จากเหตุการณ์การยั่วยุต่อสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งเอกสารนั้นได้จัดทำขึ้นโดยสหรัฐอเมริกาและ NATO

ข้อสรุป
จากเหตุการณ์การยั่วยุต่อสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งเอกสารนั้นได้จัดทำขึ้นโดยสหรัฐอเมริกาและ NATO โดยมีการกล่าวหาว่ารัสเซียต้องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ชีวภาพและเคมี

(23 เมษายน 2565)
สไลด์ที่ 1 (เปิดเผยเรื่องราว)
สไลด์ที่ 2 (ถ้อยคำแถลงต่อต้านรัสเซีย)

กระทรวงกลาโหมสหพันธรัฐรัสเซียมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องซึ่งเกี่ยวข้องกับการเตรียมการยั่วยุโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อกล่าวหากองทัพรัสเซียว่าใช้อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ หรือยุทธวิธีทางนิวเคลียร์ โดยแผนการนี้ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อความสำเร็จของรัสเซียในการดำเนินการปฏิบัติการพิเศษทางทหารครั้งนี้

หากกล่าวเฉพาะในเดือนมีนาคมและเมษายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศในยุโรปตะวันตกเท่านั้นที่ได้ออกแถลงการณ์ที่มีลักษณะเป็น “คำเตือน” ในการยั่วยุรัสเซียอย่างสม่ำเสมอ และทางสื่อมวลชนได้เผยแพร่ประเด็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธที่มีการทำลายล้างสูงของฝั่งรัสเซีย

ยกตัวอย่างเช่น นาย J.Sullivan ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของประธานธิบดี โจ ไบเดนที่ระบุว่าสหรัฐอเมริกานั้นมีความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง

และเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้แทนถาวรของสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) เอกอัครราชทูตลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ ได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าประเทศรัสเซียเตรียมการที่จะใช้เครื่องมือในการจัดฉาก รวมถึงอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในการข่มขู่ประชากรยูเครนและประชาคมระหว่างประเทศ

เมื่อดูจากเหตุการณ์นี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พิจารณาส่งอุปกรณ์ป้องกันมากถึง 400 ชุด อุปกรณ์ลาดตระเวน NBC 390 เครื่อง และยานเกราะสไตรเกอร์ 15 คัน


สไลด์ที่ 3 (ตัวอย่างการปลอมแปลง)

รัสเซียต้องการแจ้งให้ทราบว่าสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการในโครงการประเภทนี้หลายต่อหลายครั้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการยั่วยุทางด้านข้อมูลคือสุนทรพจน์ของโคลิน พาวเวลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 กล่าวว่าในขวดที่มีน้ำยาซักผ้าซึ่งอยู่ในมือของเขานั้นได้ใช้เป็นข้ออ้างในการบุกอิรักและทำให้พลเรือนเสียชีวิตกว่าห้าแสนคน

และในปี 2560 ภาพถ่ายหมวกสีขาวที่ได้กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นว่าผู้คนในตอนนั้นกำลังเก็บตัวอย่างในบริเวณจุดเกิดเหตุที่เกิดจากการโจมตีด้วยสารซารินและได้ใช้ผ้าพันแผลธรรมดาๆ ในการป้องกันตัว ในขณะที่ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆ นั้นขาดอุปกรณ์ป้องกันตัว นั่นเป็นเหตุการณ์การโจมตีด้วยขีปนาวุธที่สนามบิน Shayrat ในประเทศซีเรีย

และในปี 2561 นั้นก็เป็นการแสดงละครของเด็กชายชาวซีเรียที่ถูกกล่าวหาว่าวางยาพิษด้วยสารคลอรีน ต่อมาทำให้เกิดเหตุการณ์การทำลายศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ในบาร์เซห์และจัมรา (Barzeh and Jamra) มีเพียงคำให้การของพยานในเรื่องต่างๆ เหล่านั้นที่ทางสหพันธรัฐรัสเซียได้นำไปยังกรุงเฮกเพื่อทำให้ประชาคมระหว่างประเทศได้เปิดหูเปิดตาต่อเหตุการณ์เหล่านี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบต่อการยั่วยุเหล่านี้


สไลด์ที่ 4 (สร้างสถานการณ์สมมติ)

ครั้งนี้มี 3 สถานการณ์ที่จะถูกนำไปใช้เพื่อกล่าวหาสหพันธรัฐรัสเซีย

อันแรก คือ เหตุการณ์การจัดฉากปลอมที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด

ซึ่งอาจรวมถึงการใช้อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพซึ่งอาจทำให้ประชาชนเสียชีวิต หรือการจัดฉากในการก่อวินาศกรรมโดยกองทัพรัสเซียในประเทศยูเครนในสถานที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง

สถานการณ์ดังกล่าวเห็นได้จากเหตุการณ์ในโรงงานเคมีและชีวภาพที่ตั้งอยู่ในเมืองคาร์คอฟและกรุงเคียฟ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในด้านการทำให้เกิดพลังงานนิวเคลียร์ที่นี่ เหนือสิ่งอื่นใด นั่นอาจหมายถึงสถานีพลังงานนิวเคลียร์ Zaporozhie ซึ่งควบคุมโดยสหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 ขบวนรถ 10 คันที่ได้ขนส่งสินค้าอันตรายไปยังสถานีนิวเคลียร์ได้ถูกหยุดและเปลี่ยนทิศทางไปสถานีพลังงานนิวเคลียร์ Zaporozhie แทน

นอกจากนี้ ผู้นำของประเทศยูเครนกำลังพิจารณาที่จะโจมตีโรงงานเก็บขยะกัมมันตภาพรังสีที่โรงงานเคมีเก่า Pridneprovsky ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Kamenskoye ในเขต Dnipropetrovsk กระทรวงกลาโหมมีเอกสารยืนยันสถานที่จัดเก็บที่อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ที่เกิดจากการใช้จ่ายเงินที่ไม่เหมาะสมซึ่งจัดสรรโดยสหภาพยุโรปในการบำรุงรักษาสถานที่ดังกล่าว

ข้อที่สองหมายถึง การใช้อาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูงอย่างลับๆ ในปริมาณน้อยๆ ก่อน ในการทำให้อำนาจดูเป็นกลางและมีความสามารถในการต่อต้านการปฏิบัติตามภารกิจที่เป็นการปฏิบัติการแบบเฉพาะ

สถานการณ์นี้ควรจะนำไปใช้ในเหตุการณ์ที่โรงงานเหล็กอาซอฟสตัล (Azovstal) แต่สุดท้ายได้มีคำสั่งของผู้บัญชาการทหารสูงสุดให้ยกเลิกการโจมตีสถานที่ดังกล่าวเลยทำให้แผนการของเพนตากอนที่คิดไว้ผิดหวัง

ข้อที่สามและที่เป็นไปได้น้อยที่สุดคือ จะมีการใช้อาวุธทำลายล้างสูงอย่างโจ่งแจ้งในพื้นที่ต่อสู้ หากเกิดความล้มเหลวในการใช้อาวุธทั่วไปในเขตต่อสู้
สถานการณ์นี้ได้รับการพิจารณาสำหรับเมือง Slavyansk และ Kramatorsk ที่ได้รับการเปลี่ยนเป็นเมืองที่มีลักษณะเป็นป้อมปราการในการต่อสู้

ความน่าจะเป็นสูงสุดของการแสดงละครในการใช้อาวุธเคมีได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงในการจัดหายาแก้พิษที่มีสารพิษไปยังยูเครน โดยเฉพาะในปี 2565 ตามคำร้องขอจากกระทรวงสาธารณสุขในประเทศยูเครน มีสารเคมีมากกว่า 220,000 ขวดที่มีสาร atropines ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เป็นหลักฐานในการเตรียมการที่มุ่งเป้าไปที่การยั่วยุซึ่งรวมถึงการใช้สารที่ทำให้เป็นอัมพาตและทำให้เส้นประสาทมีปัญหา


สไลด์ที่ 5 (การสอบสวนเหตุการณ์)

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กำหนดขั้นตอนการสอบสวนไว้แล้วและได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่จะรับผิดชอบในการดำเนินการดังกล่าว

เหตุการณ์ทางด้านเคมีจะได้รับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการห้ามใช้อาวุธเคมีที่อนุญาตให้สามารถประดิษฐ์หลักฐานที่จำเป็นและตัดสินความรับผิดชอบตามที่เห็นสมควร

การรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเป็นสิ่งสำคัญ (การเก็บตัวอย่าง การซักถามพยาน การบันทึกภาพและวิดีโอ)

กลไกที่ใช้ในการสืบสวนจะใช้กับกรณีที่เป็นไปได้ในการใช้อาวุธชีวภาพจะถูกนำไปใช้โดยได้รับอนุญาตจากเลขาธิการสหประชาชาติที่จะกำหนดคณะผู้เชี่ยวชาญตามความชอบของเขาเอง

ได้มีการวางแผนที่จะให้ผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศที่มีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลในการบ่งชี้ในการปฏิบัติการในเขตการต่อสู้โดยที่ตัวแทนของสมาชิกนาโต้ (NATO) จะไม่สามารถเข้าถึงได้


สไลด์ที่ 6 (ผลลัพธ์จากการแสดงละคร)

การใช้อาวุธทำลายล้างสูง (WMD) เป็นการจัดฉากมีจุดมุ่งหมายเพื่อกล่าวหารัสเซียว่าใช้อาวุธต้องห้ามด้วยการดำเนินการที่เรียกว่า สถานการณ์ซีเรีย ต่อไปในภายหลัง ซึ่งรัฐนั้นจะต้องถูกโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงการแยกตัวออกจากองค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งสหประชาชาติ คณะมนตรีความมั่นคง

แนวทางที่เป็นไปได้คือการกดดันบังคับประเทศที่เป็นมิตรกับสหพันธรัฐรัสเซีย รวมทั้งอินเดียและจีนให้ทำการคว่ำบาตรต่อประเทศของเรา

เราขอเตือนว่าสหพันธรัฐรัสเซียได้ทำลายคลังอาวุธเคมีของตนโดยสมบูรณ์แล้วเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ซึ่งได้รับการยืนยันโดยได้รับใบรับรองจากองค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW) ในทางกลับกัน สหรัฐอเมริกาซึ่งมีศักยภาพทางการเงิน เศรษฐกิจ และทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เป็นประเทศเดียวที่เข้าร่วมอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมีที่ยังคงมีคลังอาวุธของสารประกอบในการทำสงครามเคมีถึง 672.5 ตัน

คำกล่าวของคุณ Burns ผู้อำนวยการ CIA เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีของประเทศรัสเซียนั้นช่างเป็นเรื่องไร้สาระ ด้วยว่าในปัจจุบันระดับการตรวจสอบอุปกรณ์ทางเทคนิคในการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปกปิดในการใช้อาวุธดังกล่าว หากผู้อำนวยการซีไอเอไม่เข้าใจสิ่งนี้ แสดงว่าเขาไม่เป็นมืออาชีพ หรือเขากำลังเข้าใจผิด

โครงการอาวุธชีวภาพในสหภาพโซเวียตได้ยุติลงโดยสมบูรณ์แล้วเมื่อปี 2515 ในเวลาเดียวกัน จำนวนห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาของสหรัฐฯ นั้นหาที่เปรียบไม่ได้กับประเทศอื่น กระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า วอชิงตันควบคุมห้องปฏิบัติการ 336 แห่ง ใน 30 ประเทศ ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง


สไลด์ที่ 7 (คุณสมบัติทางกฎหมายของสหรัฐอเมริกา)

ให้สังเกตว่า เหตุการณ์นั้นค่อนข้างมีความตรงกันข้ามกับพันธกรณีระหว่างประเทศ โดยสหรัฐฯ ยังคงมีกฎหมายภายในประเทศที่อนุญาตให้ใช้อาวุธชีวภาพได้

สหรัฐอเมริกาได้ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาเจนีวาในปี 1925 โดยมีข้อจำกัดหลายประการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการอนุญาตให้ใช้อาวุธเคมีและสารพิษเพื่อตอบโต้ได้

ภายใต้กฎหมายการรวมตัวและการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อเมริกาเพื่อขัดขวางการก่อการร้ายของสหรัฐอเมริกานั้น การวิจัยเกี่ยวกับอาวุธชีวภาพจะได้รับอนุญาตโดยได้รับอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยผู้เข้าร่วมในการวิจัยดังกล่าวไม่ต้องรับผิดทางอาญาสำหรับการพัฒนาอาวุธดังกล่าว

จากการที่สหรัฐอเมริกาขัดขวางโครงการที่ริเริ่มในระดับนานาชาติใดๆ เพื่อตรวจสอบอนุสัญญาอาวุธชีวภาพนั้นมีข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการไม่แพร่ขยายอาวุธชีวภาพ


สไลด์ที่ 8 (อากาศยานไร้คนขับ)

เราตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้ว่ายูเครนได้ส่งคำขอไปยังบริษัทผู้ผลิตโดรน Bayraktar เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการติดตั้งโดรนที่สามารถใส่สารที่เป็นละอองลอยในอากาศได้

เป็นเรื่องที่น่ากังวลว่าเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 หน่วยลาดตระเวนของรัสเซียในเขต Kherson ได้ค้นพบอากาศไร้คนขับจำนวน 3 ลำพร้อมถังบรรจุขนาด 30 ลิตรและอุปกรณ์สำหรับการพ่นยาตามสูตรทางเคมี

ตามข้อมูลที่มีอยู่ ในเดือนมกราคม 2565 ยูเครนได้ซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวมากกว่า 50 ชิ้นผ่านองค์กรตัวกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการทำสูตรทางชีวภาพและสารเคมีที่เป็นพิษ

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 พบภาชนะบรรจุที่มีหลอดถูกทิ้งไว้ใกล้กับกองทหารรัสเซียที่มาจากอากาศยานไร้คนขับ มีการวางแผนว่าจะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่จะทำให้เกิดการระเบิดและไฟไหม้ โดยใช้วิธีการปล่อยสารพิษที่ไม่มีชื่อรวมอยู่ในอนุสัญญา

สำหรับเนื้อหาของหลอดนั้น การวิเคราะห์ทางเคมีจะดำเนินการในห้องปฏิบัติการ 27 ของศูนย์วิทยาศาสตร์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่งได้รับการรับรองโดยองค์กรเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี ผลการวิเคราะห์จะถูกส่งไปยังสำนักเลขาธิการทางเทคนิคต่อไป


สไลด์ที่ 9 (อาวุธทำลายล้างสูง)

ขอกล่าวเพิ่มเติมไว้ว่า เราขอระลึกว่าวันนี้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวในประวัติศาสตร์โลกที่ใช้อาวุธทำลายล้างสูงทั้งสามประเภทไปแล้ว

การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ การใช้สารเคมีที่เป็นพิษในเวียดนามและอิรัก อาชญากรรมทั้งหมดเหล่านี้ไม่ได้รับการประเมินอย่างเหมาะสมโดยองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น ในความพยายามที่จะทำลายชื่อเสียงการปฏิบัติการทางทหารพิเศษของกองทหารรัสเซีย ระบอบเคียฟได้ทำตามคำแนะนำของฝ่ายบริหารของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะใช้สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้และจะนำไปสู่ความตายของพลเรือนชาวยูเครนอีกหลายหมื่นคน และก่อให้เกิดหายนะทางสิ่งแวดล้อมและมนุษยธรรมตามมา

Cr. https://m.facebook.com/RussiaInThai

Россия : https://glasnarod.ru/rossiya/

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่