เราเชื่อค่ะว่า อีกหนึ่งปัญหาที่สาวๆแบบเรากังวลใจไม่น้อย (ซึ่งรวมไปถึงเราด้วยค่ะสาวๆ ><) คงหนี้ไม่พ้นปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นจะเป็น ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ เพราะเจ้าปัญหาที่ว่าเนี่ย เป็นปัญหาที่ค่อนข้างดูแลยาก บางคนเป็นแล้ว อาจกลับมาเป็นซ้ำอีก หรือเป็นแล้วหายช้ามากๆ และยิ่งเป็นสาวๆวัยเลข 3 แบบเราแล้วด้วย ก็ไม่ต้องพูดถึงค่ะ ยิ่งอายุมากขึ้น ผิวก็ยิ่งอ่อนแอลง (เศร้าค่ะ T-T)
     แต่สาวๆค่ะ ถึงแม้ว่าปัญหาที่สาวๆที่ว่าจะน่ากลัวแค่ไหน สาวๆก็อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ เพราะว่าวันนี้เรามีอีกหนึ่งตัวช่วยดีๆที่ต้องบอกเลยค่ะว่า เข้าใจปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ อย่าง ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำได้ดีมากๆ กับนี้เลยค่า “La Vitta Anti-Melasma Spot Serum” นั่นเองค่า 
  ด้วยสารสกัดที่สำคัญ อย่าง
     • สารสกัดมะขามป้อม ที่จะเข้าไปช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก จึงช่วยทำให้ฝ้าตื้นขึ้น และดูจางลง 
     • ไนอะซีนาไมด์ (Niacinamide) ที่ช่วยทำให้จุดด่างดำลดลง และช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
     • สารสกัดจากใบบัวบก (ลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์) ที่จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และคอลลาเจนใต้ชั้นผิว จึงทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับ ดูอ่อนเยาว์
     • สาร ECa และสาร บี-รีซอซินอล ที่ช่วยทำให้ ฝ้า กระ และจุดด่างดำ ดูจางลงใน 3 สัปดาห์ 
      และที่สำคัญเค้ายังได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นแห่งชาติ ถึง 3 ปีซ้อนอีกด้วยค่า 
     มาต่อกันที่กันบ้างนะคะ สำหรับเนื้อสัมผัสเค้าเป็นเซรั่มสีขาว ที่ให้เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย และสามารถซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ทิ้งความมัน ไม่เหนียวเหนอะ สำหรับในส่วนของกลิ่นเค้าไม่มีกลิ่นค่า 
     มาที่วิธีใช้กันต่อเลยดีกว่าค่า สำหรับวิธีใช้ก็ง่ายและสะดวกมากๆ โดยเราจะแต้มบางๆบริเวณรอยฝ้า กระ จุดด่างดำหรือรอยหมองคล้ำ เป็นประจำทั้งในตอนเช้าและก่อนนอนค่า  
      เป็นยังไงกันบ้างค่ะสาวๆสำหรับ “La Vitta Anti-Melasma Spot Serum” ขวดนี้ ต้องบอกเลยค่ะว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย แต่เราจะบอกว่ายังมีสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าอย่าง ความรู้สึกหลังจากที่ได้ทดลองใช้ในครั้งแรก และผลลัพธ์ของเค้านั่นเองค่า
     มาเริ่มกันที่ความรู้สึกหลังจากที่ได้ทดลองใช้ในครั้งแรกก่อนเลยนะคะ ส่วนตัวเราต้องบอกเลยค่ะว่า เค้าทำมาได้ดีมากๆ ตั้งแต่ Packaging ที่เป็นขวดหัวปั้มทำให้ใช้งานง่าย และช่วยลดการปนเปื้อนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ตามมาด้วยเนื้อเซรั่มของเค้าที่บางเบา เกลี่ยง่าย และสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้เป็นอย่างดี จึงไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ Skincare ในขั้นตอนต่อไปได้โดยที่ไม่หนักหน้าเลยค่ะสาวๆ และที่สำคัญเลยก็คือ เค้าไม่ทำให้เกิดการแพ้ หรือระคายเคือง แถมยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่า 
     มาต่อกันที่ผลลัพธ์กันเลยนะคะ (ตรงนี้เราได้ทดลองใช้เป็นประจำทั้งเช้าและก่อนนอน ประมาณ 3 สัปดาห์) สำหรับผลลัพธ์เราสัมผัสได้เลยค่ะ รอยดำที่เกิดจากสิว ดูจางลง สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น และที่ดีต่อใจสุดๆไปเลยก็คือ รอยกระบางๆบริเวณโหนกแก้มที่เป็นปัญหากวนใจของเราก็ดูจางลงจนสังเกตุได้เลยค่า (ถ้ารู้ว่าดีขนาดนี้ใช้มาตั้งนานแล้วแหละ^^)