่มีโอกาสได้เจอพ่อเค้าอีกในเร็วๆนี้แน่นอน
ผมเคยไปพบกับเด็กคนนี้ก่อนโควิดฯ เด็กน้อยอยู่ประถมแล้ว มาอวดการบ้านให้ดูพร้อมบอกว่า
"หนูเก่งมั้ย หนูตั้งใจเรียนเก่งแล้วพ่อจะมาหาหนู" มันเป็นประโยคที่สะเทือนใจมากๆครับ
เด็กคนนี้ ถามหาแบงค์ 500 ใบนั้นมาตลอด ถามแม่ว่า แม่ยังเก็บไว้มั้ย ขอดูได้มั้ย จนแม่ของเด็ก ต้องไปหาแบงค์แบบเดียวกันมาเก็บไว้ให้เค้า ... เพราะของจริงนั้นไซร้ แม่เค้าเอาไปซื้อข้าวให้กินตั้งนานแล้ว
เรื่องราวนี้สอนให้ผมรู้ว่า ชีวิต ที่อยู่บนความจริงมันอาจจะเจ็บปวดและไม่สวยหรู แต่มันดีกวา่ฝันที่ล่องลอยนะครับ
หรือไม่แน่...สำหรับเด็กคนนั้น ฝันที่เหมือนปุยเมฆล่องลอย อาจจะทำให้เป็นสุขกว่าก็ได้ ใครจะรู้
แม่เค้าบอกกับลูกมาตลอดว่า มีพ่อแต่พ่อไม่อยู่ พอเด็กถามว่าพ่อไปไหน ก็ได้แต่บอกว่าไม่รู้ น้องบอกอยากเจอพ่อ แม่เค้าก็ตัดสินใจติดต่อไปหาผู้ชายคนนั้นซึ่งในเวลานั้นก็มีลูกของเค้าเองไปแล้ว ฝ่ายชายมาเยี่ยม นั่งคุยกับลูกชายที่ไม่เคยเจออยู่ชั่วโมงนึง ควักเงินให้ 500 บาท สั่งลาว่า "ขยันเรียนนะครับ"
ก่อนจะแยกจาก เด็กน้อยวิ่งไปถามพ่อว่า "พ่อจะมาหาหนูอีกมั้ย"
พ่อเขานิ่งไปแล้วบอกว่า "เป็นเด็กดีแล้วพ่อจะมาหานะ"
ผู้ใหญ่ตรงนั้นต่างก็รู้ว่า นี่คือการโกหกครั้งสุดท้ายของเค้าในฐานะพ่อของเด็กคนนี้
หลังจากนั้น การติดต่อทั้งหมดถูกตัดขาดลงไป เบอร์โทร อีเมล ทุกอย่างถูกเปลี่ยนแปลง ระงับไปทั้งสิ้น และตลกร้ายคือ ฝ่ายแม่ของเด็กไม่เคยรู้แม้แต่ชื่อจริง ที่อยุ่จริงๆของชายผู้นั้น ผ่านมาเกือบสิบปี เป็นที่แน่นอนแล้วว่า เด็กน้อยคนนี้จะไม่มีโอกาสได้เจอพ่อเค้าอีกในเร็วๆนี้แน่นอน
ผมเคยไปพบกับเด็กคนนี้ก่อนโควิดฯ เด็กน้อยอยู่ประถมแล้ว มาอวดการบ้านให้ดูพร้อมบอกว่า
"หนูเก่งมั้ย หนูตั้งใจเรียนเก่งแล้วพ่อจะมาหาหนู" มันเป็นประโยคที่สะเทือนใจมากๆครับ
เด็กคนนี้ ถามหาแบงค์ 500 ใบนั้นมาตลอด ถามแม่ว่า แม่ยังเก็บไว้มั้ย ขอดูได้มั้ย จนแม่ของเด็ก ต้องไปหาแบงค์แบบเดียวกันมาเก็บไว้ให้เค้า ... เพราะของจริงนั้นไซร้ แม่เค้าเอาไปซื้อข้าวให้กินตั้งนานแล้ว
เรื่องราวนี้สอนให้ผมรู้ว่า ชีวิต ที่อยู่บนความจริงมันอาจจะเจ็บปวดและไม่สวยหรู แต่มันดีกวา่ฝันที่ล่องลอยนะครับ
หรือไม่แน่...สำหรับเด็กคนนั้น ฝันที่เหมือนปุยเมฆล่องลอย อาจจะทำให้เป็นสุขกว่าก็ได้ ใครจะรู้
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่สำคัญว่าลูกจะมีพ่อแม่ครบหรือไม่..ในบางครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่ครบ เด็กสามารถขาดความอบอุ่นได้เช่นกัน
อยู่ที่การเลี้ยงดูอบรมและ"เอาใจใส่"ของผู้ปกครองเลี้ยงเดี่ยว..
"มองหน้าลูกแล้วรู้สึกสงสาร" คุณไม่ได้สงสารลูก.. ที่คุณมีอารมณ์ที่เป็นลบแบบนี้ เพราะคุณกลัว(ซึ่งเป็นเรื่องปกติ)ต่อการเปลี่ยนแปลงและความไม่รู้ต่อสิ่งใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นกับลูกและตัวเอง
สำคัญมาก หากมีคนในครอบครัวคุณที่รัก เข้าใจและไว้ใจ เช่น พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ช่วยคุณในช่วงเริ่มต้นในทุกด้าน ที่สำคัญคือการได้รับการ support ทางด้านจิตใจ จะช่วยให้คุณมีกำลังใจและสามารถ focus ในสิ่งที่สำคัญมากขึ้น นั่นคือ ลูก และตัวคุณเอง
ฝึกตัวเองไม่ให้รู้สึก"สงสาร"ลูก เพราะความรู้สึกนี้จะเป็นตัวนำให้เราหลงทางในการเลี้ยงลูก
เวลาและกำลังใจดีดีจากคนรอบข้าง จะช่วยให้คุณเข้มแข็งขึ้นและ focus ในตัวลูกได้มากขึ้น
อยู่ที่การเลี้ยงดูอบรมและ"เอาใจใส่"ของผู้ปกครองเลี้ยงเดี่ยว..
"มองหน้าลูกแล้วรู้สึกสงสาร" คุณไม่ได้สงสารลูก.. ที่คุณมีอารมณ์ที่เป็นลบแบบนี้ เพราะคุณกลัว(ซึ่งเป็นเรื่องปกติ)ต่อการเปลี่ยนแปลงและความไม่รู้ต่อสิ่งใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นกับลูกและตัวเอง
สำคัญมาก หากมีคนในครอบครัวคุณที่รัก เข้าใจและไว้ใจ เช่น พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ช่วยคุณในช่วงเริ่มต้นในทุกด้าน ที่สำคัญคือการได้รับการ support ทางด้านจิตใจ จะช่วยให้คุณมีกำลังใจและสามารถ focus ในสิ่งที่สำคัญมากขึ้น นั่นคือ ลูก และตัวคุณเอง
ฝึกตัวเองไม่ให้รู้สึก"สงสาร"ลูก เพราะความรู้สึกนี้จะเป็นตัวนำให้เราหลงทางในการเลี้ยงลูก
เวลาและกำลังใจดีดีจากคนรอบข้าง จะช่วยให้คุณเข้มแข็งขึ้นและ focus ในตัวลูกได้มากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
เด็กที่โตมาแบบไม่มีพ่อ จะมีความรู้สึกยังไง
เกริ่นก่อนนะคะว่าเราโตมาแบบครอบครัวสมบูรณ์ มีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย
เรามีความคิดที่จะเลิกกับสามี แต่ประเด็นคือเรามีลูก 1 คน วัยแบเบาะ
เราอยากทราบว่าเด็กที่โตมาแบบพ่อแม่แยกทาง มีความรู้สึกในใจยังไง เพราะมองหน้าลูกทีไรก็สงสารลูก เพราะตอนนี้ในใจเราก็มีแค่ลูก อยากให้ลูกมีความสุข กินอิ่ม นอนหลับ