สืบเนื่องจากปัญหาจากคนข้างบ้าน (พี่ชายแม่) นำสิ่งของที่เรามองว่าเป็นขยะ เช่น หมอนเก่า กระเป๋า รางหุ้มสายไฟ โฟม ลังกระดาษ เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า ที่เก็บมาจากกองขยะมาไว้ที่บ้านเรา โดยทั้งๆ ที่เขาก็มีพื้นที่ซึ่งเป็นบ้านของตัวเอง (งงว่าทำไมไม่ไว้บ้านตัวเอง เดาว่าบ้านเขาไม่มีที่เก็บของ บ้านเรามีหลังคาเอาไว้จอดรถ ซึ่งเขาวางไว้ตรงนั้น) เขาค่อยๆ ขนเข้ามาในบ้านเราโดยเริ่มตั้งแต่ปี 2554 เพราะตอนนั้นเกิดน้ำท่วม แม่สงสารที่เขาไม่มีที่อยู่เลยอนุญาตให้เอาของมาฝากไว้ที่บ้าน หลังจากน้ำลดเขาก็ค่อยๆ ขนของเข้ามาฝากเรื่อยๆ จนกระทั่งมันรกเต็มหน้าบ้านเรา เราจึงไปแจ้งให้เขาขนย้ายออก เพราะต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ซึ่งก็ไม่ขนย้ายสิ่งใดๆ ออก แม่เราจึงทำการเก็บของบางส่วนออกที่เป็นขยะ (กระดาษที่ปลวกกิน ลังโฟมเก่า กระสอบที่เปื่อยยุ่ยออก) ทำให้เกิดเรื่องขึ้น โดยลุงข้างบ้านเข้ามาทำร้ายแม่เราโดยทำการตบเข้าที่ใบหน้า แม่จึงเข้าแจ้งความ ตำรวจลงเป็นคดีทะเลาะวิวาท (มันเป็นทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย อันนี้สงสัยมาก) แม่ลงบันทึกประจำวันว่าห้ามเขาเอาของเข้ามาในบ้านอีก แต่ให้เอาของออกไปได้ แม่ได้ทำการเปลี่ยนกุญแจบ้านด้านในซึ่งแม่เคยให้กุญแจบ้านกับลุงไว้ (สมัยตอนยังคุยกันรู้เรื่องเพราะเขามาขออาศัยส้วมบ้านเราใช้ บ้านเขาไม่มีส้วม) หลังจากมีเรื่องลุงข้างบ้านได้พูดขู่ว่าถ้าย้ายของกูตาย ซึ่งเเม่เราอยู่บ้านคนเดียว เราทำงานอยู่ต่างจังหวัด กลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์ เราจะมีวิธีอย่างไรบ้างที่ทำให้เขาขนของออกไปโดยเร็ว ทุกวันนี้ตอนกลับบ้านเราก็จะทะยอยขนของบางส่วนไปทิ้งโดยไม่ให้ลุงข้างบ้านรู้ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยแม่ ตั้งแต่มีเรื่องจนถึงตอนนี้ก็จะสองปี ของไม่ได้เอาเข้าเพิ่ม เอาออกไปบ้างแต่ยังเหลืออีกเยอะมาก จะทำอย่างไรดี เวลาจะทำอะไรเขาก็จะมายืนจ้องเขม่งเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ก็ไม่รู้ทำไมไม่ขนออกไปสักที ถ้าจะหวงไม่ให้แตะขนาดนี้ มีใครพอจะมีวิธีทำให้เขาเอาของออกไปเร็วๆ ได้บ้าง กลับบ้านทีไรก็หงุดหงิดใจมาก ทำอะไรไม่ได้สักอย่างนอกจากแอบเอาไปทิ้ง
ทุกวันนี้บ้านที่ลุงคนนั้นอยู่ก็รกมากเนื่องจากเขาเอาของมาไว้ที่บ้านเราไม่ได้