โปแลนด์กับบุลกาเรียไม่มีผลกระทบอะไรเลย   รัสเซียปิดเฉพาะท่อส่ง Jamal-Pipeline. ซึ่งเป็นท่อระยะทาง 4000 ก.ม.จากไซบีเรียผ่านเบลารุสเข้าโปแลนด์    เพราะโปแลนด์เตรียมเปิดท่อส่งใหม่ Baltic Pipeline  จากนอร์เวย์ผ่านเดนมาร์คปลายปีนี้  ส่งได้อีก 10 พันล้านลูกบาศ์กเมตรหรือประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณการใช้ทั้งหมด นอกจากนั้นซื้อก๊าสเหลวใช้อีก 35%  ที่เหลือโปแลนด์มีท่อก๊าสต่อเชื่อมโยงกับเยอรมัน    จริงๆ แล้วยูเครน  หรือ ประเทศอื่นแม้แต่สวิสเซอร์แลนด์ก็ทำแบบนี้คือใช้วิธี " Reverse Fow "  ไม่ได้ซื้อก๊าสจากรัสเซียแต่มาซื้อจากเยอรมันถ้ารัสเซียจะตัดก๊าสให้ได้ผลต้องตัดการส่งก๊าสทั้งหมดมิฉะนั้นไม่มีผลเลย  เพราะประเทศในยุโรปยังส่งก๊าสขายภายในกันเองและซื้อจากเยอรมันกันเป็นหลักเพราะสั่งซื้อก๊าสมากที่สุด    โปแลนด์จะเปิดท่อส่งต่อให้ลิทัวเนียต่อไปอีกในปลายปีนี้   ส่วนบุลกาเรียซึ่งถึงแม้จะพึ่งก๊าสจากรัสเซียสูงถึง 90% แต่เตรียมตัวมานานแล้วเหมือนกันกำลังจะเปิดท่อส่งก๊าสใหม่เดือนมิถุนายนนี้จากอาเซอร์ไบจันผ่านเข้ามาทางกรีซ   บุลกาเรียใช้ก๊าสปริมาณน้อยฉะนั้นซื้อจากอาเซอร์ไบจันก็พอเพียง

นอกจากนั้นโปแลนด์เตรียมก๊าสสำรองไว้สูงถึง 76%  ขนาดเยอรมันเพิ่งสำรองได้ถึงตอนนี้แค่ 35% เองแต่แน่นอนว่าปริมาณรวมต่างกันหลายสิบเท่า  แต่ยังมีโอกาสตุนสำรองได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าหน้าหนาว

แต่เดิมเยอรมันรับก๊าสผ่าน Jamal-Pipeline เหมือนกันแต่หลังจากมีท่อของตนเอง Nordstream 1. ก็ไม่ได้รับก๊าสจาก Jamal-Pipeline อีก  และยังมีท่ออื่นๆ อีกมากมาย

ฉะนั้นไม่มีผลอะไรกับโปแลนด์และบุลกาเรียเลย   ตื่นเต้นไปเปล่าประโยชน์

เหมือนคนไม่พอใจร้านข้าวข้างบ้าน หลายคนยอมเดินทางลำบากไปซื้อข้าวร้านแพงกว่า

แปลกตรงไหนละคับ

คนทำแบบนี้เยอะแยะ ไม่เห็นมีใครตาย