รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 58 ทวงสัญญา

รับคำท้าฯ
ตอนที่ 58
 
ปฏิการจ้องมองยัยตัวแสบไม่วางตา  รอยยิ้มยังระบายอยู่บนสีหน้านั้นตลอดเวลา เขายอมตัดผมขนาดนี้แล้ว เธอต้องยอมรับเขาเป็นแฟนแล้วล่ะ
“แล้วของแถมล่ะ  ลืมรึเปล่า”  หนุ่มจอมกวนยื่นหน้ามากระซิบบอกเบา ๆ  น้ำเสียงยียวนกวนประสาทอยู่ในที

“หรือว่า...  เปลี่ยนให้ฉันทำแทนก็ได้นะ  แค่นี้เองไม่เป็นปัญหาเลย  ฉันทำได้  สบายมาก”  

“บ้าสิ!  อย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ”  ปริมาตะหวาดเสียงเขียว  เมื่อนึกถึงคำสัญญา  นอกจากจะต้องยอมรับเขาเป็นแฟนแล้ว  ถ้าเขาเปลี่ยนตัวเองได้จริง เธอต้องหอมแก้มเขาเป็นการขอโทษที่เคยสบประมาทว่า น้ำหน้าอย่างเขาจะไม่มีวันทำได้  ไม่มีทางจะเปลี่ยนชีวิตตัวเองเพื่อเป็นแฟนกับเธอได้อย่างแน่นอน
หญิงสาวรีบถอยตัวออกห่าง   รู้สึกกลุ้มหนักกับคำถามก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี  คำถามใหม่ดันเข้ามาทำให้ปวดสมองอีกแล้ว   เธอค่อย ๆ ก้มลงหยิบดอกไม้ที่หล่นลงบนพื้นเพื่อเป็นการถ่วงเวลา

“เอ้า!  เร็วสิ!  หรือว่าเธอจะเบี้ยว!  ฉันจะได้จำเอาไว้ว่า  คำพูดของเธอเชื่อถือไม่ได้”

ปริมาได้แต่นิ่งเงียบ  สมองกำลังครุ่นคิดทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะไอ้ของแถมเนี่ย...! หนักใจที่สุด จะเลี่ยงเขาอย่างไรดีจึงจะไม่เสียคำพูด  และคนอย่างเธอไม่เคยเสียคำพูดกับใคร  สิ่งที่พูดไปแล้ว รับปากแล้ว ต้องทำได้เสมอ

“ก็...ก็...โอเคไงเล่า…”  เธออ้อมแอ้มยอมรับเขาตามสัญญา

หนุ่มหน้าหวานทำหน้าตื่นเต้นด้วยความดีใจสุด ๆ

“เธอยอมรับฉันเป็นแฟนแล้วนะ!!!” เขาฉีกยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง

“ของแถมด้วย อย่าลืม!”  คนพูดยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“ฉัน...ขอโทษที่เคยสบประมาทนายก็แล้วกันนะ โอเคนะ” เธอพยายามใช้คำขอโทษแทนเป็นการต่อรอง

“ฉันไม่รับการขอโทษเป็นคำพูด  ฉันขอรับคำขอโทษเป็นการกระทำ”  อีกฝ่ายไม่ยอมรับคำขอโทษด้วยวาจาของเธอ

‘โอ๊ย............!! ให้ตายสิ!’

เธอตัดสินใจ  เป็นไงเป็นกันวะ! จะได้จบ ๆ ไป
“หลับตาก่อนสิ!”

ปฏิการหลับตาลงตามคำขออย่างว่าง่าย  ปริมาจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอยู่ครู่หนึ่ง  เมื่อเขาตัดผมแล้ว ยอมรับเลยว่า เขาหล่อมากจริง ๆ ราวกับเทพบุตร  เบ้าหน้าฟ้าประทานมาชัด ๆ  ดูแมนขึ้นเป็นกองเลย ไม่นึกว่าเขาจะดูดีได้ขนาดนี้  แถมตอนนี้ยังมาทำหน้ายิ้ม ๆ อีก  แหม…มีความสุขจังเลยนะ   อยากจะหยิกแก้มคนตรงหน้ามากกว่า ทำได้แค่ยกมือขึ้นไปใกล้ ๆ แก้มของชายหนุ่ม ทำท่าบิดแก้มของเขาในอากาศอย่างหมั่นไส้  พลางทำสีหน้าเขม่นเข่นเขี้ยว

ปริมาข่มใจยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แก้มของชายหนุ่ม  ได้กลิ่นสบู่หอมสดชื่นอ่อน ๆ  แต่ก็ยังอึดอัดใจเหลือเกิน  ทำใจไม่ได้ทำยังไงก็ตัดใจไม่ลง  ไม่คิดว่าจะต้องมาทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้  นึกโกรธตัวเองจริง ๆ ที่พูดอะไรไม่คิด   ขนาดพ่อแม่  และพี่ชายที่แสนรัก  เธอยังไม่เคยเข้าไปหอมแก้มเลย  แล้วนี่เขาเป็นใครกัน?   ที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้   

‘โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย!!’

คนหลับตาแกล้งยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกนิด  เขาได้ยินเสียงลมหายใจของเธออยู่ใกล้มาก

สาวชาวสวนตกใจเมื่อใบหน้าของเขายื่นเข้ามาใกล้อีกจนเกือบจะชนกับหน้าของเธอแล้ว  รีบถอยตัวออกมาได้ทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ใจหายใจคว่ำหมดเลย

‘ร้ายนะ! เล่นแบบนี้ใช่มั้ย? เดี๋ยวเหอะ!’

เธอยกหมัดขึ้นมาอยากจะตะบันหน้าของเขาแทนเหลือเกิน

แต่แล้วก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันควัน  รีบทำตามความคิดนั้นทันที มันจะได้จบเสียที ค่อย ๆ ยกมือขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว  ๆ   เกิดมาเคยตั้งใจถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายคนอื่นนอกจากพ่อกับพี่ชายที่ไหนกัน   แค่นี้ยังเป็นเรื่องยากสำหรับเธอเลย   รู้สึกลำบากลำบนอะไรอย่างนี้   แต่ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ก็ไม่รู้จะใช้วิธีไหนอีกแล้ว   กลั้นใจเอาหลังมือสัมผัสแก้มของเขาเบา ๆ แทน   แล้วรีบถอยออกมา

ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มเขินอาย

“ปริม…”  เขาจับมือข้างหนึ่งของเธอขึ้นมากุมไว้เบา ๆ ด้วยความรักอย่างถนุถนอม

“ขอบใจปริมมากเลยนะ  สำหรับทุก ๆ อย่าง  เพราะเธอ  ฉันถึงเป็นแบบนี้ได้  ได้กลับมาเป็นผู้เป็นคนกับเขาอีกครั้ง  ฉันถึงอยากมีเธอไว้เคียงข้าง  เพื่อที่เธอจะได้ช่วยเตือนสติฉันไงล่ะ”

ถ้อยคำของชายหนุ่มกับสายตาที่มองตรงมา  ทำให้หญิงสาวนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ  ทำอะไรไม่ถูก  อยู่ดี ๆ เข้ามาจู่โจมแบบนี้  เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน   หลังจากไล่ตามสติสตังค์กลับมาครบบริบูรณ์แล้ว  รีบสะบัดมือออกจากการกุมไว้ของชายหนุ่ม  เอามืออีกข้างตีผวัะ!!  ลงบนมือของเขาอย่างแรง  เป็นการปราม  และเริ่มร่ายกฎข้อบังคับ

“ห้ามมาถูกเนื้อต้องตัวฉันนะ  เข้าใจมั้ย!  ถึงแม้ฉันจะยอมรับนายเป็น….”  คำสุดท้ายเสียงพาลขาดหายลงลำคอไปเสียเฉย ๆ

“แฟน!”  เขาเน้นคำต่อให้คนปากแข็ง  พลางยิ้มหวานอย่างมีความสุข   สิ่งนี้เองที่เขาต้องการจากเธอมานานแล้ว  ต้องการให้เธอยอมรับเขานั่นเอง  ยอมรับเขาในฐานะคนพิเศษของหัวใจ

“เออ…นั่นแหละ  หากวันไหน  นายกลับไปเป็นเหมือนเดิม  สัญญาระหว่างเรา  สัมพันธ์ทุกอย่างของเราเป็นอันจบสิ้นกัน  นายห้ามทำผิดแม้แต่ข้อเดียว”  น้ำเสียงนั้นขึงขังเอาจริงเอาจัง

“ฉันจะรักษาสัญญาทุกอย่างของเราไว้  พอ ๆ กับการรักหัวใจตัวเองที่จะได้มีปริมอยู่เคียงข้างฉันตลอดไป”  เขายิ้มมองเธออย่างมีสุข  ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่ขาดหายไปนานแล้ว  ถูกเติมเต็มด้วยคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้

“ต่อไปนี้นะ  ถ้าใครมาถามปริมว่า มีแฟนรึยัง  ต้องตอบว่า…”  

ปริมาขมวดคิ้วย่นยู่ยี่ แล้วตอบเลี่ยง ๆ ไป 

“รู้แล้วน่า…”  

คิดในใจว่า…ตายล่ะ!!  ต่อไปนี้เธอกลายเป็นคนมีเจ้าของไปเสียแล้วหรือนี่!!

“ว่า…อะไร  ตอบมาเร็วเข้า”  หนุ่มจอมกวนยังไม่พอใจกับคำตอบ  ทำสีหน้าขึงขัง

“มีแล้ว!!  พอใจรึยัง!”  แล้วสะบัดหน้าหนี เดินกลับไปตั้งหน้าตั้งตาจัดดอกไม้ต่อ

ปฏิการพยักหน้าอย่างพอใจ  ยิ้มหน้าบาน  ก่อนเดินตามเธอไป

“ปริม…จำได้มั้ย  คืนที่เรานั่งดูดาวด้วยกัน  แล้วมีดาวตก  รู้มั้ยว่า…ฉันอธิษฐานว่าอะไร”

“ก็นายไม่บอก  ฉันจะไปรู้เหรอ” 

“ฉันอธิษฐานว่า  ขอให้คนที่ฉันต้องทำตามสัญญา  คนที่ฉันจะทุ่มเทให้กับเขาเป็นคนดี”

ปริมายิ้ม  อย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยินถ้อยคำจากเขา  

“แล้วเธอล่ะ  อธิษฐานว่าไง  ฉันยอมบอกก่อนแล้วนะ”  

“บังเอิญมากเลยรู้รึเปล่า…”

“ทำไมหรอ”  หนุ่มนักดนตรีทำหน้าตาสนอกสนใจเป็นพิเศษ

“ก็อธิษฐานเหมือนกันน่ะสิ  ฉันอธิษฐานว่า  ขอให้คนที่ฉันต้องยอมรับ  ทำตามสัญญาเป็นคนดี”

ปฏิการหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ  แต่รู้สึกดีที่รู้ว่าเธอคิดเหมือนกัน  สายตาเฝ้ามองเธอกำลังจัดดอกไม้อย่างไม่ยอมหันเหสายตามองไปทางไหนอีกเลย

คนจัดดอกไม้พยายามไม่สนใจว่าเขากำลังมองอยู่   แต่มือไม้กลับหยิบจับดอกไม้อย่างเงอะงะชอบกล  อดครุ่นคิดในใจไม่ได้  จะมองอะไรกันนักกันหนานะ  จะทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้ว!!  อยู่ ๆ เกิดคำถามขึ้นมาในสมอง  เขาจะดีกับเธอแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่า?  ถ้าวันไหนเขาไม่เหมือนเดิม  เธอคงจะเสียใจ  เหมือนเพื่อนบางคนเคยพูดด้วย แล้วต่อมาไม่พูดด้วยเธอยังเสียใจเลย  เธอเคยลงเรื่องในเฟสบุ๊ก  เพื่อนคนนี้จะมาคอมเม้นต์ให้เธอเสมอเลย ต่อมาเธออาจจะทำผิดกับเขาบางเรื่อง ซึ่งเธอได้คอมเม้นต์ขอโทษแล้ว  แต่เขาก็ไม่เหมือนเดิม  ไม่คอมเม้นต์ให้เธออีกแล้ว แค่มากดถูกใจให้แค่นั้น ทำเหมือนคนอื่น ๆ ที่กดหัวใจให้แล้วก็ผ่านไป  ทั้ง ๆ ที่เขาเคยพูดกับเธอตลอด  มันคงเสียเวลาเกินไปที่เขาจะทักทายตอบคอมเม้นต์ของเธอเหมือนเดิม แค่นี้เธอยังเสียใจเลย เธอควรจะเว้นระยะห่างกับเพื่อนคนนี้ใช่ไหม  ถ้าเขาไม่เหมือนเดิม เราจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก...บางทีเธอไม่อยากรู้จักกับใครมากเกินไป  เพราะสุดท้ายก็มีแต่เธอที่เสียใจคนเดียว เขาคงไม่เคยแคร์เธอเลยว่าจะรู้สึกอย่างไร?  เขาคงมีเพื่อนมากมายที่ต้องตอบ ต้องอ่าน เธอคงไม่มีความหมายที่เขาจะมานั่งเสียเวลาตอบคอมเม้นต์ของเธออีกแล้ว  เธอควรเคารพสิ่งที่เขาตัดสินใจทำแบบนี้ หยุดเรียกร้องที่อยากจะได้อะไรที่เหมือนเดิม  กับหนุ่มหน้าหวานก็เหมือนกัน เธอควรจะให้เขาก้าวเข้ามาในใจมากกว่านี้ไหม? แม้จะรู้ดีว่า ทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอน  แม้จะรู้สึกลังเล  แต่ใจหนึ่งก็กลัวจะเสียเขาไป  เหมือนภาพที่เขากำลังจะหันหลังเดินจากเธอไปครั้งก่อน  เธอไม่อยากเห็นภาพนั้นอีก...

“ปริม…ฉันมีอะไรจะบอกเธอ”  เขาพูดขึ้นทำลายความเงียบงัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่