กรุงเทพ-เดินเล่นพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน ชุมชนชาวคริสต์เชื้อสายโปรตุเกสที่อพยพมาจากกรุงศรีอยุธยาแต่เก่าก่อน


ย่านนี้ผมเดินเล่นมาหลายปีจนกระทั่งหลังปี พ.ศ.๒๕๑๙ ผมก็แทบไม่ค่อยได้กลับมาสักเท่าไหร่
หลังจากห่างหายไปนานก็ได้มีโอกาสกลับมาเยือนอีกครั้งในช่วงปลายปี พ.ศ.๒๕๖๒

ประวัติเรือน
...อาคารพิพิธภัณฑ์หลังนี้ แต่เดิมเป็นบ้านของ ลุงพอง-ป้าชล็อต (สกุลทอง) หอมนิยม
เมื่อท่านทั้งสองได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ได้ตกเป็นของพี่ลักษณ์ (พี่เพิ่มศักดิ์ หอมนิยม) ทายาทแต่ผู้เดียว

ซึ่งในบั้นปลายชีวิตของท่านก่อนถึงแก่กรรมไม่นาน 
ได้ขายโอนกรรมสิทธิ์การเช่าที่ดินของวัดซางตาครู้สและตัวอาคารให้ทางพิพิธภัณฑ์

...จากการบอกเล่าของพี่ลักษณ์ เรือนหลังนี้สร้างมานานเป็นร้อยปี โดยนายช่างชาวจีนชื่อพุก

ลักษณะของบ้าน เป็นบ้านไม้สองชั้น ใต้ถุนสูงประมาณ ๑.๒๐ เมตร ตามแบบทั่วไปของบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำและน้ำท่วมถึงทุกปี
เพื่อว่าเมื่อเวลาน้ำมาก็ไหลผ่านได้ เมื่อหมดหน้าน้ำก็สามารถใช้ประโยชน์ได้จากพื้นที่นี้ได้ต่อไป

...เมื่อจะจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและซ่อมแซมบ้างในบางส่วนเพื่อความเหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน

โดยพยายามจะให้คงสภาพเดิมมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เช่นลักษณะตัวเรือนคร่าวหน้าต่างประตู ลวดลาย ไม้แกะสลัก กระจกสีต่างๆ 
รวมถึงตัวอักษรย่อ MPH ที่อยู่บนผนังชั้นสามหน้าบ้าน อันหมายถึงชื่อนักบุญ ชื่อตัวและนามสกุลของเจ้าของบ้านคือ มีคาแอล พอง หอมนิยม 
อีกทั้งการวางผังห้องแต่ละห้องด้วย ดังที่เห็น

ผมกลับมาแถบนี้ในช่วงปลายปี พ.ศ.๒๕๖๒ เพราะตั้งใจจะแวะมาเยี่ยมเพื่อนๆ คนรู้จักที่ยังหลงเหลืออยู่
แต่ก็โชคไม่เข้าข้างสักเท่าไหร่ ที่เพื่อนๆ และคนรู้จักหลายต่อหลายคนได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นๆ กันเกือบหมดแล้ว
ก็ได้แต่เดินเล่นดูความเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ผ่านไป

ในตัวอาคารพิพิธภัณฑ์นี้ชั้นบนก็จะเป็นการแสดงที่มาที่ไปของชุมชนย่านนี้

หลากหลายภาพ และสิ่งของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ที่นี่ ล้วนแต่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ 
และหลายๆ ชิ้น ต้องยอมรับว่า ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี นั่นเท่ากับว่า ผ่านการดูแลด้วยใจอันมุ่งมั่นจริงๆ ครับ

...ชั้นบนสุดยังทำเป็นจุดชมวิวให้ได้เห็นย่านกุฎีจีนจากมุมสูงด้วย


<<< บันทึกท้ายกระทู้ >>>
สถานที่นี้เข้าชมฟรีครับ
แต่สิ่งที่เชิญชวนให้มาที่นี้ นอกจากการชมสิ่งต่างๆ ที่จัดแสดงแล้ว ก็อยากจะขอเชิญชวนให้ลองลิ้มชิมรส
อาหารต่างๆ ซึ่งในวันที่ผมได้เดินทางไปค่อนข้างอากาศร้อน จำได้ว่า นั่งชิมเฉาก๊วยไปหลายถ้วยทีเดียวครับ
เจ้าของและ/หรือผู้ดูแลที่นี่อัธยาศัยดีมากๆ ครับ ผมได้รับมิตรภาพและเรื่องราวที่น่าสนใจหลายสิ่งทีเดียวครับ

นอกจากนี้ผมก็ได้สอบถามถึงบุคคลต่างๆ ที่ผมมาแวะหา แต่ก็กลายเป็นเรื่อง "เศร้า" ตามที่กล่าวถึงข้างต้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่