การทำความสะอาดเตาอบ มี 4 ระดับด้วยกัน เริ่มจากการทำความสะอาดโดยใช้แรงมากที่สุดไปถึงการประหยัดแรง
เตาอบทั่วไปที่ไม่ได้มีระบบทำความสะอาด เราจะใช้แบบ Basic หรือเป็นการทำความสะอาดด้วยตัวเราเองนั่นเอง
เริ่มแรกคือ ถอดอุปกรณ์ภายในทั้งถาด ตะแกรง จากนั้นให้ตั้งโปรแกรมไปที่ไฟบน-ล่าง โดยใช้อุณหภูมิ Maximum ประมาณ 250 °c เวลาประมาณ 30-60 นาที แต่ใช้ประมาณ 30 นาทีก็ได้ จากนั้นปิดประตูเตาอบให้ทำงาน ปล่อยความร้อนทำให้ไขมันอ่อนตัว
จากนั้นใช้ฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำยาล้างจานผสมน้ำให้เจือจางเช็ดคราบไขมันออก และตามด้วยฟองน้ำหรือผ้าชุปน้ำสะอาดบิดหมาด เช็ดคราบออก แล้วปล่อยหรือเช็ดให้แห้ง
ระดับที่ 2 เป็นแบบ Steam Cleaning เป็นการใช้ไอน้ำมาช่วยทำความสะอาด วิธีนี้สามารถทำได้เฉพาะเตาอบบางรุ่นที่มีถาดอยู่ด้านล่างสำหรับใส่น้ำประมาณ 200-300 cc.
เริ่มจากการใส่น้ำลงไปในถาด แล้วตั้งโปรแกรมใช้เฉพาะไฟล่าง อุณหภูมิ 60-80 °c เวลา 16-30 นาที ใช้หลักการคือ ปล่อยความร้อนและน้ำจะเริ่มกลายเป็นไอน้ำ แล้วไปละลายคราบไขมัน จากนั้นก็เช็ดออกด้วยวิธีเดียวกันกับวิธีแรก
แบบนี้จะดีกว่าแบบแรก คือ แบบ Steam Cleaning จะเช็ดคราบต่างๆได้ง่ายขึ้น เบาแรงและยังช่วยขจัดกลิ่นได้ดีกว่าด้วย แต่มีเฉพาะบางรุ่นของเตาอบ ที่สามารถ Steam Cleaning ได้ แนะนำดุฟังก์ชันการใช้งานก่อนตัดสินใจ
ส่วนระดับที่ 3 คือ Catalytic Liner Self Cleaning ซึ่งเตาอบที่สามารถทำความสะอาดแบบนี้ได้ต้องมีแผ่น self-cleaning ซึ่งเป็นแผ่นเหล็กด้านข้าง หรือบางรุ่นมีด้านหลัง แผ่นเหล็กนี้จะมีลักษณะรูพรุน เพื่อให้น้ำมันเกาะ โดยมีหลักการทำงาน คือ แผ่นเหล็กนี้จะสะสมความร้อนไว้ที่ตัวเอง แล้วเผาคราบไขมัน เป็นฝุ่นเกาะที่แผ่นเหล็กนี้ จากนั้นเราก็ถอดแผ่น self-cleaning นี้มาทำความสะอาด ก็จะช่วยลดขั้นตอนในการเช็ดผนังเตาภายในได้ ที่สำคัญให้ใช้อุณหภูมิสูงสุดและเวลาเหมือนแบบ Basic คือ ประมาณ 250 °c เวลา 30-60 นาที
และมาถึงระดับสุดท้ายที่จะช่วยเราประหยัดแรงได้ดีที่สุด นั่นคือแบบ Pyrolytic ซึ่งจะมีอยู่ในเตาอบรุ่น High end โดยสามารถตั้งโปรแกรม Pyrolytic Function ได้เลย ซึ่งมีวิธีการทำงานด้วย โปรแกรมการทำความสะอาดจะทำความร้อนสูงสุดถึง 500 °c และใช้เวลาสูงสุด 2 ชั่วโมง ความร้อนจะเผาสิ่งสกปรกทุกอย่างที่อยู่ภายใน ซึ่งก่อนโปรแกรมทำงานก็จะต้องถอดอุปกรณ์ภายในทุกชิ้น ก่อนทำความสะอาดทุกรูปแบบ และเมื่อโปรแกรมทำงานเสร็จ เราก็รอจนภายในตู้เริ่มเย็น จึงเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานผสมน้ำให้เจือจาง เช่นเคยเหมือนระดับที่ 1
ในเตาอบที่มีโปรแกรม Pyrolytic จะสังเกตได้จากกระจกที่หนา 4 ชั้นและเป็นกระจกชนิดพิเศษ ซึ่งสามารถสะท้อนความร้อนเข้าด้านใน ในขณะเดียวกันก็กันความร้อนออกมาด้วย มีวิธีสังเกตอื่นๆเพิ่มเติมได้จากซีลที่เป็นโลหะซึ่งทนความร้อนได้ถึง 1,000 องศาต่างจากซีลยางที่ทนได้สูงสุดเพียง 500 องศารวมถึงวัสดุภายในจะเคลือบสารอีนาเมลเกรด AA+ ทนความร้อนและการกัดกร่อนได้ดี
ที่สำคัญการทำความสะอาดภายในเตาอบ ในส่วนอุปกรณ์เราต้องถอดออกมาล้าง แล้วเช็ดแห้ง หรือตากให้แห้งจะง่ายกว่า เพียงเท่านี้ พ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ สามารถเลือกใช้เตาอบแบบมีฟังก์ชันการทำความสะอาดตามที่ตนเองถนัดได้เลย
ทำความสะอาดเตาอบอย่างไรดี ??
เตาอบทั่วไปที่ไม่ได้มีระบบทำความสะอาด เราจะใช้แบบ Basic หรือเป็นการทำความสะอาดด้วยตัวเราเองนั่นเอง
เริ่มแรกคือ ถอดอุปกรณ์ภายในทั้งถาด ตะแกรง จากนั้นให้ตั้งโปรแกรมไปที่ไฟบน-ล่าง โดยใช้อุณหภูมิ Maximum ประมาณ 250 °c เวลาประมาณ 30-60 นาที แต่ใช้ประมาณ 30 นาทีก็ได้ จากนั้นปิดประตูเตาอบให้ทำงาน ปล่อยความร้อนทำให้ไขมันอ่อนตัว
จากนั้นใช้ฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำยาล้างจานผสมน้ำให้เจือจางเช็ดคราบไขมันออก และตามด้วยฟองน้ำหรือผ้าชุปน้ำสะอาดบิดหมาด เช็ดคราบออก แล้วปล่อยหรือเช็ดให้แห้ง
ระดับที่ 2 เป็นแบบ Steam Cleaning เป็นการใช้ไอน้ำมาช่วยทำความสะอาด วิธีนี้สามารถทำได้เฉพาะเตาอบบางรุ่นที่มีถาดอยู่ด้านล่างสำหรับใส่น้ำประมาณ 200-300 cc.
เริ่มจากการใส่น้ำลงไปในถาด แล้วตั้งโปรแกรมใช้เฉพาะไฟล่าง อุณหภูมิ 60-80 °c เวลา 16-30 นาที ใช้หลักการคือ ปล่อยความร้อนและน้ำจะเริ่มกลายเป็นไอน้ำ แล้วไปละลายคราบไขมัน จากนั้นก็เช็ดออกด้วยวิธีเดียวกันกับวิธีแรก
แบบนี้จะดีกว่าแบบแรก คือ แบบ Steam Cleaning จะเช็ดคราบต่างๆได้ง่ายขึ้น เบาแรงและยังช่วยขจัดกลิ่นได้ดีกว่าด้วย แต่มีเฉพาะบางรุ่นของเตาอบ ที่สามารถ Steam Cleaning ได้ แนะนำดุฟังก์ชันการใช้งานก่อนตัดสินใจ
ส่วนระดับที่ 3 คือ Catalytic Liner Self Cleaning ซึ่งเตาอบที่สามารถทำความสะอาดแบบนี้ได้ต้องมีแผ่น self-cleaning ซึ่งเป็นแผ่นเหล็กด้านข้าง หรือบางรุ่นมีด้านหลัง แผ่นเหล็กนี้จะมีลักษณะรูพรุน เพื่อให้น้ำมันเกาะ โดยมีหลักการทำงาน คือ แผ่นเหล็กนี้จะสะสมความร้อนไว้ที่ตัวเอง แล้วเผาคราบไขมัน เป็นฝุ่นเกาะที่แผ่นเหล็กนี้ จากนั้นเราก็ถอดแผ่น self-cleaning นี้มาทำความสะอาด ก็จะช่วยลดขั้นตอนในการเช็ดผนังเตาภายในได้ ที่สำคัญให้ใช้อุณหภูมิสูงสุดและเวลาเหมือนแบบ Basic คือ ประมาณ 250 °c เวลา 30-60 นาที
และมาถึงระดับสุดท้ายที่จะช่วยเราประหยัดแรงได้ดีที่สุด นั่นคือแบบ Pyrolytic ซึ่งจะมีอยู่ในเตาอบรุ่น High end โดยสามารถตั้งโปรแกรม Pyrolytic Function ได้เลย ซึ่งมีวิธีการทำงานด้วย โปรแกรมการทำความสะอาดจะทำความร้อนสูงสุดถึง 500 °c และใช้เวลาสูงสุด 2 ชั่วโมง ความร้อนจะเผาสิ่งสกปรกทุกอย่างที่อยู่ภายใน ซึ่งก่อนโปรแกรมทำงานก็จะต้องถอดอุปกรณ์ภายในทุกชิ้น ก่อนทำความสะอาดทุกรูปแบบ และเมื่อโปรแกรมทำงานเสร็จ เราก็รอจนภายในตู้เริ่มเย็น จึงเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานผสมน้ำให้เจือจาง เช่นเคยเหมือนระดับที่ 1
ในเตาอบที่มีโปรแกรม Pyrolytic จะสังเกตได้จากกระจกที่หนา 4 ชั้นและเป็นกระจกชนิดพิเศษ ซึ่งสามารถสะท้อนความร้อนเข้าด้านใน ในขณะเดียวกันก็กันความร้อนออกมาด้วย มีวิธีสังเกตอื่นๆเพิ่มเติมได้จากซีลที่เป็นโลหะซึ่งทนความร้อนได้ถึง 1,000 องศาต่างจากซีลยางที่ทนได้สูงสุดเพียง 500 องศารวมถึงวัสดุภายในจะเคลือบสารอีนาเมลเกรด AA+ ทนความร้อนและการกัดกร่อนได้ดี
ที่สำคัญการทำความสะอาดภายในเตาอบ ในส่วนอุปกรณ์เราต้องถอดออกมาล้าง แล้วเช็ดแห้ง หรือตากให้แห้งจะง่ายกว่า เพียงเท่านี้ พ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ สามารถเลือกใช้เตาอบแบบมีฟังก์ชันการทำความสะอาดตามที่ตนเองถนัดได้เลย