[CR] รีวิว "Sushina Cafe" ร้านอาหารและขนมหวานญี่ปุ่นบรรยากาศสุดชิลล์อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้สะพานกรุงธน

ถ้าพูดถึงร้านอาหารที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลายๆคนมักจะคิดว่าเป็นเรือนไทยเก่าแก่หรือบ้านสไตล์ฝรั่งสุดหรูชื่อเสียงโด่งดังราคาแพง แต่วันนี้เราดูโฆษณาผ่านๆตาเห็นว่ามีคาเฟ่เปิดใหม่ชื่อ "Sushina Cafe" สายกินตัวจริงต้องคุ้นเพราะมีอีก 2 สาขาอยู่ที่ตึก Fortune Town พระราม 9 และตึก MS Siam Tower พระราม 3 ซึ่งมีชื่อเสียงและประสบการณ์ทางด้านอาหารญี่ปุ่นโดยเน้นความสดอร่อย/ให้ปริมาณเยอะจุใจจนกลายเป็นขวัญใจของชาวออฟฟิศในย่านนั้นมาอย่างยาวนาน โดยสาขาใหม่นี้มีการเปลี่ยนรูปแบบจากภัตตาคารธรรมดามาเป็นคาเฟ่ชวนให้นั่งชิลๆตั้งอยู่ติดริมสะพานซังฮี้หรือมีอีกชื่ออย่างเป็นทางการว่าสะพานกรุงธน เสิร์ฟอาหารกับขนมญี่ปุ่นและเครื่องดื่มพร้อมมองวิวแสนสงบรับลมธรรมชาติเย็นๆติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาในราคาเริ่มต้นแค่ 50 บาทเท่านั้น ส่วนวิธีการเดินทางให้ปักหมุดมาที่ร้านขนาบน้ำโดยใช้ประตูทางเข้าตรงซอยเล็กๆข้างร้านฟีนิกซ์คลินิกเฉพาะทางไตเทียมก็จะพบกับลานจอดรถขนาดใหญ่ฟรีเฉพาะลูกค้าเท่านั้น (ถ้าคนนอกมาใช้บริการคิดราคาชั่วโมงละ 20 บาท) วิธีเดินทางด้วยรถสาธารณะให้ลง MRT สถานีสิรินธรแล้วเรียกแท็กซี่ให้ขับมาตามจุดหมายอีกประมาณ 1 กิโลเมตรถึงแล้วก็จะพบกับบ้านเรือนไม้พร้อมลานกว้างขนาดใหญ่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมโต๊ะและเก้าอี้เรียงกันเป็นระเบียบแบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้ว ซึ่ง "Sushina Cafe" ตั้งอยู่ชั้น 2 ของร้านขนาบน้ำที่ตอนนี้แดดร้อนมากๆเรารีบเดินขึ้นไปกันเลยครับ

ใต้บ้านเรือนไทยขนาดใหญ่ตรงกลางมีบันไดไม้ทาสีขาวสะอาดราวกับเป็นการเชิญชวนให้เราขึ้นไปที่ชั้น 2 จะพบกับร้าน "Sushina Cafe" ดูสะอาดเปิดพัดลมเพดานและตั้งพื้นผสานกับสายลมธรรมชาติได้อย่างเย็นฉ่ำ โดยสิ่งที่โดดเด่นสุดก็คือเคาน์เตอร์บาร์ไว้เตรียมอาหาร/เครื่องดื่ม/รับออเดอร์ตรงใจกลางห้องขนาดใหญ่ทาด้วยสีขาวพร้อมเปิดหน้าต่าง-ประตูรับแสงสว่างสบายตาจากทุกทิศทางให้เข้ามาภายใน ถ้าใครเคยแวะไปสาขาตึก Fortune Town พระราม 9 หรือตึก MS Siam Tower พระราม 3 น่าจะคุ้นกับโลโก้วงกลมพื้นสีเหลืองที่ตรงกลางเป็นใบหน้าเด็กผู้หญิงมัดผมทรงจุกดูน่ารักแบบนี้ผ่านตากันมาบ้าง (สอบถามพนักงานได้ความว่าเป็นรูปวาดเหมือนลูกสาวคนโตของเจ้านายเขา) ซึ่งได้รับเสียงกล่าวสวัสดีและต้อนรับเป็นอย่างเป็นมิตร ก่อนที่เราจะไปดูรายการอาหารต่างๆขอถ่ายรูปและเก็บบรรยากาศโดยรอบกันก่อนเพราะเห็นเพจสายรีวิวคาเฟ่คนอื่นๆโพสต์ไว้ดูสวยงามน่าสนใจหลายมุมมากครับ

บรรยากาศด้านในมีความเป็นเรือนไทยเก่าย้อนยุคแล้วจับเอามาทาสีใหม่พร้อมเปลี่ยนสไตล์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆให้ดูสวยงามทันสมัยสมกับเป็นคาเฟ่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น เริ่มต้นกันด้วยกำแพงทั้งหมดทาสีขาวคิ้วเพดานทองตัดขอบบานประตู-หน้าต่างทั้งหมดด้วยสีฟ้าสลับกับพื้นที่ยังคงใช้แผ่นไม้เดิมลงน้ำยาเคลือบเงาลื่นๆเรียบเดินสบาย สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ร้านเลือกใช้โต๊ะหินอ่อนวางบนขาตั้งทำจากไม้แท้ขนาดใหญ่แข็งแรง/มั่นคง รวมไปถึงเก้าอี้ถูกบุด้วยฟูกปิดหนังมีพนักพิงทุกตัวชวนนั่งนานๆ เพิ่มความเป็น Vintage ย้อนยุคอีกหน่อยให้เข้ากับเรือนไทยด้วยโซฟายาวไร้พนักพิงสไตล์วิคตอเรียคลุมหนังสีดำเข้มสุดหรูหราชวนโพสต์ถ่ายรูปเก๋ๆวางตรงกลางร้านพร้อมผลงานศิลปะมีอายุต่างๆที่ใส่กรอบรูปประดับตกแต่งตามมุมผนังโดยรอบ สุดท้ายเติมความสดใสอีกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้รู้สึกไร้ชีวิตชีวาจนเกินไปด้วยต้นไม้สีเขียวในกระถางขนาดเล็กกับดอกไม้ใส่แจกันวางที่โต๊ะหลากหลายสีสัน เอาจริงๆถ้าเราไม่รู้มาก่อนว่าร้านนี้คือคาเฟ่ขายอาหารและขนมญี่ปุ่นคงนึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของร้านขนาบน้ำด้วย เพราะหากลิ่นอายของความเป็นดินแดนอาทิตย์อุทัยแทบไม่เจอซึ่งก็แล้วแต่คนชอบ ส่วนตัวถือว่ามีเอกลักษณ์แปลกไม่เหมือนร้านอื่นดีครับ

ส่วนบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงเฉลียงด้านนอกปูพื้นจากไม้เก่าแบบเดิมทาเคลือบเงาใหม่ให้กันแดดและฝนล้อมด้วยระเบียงเหล็กทาสีดำ พร้อมมุงหลังคาเป็นแบบใสที่ปล่อยให้แสงธรรมชาติลอดเข้ามาในชายคาทำให้ถ่ายรูปดูสวยละมุนยิ่งขึ้น โดยสามารถออกมานั่ง-ยืนชิลชมวิวได้รอบๆด้านได้แบบ 180 องศาที่มองด้านขวาเห็นสะพานซังฮี้ (สะพานกรุงธน) ตรงกลางเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเรือสัญจรแล่นผ่านไปมาและทางซ้ายที่มองไปไกลๆหน่อยจะเห็นอาคารสัปปายะสภาสถานหรือรัฐสภาใหม่ตั้งตระหง่านสวยงามจากมุมนี้ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ตรงโซนด้านนอกเปลี่ยนเป็นแบบ Outdoor เก้าอี้โครงเหล็กเชื่อม/หวายจักสานและโต๊ะทำจากไม้เคลือบน้ำยากันเชื้อราเพื่อให้คงทนต่อแดดและฝนของประเทศไทย สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปทางร้านได้ทำระเบียงตรงกลางให้ยื่นออกไปนอกเฉลียงเดิมอีกเล็กน้อยแล้วจัดเป็นมุมพิเศษล้มรอบด้วยเสาทรงไฟทรงยุโรปพันเถาวัลย์เลื้อยมีดอกไม้สีสันสดใสและเก้าอี้ไม้ขนาดจิ๋วที่วางเอาไว้สำหรับถ่ายเป็นคู่หรือยืนโพสต์เก๋ๆตรงจุดกึ่งกลางก็สวยงาม นอกจากนี้ยังมีมุมดอกซากุระกับสะพานซังฮี้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้กดชัตเตอร์ตามไอเดียของแต่ละคนได้อีกหลายรูป สายชิลฟีลรักธรรมชาติน่าจะถูกใจสิ่งนี้ครับ

เดินถ่ายรูปกับคุณแฟนโพสต์ท่าตามมุมต่างๆจนพอใจแล้วก็ต้องมาอุดหนุนทางร้านต่อเพื่อเป็นการพักเหนื่อยไปในตัวเลยขอเล่มเมนูจากน้องพนักงานมาเปิดดูกันก่อนว่ามีอะไรให้เราสั่งบ้าง โดยหน้าแรกชื่อเขาก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นคาเฟ่จึงต้องเน้นเครื่องดื่มต่างๆก่อนเป็นอันดับแรกมีทั้งร้อน-เย็นและปั่นแบ่งออกเป็นหมวดต่างๆ เริ่มต้นกันที่กาแฟสดราคาแก้วละ 50-120 บาท/เมนูเครื่องดื่มอื่นๆที่ไม่ใช่กาแฟราคาแก้วละ 60-145 บาท/ชาเขียวมัทฉะจากญี่ปุ่นราคาแก้วละ 80-120 บาท/อิตาเลียนโซดาราคาแก้วละ 75-100 บาทกับชาเย็นกลิ่นหอมอโรม่าต่างๆราคาแก้วละ 75 บาท หน้าต่อไปเป็นรายการอาหารญี่ปุ่นโดยเน้นเฉพาะเมนูง่ายๆและเข้ากันได้ดีกับหมวดเครื่องดื่ม ซึ่งจะมีความแตกต่างจากสาขาอื่นๆของ Sushina ที่เน้นปริมาณเยอะเต็มอิ่มแต่ยังคงราคาสุดคุ้มค่าเอาไว้เช่นเคย มาเริ่มต้นกันที่ซาชิมิจากปลาต่างๆเสิร์ฟเป็นจานเล็กทานสะดวกราคา 60-185 บาท ถ้าใครกำลังหิวก็มีอาหารจานหลักแบบดงบุริเน้นชามเดียวอยู่ท้องราคา 100-260 บาท หรือจะมานั่งทำงาน-ปล่อยใจรับลมชิลๆพร้อมสั่งเมนูทานเล่นมากินด้วยนิดหน่อยราคาเริ่มต้นที่จานละ 85-120 บาท ส่วนใครที่เป็นสายหวานตัวจริงห้ามพลาดขนมญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับและร่วมสมัยต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 65-85 บาท ภาพรวมถือว่าอยู่ในระดับปกติของคาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั่วไปครับผม

หน้าสุดท้ายสำหรับคนที่ไม่ถนัดขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นเขาก็มีเมนูฝรั่งแบบที่เสิร์ฟกันในคาเฟ่ทั่วไปให้สั่งด้วยราคาเริ่มต้นจานละ 70-145 บาท อยากทานรายการไหนบ้างก็แค่เขียนตัวเลขลงในช่องจำนวนของใบสั่งอาหารพร้อมกับหมายเลขโต๊ะตรงด้านบนสุดขวามือของกระดาษจากนั้นเดินเอาไปยื่นให้กับน้องๆพนักงานตรงหน้าเคาน์เตอร์ที่เหลือก็แค่รออาหารมาเสิร์ฟบนโต๊ะครับ นอกจากนี้ใครเป็นสายมาเร็วไปด่วนทางร้านก็เขียนรายการเครื่องดื่มเอาไว้คร่าวๆบนกระจกข้างบันไดทางขึ้นสุดเก๋เหมือนตัวอักษรลอยอยู่ในอากาศให้ออเดอร์ได้เลยทันที ถ้าอยากได้ความหวานเย็นสดชื่นนอกจากขนมเค้ก-โมจิกับเครื่องดื่มเย็น/ปั่นแล้วยังมีไอศครีมยี่ห้อ ETE เป็นถ้วยมาวางไว้เป็นตู้มีให้เลือกกว่า 11 รสชาติทั้ง ฮอกไกโดมิลค์/มะม่วง/แมคคาดาเมียบริทเทิ้ล/เจลลี่ปาร์ตี้/กะทิรวมมิตร/สตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก/วนิลาช็อกชิพ/ฮาเซลนัทครีม/ช็อกโกแลตมาร์ชเมลโลว์/เชอร์เบตมะนาวกับทุเรียนขนาด 80 มล. ราคาถ้วยละ 75 บ.ครับ

ระหว่างนั่งรออาหารและเครื่องดื่มที่เราสั่งไปมาเสิร์ฟก็เล่นมือถือนั่งชิลรับลมเย็นโชยเบาๆอย่างผ่อนคลาย ส่วนใครที่เห็นบรรยากาศแล้วอยากมานั่งทำงานยาวๆทางร้านมีสัญญาณ Wifi พร้อมช่องเสียบปลั๊กไฟให้บริการฟรีตามมุมเสาต่างๆภายในตัวบ้าน และถ้าอยากนั่งตรงเฉลียงติดระเบียงริมแม่น้ำเจ้าพระยาแนะนำว่าให้พกปลั๊กสามตาสายยาวๆมาพ่วงแล้วลากออกไปข้างนอกหลัง 15.00 น. (เพราะแดดกำลังเปลี่ยนทิศทางไปฝั่งตะวันตกทำให้เย็นสบายสุดๆ) โดยมีการเปิดเพลงไทยกับสากลร่วมสมัยคลอเบาๆเพื่อไม่ให้ร้านดูเงียบจนเกินไป สักพักพนักงานก็ยกสิ่งนี้เอามาวางไว้บนโต๊ะก่อนคือ 1. วาซาบิที่ใส่ฝาปิดแบบติดช้อนนำออกมาจากตู้เย็นใหม่ๆรักษาอุณหภูมิก่อนเสิร์ฟได้อย่างดี 2. ขวดใส่แก้วโชยุที่ตอนแรกก็งงว่าทำไมเทไม่ออกเพราะต้องกดปุ่มยางด้านบนให้ซอสค่อยๆไหลออกมาอย่างเป็นจังหวะจึงควบคุมปริมาณได้ง่ายและสะอาดกว่าขวดโชยุปกติที่ใช้ในร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป ส่วนใครกำลังกังวลว่าเขามีแอลกอฮอล์ล้างมือให้บริการไหมก็บอกได้เลยว่าวางเอาไว้ทุกโต๊ะเฉพาะมุมในเรือนเท่านั้นเพื่อป้องกันประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคต่างๆลดลงเมื่อถูกแดดโดยตรง นั่งคุยเล่นๆกับคุณแฟนไปแค่ครู่เดียวเครื่องดื่มเย็นที่เราสั่งเอาไว้ก็ถูกยกออกมาเสิร์ฟบนโต๊ะก่อนเป็นอันดับแรก รีบย้ายไปถ่ายรูปจัดฉากสวยๆที่ริมระเบียงข้างนอกกันดีกว่าครับผม

******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
ชื่อสินค้า:   Sushina Cafe
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่