หน้าต่างอลูมิเนียมกับหน้าต่างไวนิลเลือกแบบไหนดีที่สุด
หน้าต่างอลูมิเนียม
หลายคนอาจคุ้นเคยกับหน้าต่างอลูมิเนียมกันดีอยู่แล้ว เพราะในประเทศไทยได้นำอลูมิเนียมมาใช้เป็นวัสดุผลิตประตู หน้าต่างทดแทนหน้าต่างไม้มาเป็นเวลา 20-30 ปีแล้ว เนื่องจากไม้หายากขึ้นเรื่อย ๆ ลักษณะเด่นของอลูมิเนียมก็คือ มีน้ำหนักเบาเพียง 1 ใน 3 ของเหล็ก จึงทำให้เลื่อนเปิดปิดได้ง่าย มีความแข็งแรง ทนทานต่อการผุกร่อนหรือเกิดสนิม สามารถทนต่อสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยได้ดี ไม่หดตัว ไม่โก่งงอ ไม่แตกหักง่าย ที่สำคัญคือสามารถนำไปขึ้นรูปและทำสีได้หลากหลาย โดยระบบสีจะมีทั้งสีชุบ (Anodize) และสีพ่น (Powder Coat) เมื่อเกิดรอยจะดูแลรักษาได้ง่ายกว่าหน้าต่าง uPVC หรือไวนิลครับ
หน้าต่างอลูมิเนียมนั้นมีหลากหลายเกรด ตั้งแต่เกรดท้องตลาดทั่วไปที่ช่างหรือผู้รับเหมานำมาตัดประกอบหน้างาน จนถึงเกรดที่ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน การเลือกซื้ออลูมิเนียมควรคำนึงถึงพื้นที่ที่จะนำไปใช้งานเป็นหลัก เพราะหากเลือกใช้หน้าต่างอะลูมิเนียมที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดปัญหาน้ำรั่ว อุปกรณ์ชำรุดเสียหายง่าย และเสี่ยงต่อการถูกงัดแงะได้ง่ายอีกด้วย
หน้าต่าง uPVC หรือไวนิล
เป็นหน้าต่างที่นิยมใช้กันในเขตเมืองหนาว เพราะสามารถป้องกันอากาศหนาวเข้าสู่ตัวบ้านได้ดี หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ สามารถกันอากาศระหว่างภายนอกและภายในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน จุดเด่นจะอยู่ที่กระบวนการผลิตที่ใช้การเชื่อมมุมบานด้วยความร้อน เพื่อละลายให้เป็นชิ้นเดียวกัน (Fusion welding) ทำให้สามารถป้องกันน้ำรั่วได้ 100% ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก และยังทนไอเค็มจากทะเลได้ดีกว่าอลูมิเนียม ระบบล็อคมีให้เลือกหลากหลายและแน่นหนากว่า แต่ก็มีจุดด้อยคือ มีสีให้เลือกน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว และกรอบของ uPVC จะดูหนากว่าอลูมิเนียม อาจไม่เหมาะกับห้องขนาดเล็กที่ต้องการชมวิวด้านนอกเท่าไรนัก
ควรเลือกซื้อ uPVC หรือไวนิลเกรดดี เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องใช้งานไปนาน ๆ แล้ว uPVC มีอาการเหลือง กรอบ แตก หรือหดตัว และควรมองหาตรารับรองมาตรฐาน RoHS และ Lead Free ที่หมายถึง uPVC ปลอดสารที่เป็นอันตราย สารก่อมะเร็ง และสารตะกั่ว เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยภายในบ้านด้วยครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
หน้าต่างอลูมิเนียมกับหน้าต่างไวนิลเลือกแบบไหนดีที่สุด
หน้าต่างอลูมิเนียม
หลายคนอาจคุ้นเคยกับหน้าต่างอลูมิเนียมกันดีอยู่แล้ว เพราะในประเทศไทยได้นำอลูมิเนียมมาใช้เป็นวัสดุผลิตประตู หน้าต่างทดแทนหน้าต่างไม้มาเป็นเวลา 20-30 ปีแล้ว เนื่องจากไม้หายากขึ้นเรื่อย ๆ ลักษณะเด่นของอลูมิเนียมก็คือ มีน้ำหนักเบาเพียง 1 ใน 3 ของเหล็ก จึงทำให้เลื่อนเปิดปิดได้ง่าย มีความแข็งแรง ทนทานต่อการผุกร่อนหรือเกิดสนิม สามารถทนต่อสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยได้ดี ไม่หดตัว ไม่โก่งงอ ไม่แตกหักง่าย ที่สำคัญคือสามารถนำไปขึ้นรูปและทำสีได้หลากหลาย โดยระบบสีจะมีทั้งสีชุบ (Anodize) และสีพ่น (Powder Coat) เมื่อเกิดรอยจะดูแลรักษาได้ง่ายกว่าหน้าต่าง uPVC หรือไวนิลครับ
หน้าต่างอลูมิเนียมนั้นมีหลากหลายเกรด ตั้งแต่เกรดท้องตลาดทั่วไปที่ช่างหรือผู้รับเหมานำมาตัดประกอบหน้างาน จนถึงเกรดที่ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน การเลือกซื้ออลูมิเนียมควรคำนึงถึงพื้นที่ที่จะนำไปใช้งานเป็นหลัก เพราะหากเลือกใช้หน้าต่างอะลูมิเนียมที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดปัญหาน้ำรั่ว อุปกรณ์ชำรุดเสียหายง่าย และเสี่ยงต่อการถูกงัดแงะได้ง่ายอีกด้วย
หน้าต่าง uPVC หรือไวนิล
เป็นหน้าต่างที่นิยมใช้กันในเขตเมืองหนาว เพราะสามารถป้องกันอากาศหนาวเข้าสู่ตัวบ้านได้ดี หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ สามารถกันอากาศระหว่างภายนอกและภายในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน จุดเด่นจะอยู่ที่กระบวนการผลิตที่ใช้การเชื่อมมุมบานด้วยความร้อน เพื่อละลายให้เป็นชิ้นเดียวกัน (Fusion welding) ทำให้สามารถป้องกันน้ำรั่วได้ 100% ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก และยังทนไอเค็มจากทะเลได้ดีกว่าอลูมิเนียม ระบบล็อคมีให้เลือกหลากหลายและแน่นหนากว่า แต่ก็มีจุดด้อยคือ มีสีให้เลือกน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว และกรอบของ uPVC จะดูหนากว่าอลูมิเนียม อาจไม่เหมาะกับห้องขนาดเล็กที่ต้องการชมวิวด้านนอกเท่าไรนัก
ควรเลือกซื้อ uPVC หรือไวนิลเกรดดี เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องใช้งานไปนาน ๆ แล้ว uPVC มีอาการเหลือง กรอบ แตก หรือหดตัว และควรมองหาตรารับรองมาตรฐาน RoHS และ Lead Free ที่หมายถึง uPVC ปลอดสารที่เป็นอันตราย สารก่อมะเร็ง และสารตะกั่ว เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยภายในบ้านด้วยครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE