ลูกผมมันเนรคุณ (แน่รึ)

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ลูกสาวได้เรียนเทควันโดที่ยิมแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร เรียนตั้งแต่ ป.1  ช่วงแรกๆก็ชำระค่าเรียนปกติ จนครูผู้สอนเอ็นดูก็เลยให้ลูกสาวเรียนฟรีไม่เก็บเงิน และเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเป็นอย่างดี จนเกิดความรักและผูกพันฉันครอบครัว จนปัจจุบันลูกสาวเรียนจบ ม.4แล้ว เมื่อลูกสาวโตขึ้น ความรับผิดชอบในการเรียนก็เริ่มมากขึ้น แต่เวลาในการซ้อมเทควันโด้ สัปดาห์ละ 6 วัน ตั้งแต่ 17.00- 20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 09-00 - 20.-00 น.ก็แทบจะเบียดบังเวลาเรียนและครอบครัวมาก จนลูกสาวต้องขออนุญาติเราว่าขอลาหยุดเรียนเพื่อจะมานั่งเคลียงานส่ง อาจารย์ ไม่งั้นจะติด 0 ติด ร นั่นคือ ตอนนี้ลูกต้องการเวลาให้กับการเรียนมากขึ้น จึงอยากจะขอหยุดเรียนเทควันโด้ เราผู้ปกครองก็เข้าใจและก็อยากให้เขาเลิกอยู่แล้ว สาเหตุมาจากการไปแข่งเทควันโดแต่ละทีเราต้องออกค่าใช้จ่ายในการแข่งเอย ค่าเดินทางเอย ค่าที่พักเองตลอด รู้สึกว่าครอบครัวเราจะเริ่มไม่ไหว ก็เลยบอกลูกว่าถ้าจบการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่ศรีษะเกษแล้วจะให้หยุดเรียนเพื่อให้เวลากับการเรียนมากขึ้นและประหยัดมากขึ้น 
           หลังจากจบกีฬาแห่งชาติแล้ว เราก็โทรบอกกับครูว่าต้องการการให้ลูกหยุดเรียนโดยให้เหตุผลดังที่กล่าวมา พอเราแจ้งแบบนั้น ครูได้ตอบกลับมาว่าได้ส่งรายชื่อลูกเราแข่งกีฬาเยาวชนแล้วแจ้งยกเลิกไม่ได้  แต่เราก็ยืนกรานว่าจะให้ลูกเลิกให้ได้ ครูส่งรายชื่อลูกทำไมไม่แจ้งความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน
ก็เกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายครูก็พูดออกมาว่า ต้องให้ลูกเราไปแจ้งถอนรายชื่อเอง และมาขอโทษน้องๆที่อยู่ในยิมด้วย เอ๊ะ ลูกเราต้องทำถึงขนาดนั้นเลยรึ
มันเป็นหน้าที่ครูไม่ใช่หรือที่ต้องมาทำเรื่องถอนรายชื่อเอง ซึ่งการแจ้งถอนรายชื่อมันทำได้แต่จงใจบอกไม่ได้กลับปัดความรับผิดชอบนี้ ลูกก็ยังเด็กเนาะไม่รู้ต้องทำเรื่องยังไง ก็เลยปรึกษาเพื่อนที่อยู่อีกยิมซึ่งเป็นยิมคู่แข่งกันซึ่งเพื่อนจะลองสอบถามโคชเขาดูว่าแจ้งได้ไหม เท่านั้นแหละ พอครูที่ยิมลูกรู้เรื่องว่าลูกเราไปปรึกษาคนของยิมคู่แข่ง ก็เดือดแชทมาด่าลูกเราและด่าเราว่าพิกรหรือไงไม่พาลูกไป ลูกก็ไม่กล้าส่งข้อความนี้ให้เราดู เรามาเห็นในภายหลัง ว่าในเฟสครูคนนั้นโพสแคปชั่นกระแนะกระแหนลูกเราในทำนองเนรคุณ หมายังจงรักภักดีกว่า รู้ว่าเค้าอาจจะเสียดายลูกเราเพราะลูกเราได้ช่วยฝึกซ้อมให้น้องๆ สร้างชื่อเสียงให้ยิม และไม่เคยทำพฤ๖ิกรรมไม่ดีให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเลย  ช่วงวันสงกรานต์ เราก็บอกลูกว่าไปรดน้ำกราบขอขมาครูเถอะอย่างน้อยจะได้จากกันดีๆไม่ต้องมาบาดหมางใจกัน เราก็พาลูกไป แต่สิ่งที่เจอคือ การเฉยเมยเย็นชา ไม่รับไหว้จากลูกเรา
        หลังจากวันนั้นนั้นทำให้ลูกเราตัดสินใจว่าครูเป็นแบบนี้ก็ขอไม่เกี่ยวข้องกันอีก ลูกก็เลยยกเลิกเป็นเพื่อนกับครูคนนั้นในเฟสแล้วก็ใช้ชีวิตปกติ จนวันที่ 25 เม.ย. มีแชทเฟสเด้งมาที่มือถือลูกเรามีข้อความว่า ...  กล้าเลิกเป็นเพื่อนกับผู้มีพระคุณ ดังนั้นจะขอสาปแช่งไม่ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ... แล้วประมาณ สี่ทุ่มครึ่งที่เฟสครูคนนั้นได้แคปโปรไฟร์ชื่อลูกของเรา ทำขีดหน้าตากะไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นเฟสลูกเราซึ่งคงเข้าใจว่าคงไม่ผิดกฏหมายเพราะเบลอหน้าไว้ ด้วยแคปชั่นที่ว่า -- เดรัจฉาน --  เพื่อนลูกเราแคปรูปส่งมาให้ดู เราก็เข้าไปดูก็รีบแคปไว้ ปัจจุบันลบโพสนี้แล้ว  เราโคตรโกรธเลย ตรรกะครูแบบนี้เราควรทำยังไง แจ้งความดำเนินคดี หรือโพสประจาน กับครูแบบนี้ดี ลูกเราทำผิดอะไรจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลย แค่หยุดเรียน แต่มันทำให้ครูตรรกะป่วย โกรธขนาดนี้เลยรึ เดรัจฉาน คำนี้มันแรงมากนะ 
      *****อยากฟังความเห็นของเพื่อนๆในพันทิปดูหากเป็นเจอแบบนี้จะทำอย่างไร หลักฐานที่เขาด่าลูกเราเรามีหลักฐานหมด และเราไม่เคยตอบโต้เลย ถ้าเราจะเอาผิดได้ไหม เพราะเขาลบโพสไปแล้ว  ถ้าลูกเราแจ้งความ ก็จะกลายเป็น ศิษย์แจ้งจับครูที่สั่งสอนมาเกือบ 10 ปี ลูกเราจะผิดไหม   ถ้าโพสชี้แจงแบบนี้เราจะมีความผิดไหม อยากฟังความเห็นของเพื่อนๆมากเลย  ทุกอย่างที่ผมกล่าวมานี้มีพยานและแคปหลักฐานไว้ชัดเจนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ถึงขนาดไปกีฬาแห่งชาติแสดงว่าลูกคุณเก่งระดับนึง    เคยรู้จักโค้ชคนนึงเห็นน้องเทนนิสได้เหรียญทองโอลิมปิกก็พูดว่าเทนนิสนี่เนรคุณสนใจแต่โค้ชเช  โค้ชคนแรกล่ะไม่สนใจไม่ระลึกถึงเลย

คงประมาณเดียวกัน

ปล.ถ้าลูกคุณเก่งขนาดนั้นไม่เอาดีทางนี้ไปเลย  นักกีฬาดังๆหลายคนก็เรียนไม่เก่งแต่เข้าจุฬาเข้ามหาวิทยาลัยดังๆได้ด้วยความสามารถพิเศษ   ไม่ได้ดูถูกนะ  แต่การเรียนดูแล้วถึงขั้นติด ร   ถ้าจะไปมหาวิทยาลัยดีๆคงยาก  น่าจะเอาดีทางกีฬาไปเลยดีไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่