สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้เราจะมารีวิวการเป็น Aupair ที่อเมริกานะคะ
เกริ่นก่อนค่ะ เราเรียนจบ ป.ตรีที่ไทยมาค่ะ ทำงานมาหลายงานมาก จนเริ่มเบื่อ เลยอยากลองไปหาประสบการณ์ที่ต่างประเทศดูบ้าง
ตั้งแต่เด็ก เราชอบทุกอย่างที่เป็นเมืองนอก ชอบหาอ่านกระทู้ใน Pantip นี่แหละค่ะ ภาพพักหน้าจอก็เป็นภาพ Landscape สวยๆ แอบ Save มาจาก กระทู้ใน Pantip เยอะม้ากกก เรียกได้ว่าค่อนข้างเป็นตุเป็นตะ เป็นเอามาก 55555 อาจจะเป็นกฏของแรงดึงดูดก็เป็นได้
พอทำงานที่ไทยได้หลายปีก็พบว่า เราอาจจะไม่เหมาะกับที่นี่ ( หรืออาจไม่เหมาะเลยกับทุกที่ ><) ระบบเส้นสายและเงินตรามันช่างโหดร้ายจริงๆ
เลยหาลู่ทาง ทำการ Search เลยจ้า ไปต่างประเทศ/ ทำงานต่างประเทศ ตอนนั้นอายุยังไม่เยอะ
ก็พอดี ได้พบกับโครงการ Aupair หรือ ออแพร์
เป็นพี่เลี้ยงเด็ก กินอยู่กับ Host Family ฟรี เลี้ยงลูกเขา ได้เงินด้วย (แต่เงินน้อยมากกก) ก็เลยเอาวะ เรามันสายลุย สายสู้ชีวิตอยู่แล้ว เลยลองอ่านรายละเอียดดู ก็พบว่า เราไปเองไม่ได้ ต้องไปผ่านเอเจนซี่ พอผ่านเจอแบบนั้นก็ไม่รีรอค่ะ โทรหาเลย เอเจนซี่ที่เราไปคือ Cultural Care Aupair นะคะ ตอนนั้นก็คือเจออันนี้ปุ๊บ เอาเลย เพราะน่าเชื่อถือ และเราเป็นคนเชื่อคนง่าย (แต่ตอนนี้ปิดตัวลงที่ไทยแล้วน้าา) จริงๆมันมีหลายเจ้ามากที่ยังเปิดอยู่ เพื่อนๆลองหาดู
พอติดต่อ Agency เรียบร้อย เค้าก็นัดแนะวันเข้าไปฟังรายละเอียด ว่าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
พอวันจริงที่ไปฟังรายละเอียดก็พบว่ามีคนมาฟังเยอะมากกก มีแต่คนสวยๆ สาวเรียนการบินงี้ เออแต่เราจะบอกว่าเรื่องภาษาก็สำคัญนะ คือไม่ต้องขนาด Native Speaker หรือสไตล์ลูกคุณ เรียนอินเตอร์มาไรงี้ แค่พอฟังออก พูดสื่อสารได้ก็พอ แต่เดี๋ยวพี่เค้าจะ โทรมาคุยเองว่าเราอยู่ในระดับไหน ไปโน่นแล้วจะเอาตัวรอดได้มั้ย สำหรับคุณสมบัติทั่วไปนะ
อันดับแรกเลย อายุ 18- 26 ปี ไม่เกิน 27 ในวันที่บิน อันดับต่อมา มีวุฒิขั้นต่ำ ม.6 คุณสมบัติอีกข้อเลย คือต้องมีชั่วโมงเลี้ยงเด็ก ทั้งเด็กอ่อน และเด็กโต อย่างน้อย 400 ชั่วโมง (ในช่วงนั้นที่เรามาคือปี 2018 นะ แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ต้องลองไปคุยกบเอเจนซี่ดู) ข้อสุดท้ายมีใบขับขี่จ้าา อ้อ แล้วค่าโครงการที่ควรมีขั้นต่ำนะ เตรียมไว้เลย 7 หมื่น คร่าวๆนะ รวมค่าวีซ่าด้วย
เราพอได้ข้อมูลดังนั้นก็รีบเลย ตอนนั้น เราอายุ 25 ปี ทำงานมาหลายปีก็พอมีเงินเก็บ (บ้าง ><") เลยรีบหาที่เก็บชั่วโมง จริงๆชั่วโมงการเลี้ยงหลานก็เอามาใช้ได้น้าา พอดีเราหางานใน Facebook ได้งาน nanny part time กับที่หนึ่ง เลยเก็บชั่วโมงได้ทัน ครบ การหาสถานที่เก็บชั่วโมงที่เราแนะนำคือ ลอง Search ใน Google เลย หา Nursery ไกล้บ้าน แล้วโทรถามเค้าว่า รับออแพร์ที่มาเก็บชั่วโมงมั้ยค้าาา จะได้ไม่ต้องเสียเวลา Walk in เข้าไป
(ตอนเก็บชั่วโมงอย่าลืมถ่ายรูปไว้เยอะๆ เอามาใส่ Profile ตัวเองตอนหา Host ) พอทุกอย่างครบ เราก็จะต้องทำ Video สำหรับ Present ให้ host ดู ซึ่งทุกอย่างจะ Upload ลงหน้าเว็บ Agency ที่เราสังกัด
เข้าสู่ขั้นตอน Online จะบอกว่าช่วงแรกๆมันจะเงียบบบบ มากกกก พวกเทอต้องอดทนรอออ อย่างเดียว เดือนแรกคือ มีเข้ามาบ้านเดียว บ้านอินเดียจ้าาา อยู่ NYC นิวหยวกที่ฉันใฝ่ฝัน แต่ก็ไม่กล้าที่จะฝัน 5555
คุยไปคุยมานัดแนะกันเรียบร้อย ห้องนางคือ Apartment หรือใจกลางแมนแฮตตัน นิวหยวกก นี่คือไหว้พระเช้าเย็นตอนนั้น ขอให้ได้บ้านนี้ สรุปคือนางเทจ้าาาา เหตุผลคือ นางบอกฉันดูเป็นคนไม่ Alert อยากได้คนพูดมาก Cheerful น่าเริง เหอะๆ ไม่เป็นไร ปรึกษาพี่ๆที่ Agent เค้าบอกใจเย็นๆหญิง เดี๋ยวมีเข้ามาอีก
หลังจาก Fail จากบ้านแรก NYC ที่ฉันใฝ่ฝัน ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็มีบ้านอื่นเร่เข้ามาเรื่อยๆจ้า จำได้มีบ้านนึง ลูก 3 บ้าไปแล้ว มีหมาอีก ตายแน่ๆ แต่ดีที่นางเทฉัน 55555 เทเก่ง จนมาเจอบ้านสุดท้าย เด็กคนเดียวเหมือนแม่น้องจะชอบฉันมาก Video call 3-4 รอบ ก็เพราะเรามันสวย สุดท้ายฉันเข้ารอบ Prelim และ Final จ้า เพราะเพื่อนอีกคนที่เค้าเลือกไว้สละสิทธ์
[CR] รีวิว ชีวิตการเป็น Aupair ที่อเมริกา
วันนี้เราจะมารีวิวการเป็น Aupair ที่อเมริกานะคะ
เกริ่นก่อนค่ะ เราเรียนจบ ป.ตรีที่ไทยมาค่ะ ทำงานมาหลายงานมาก จนเริ่มเบื่อ เลยอยากลองไปหาประสบการณ์ที่ต่างประเทศดูบ้าง
ตั้งแต่เด็ก เราชอบทุกอย่างที่เป็นเมืองนอก ชอบหาอ่านกระทู้ใน Pantip นี่แหละค่ะ ภาพพักหน้าจอก็เป็นภาพ Landscape สวยๆ แอบ Save มาจาก กระทู้ใน Pantip เยอะม้ากกก เรียกได้ว่าค่อนข้างเป็นตุเป็นตะ เป็นเอามาก 55555 อาจจะเป็นกฏของแรงดึงดูดก็เป็นได้
พอทำงานที่ไทยได้หลายปีก็พบว่า เราอาจจะไม่เหมาะกับที่นี่ ( หรืออาจไม่เหมาะเลยกับทุกที่ ><) ระบบเส้นสายและเงินตรามันช่างโหดร้ายจริงๆ
เลยหาลู่ทาง ทำการ Search เลยจ้า ไปต่างประเทศ/ ทำงานต่างประเทศ ตอนนั้นอายุยังไม่เยอะ
ก็พอดี ได้พบกับโครงการ Aupair หรือ ออแพร์
เป็นพี่เลี้ยงเด็ก กินอยู่กับ Host Family ฟรี เลี้ยงลูกเขา ได้เงินด้วย (แต่เงินน้อยมากกก) ก็เลยเอาวะ เรามันสายลุย สายสู้ชีวิตอยู่แล้ว เลยลองอ่านรายละเอียดดู ก็พบว่า เราไปเองไม่ได้ ต้องไปผ่านเอเจนซี่ พอผ่านเจอแบบนั้นก็ไม่รีรอค่ะ โทรหาเลย เอเจนซี่ที่เราไปคือ Cultural Care Aupair นะคะ ตอนนั้นก็คือเจออันนี้ปุ๊บ เอาเลย เพราะน่าเชื่อถือ และเราเป็นคนเชื่อคนง่าย (แต่ตอนนี้ปิดตัวลงที่ไทยแล้วน้าา) จริงๆมันมีหลายเจ้ามากที่ยังเปิดอยู่ เพื่อนๆลองหาดู
พอติดต่อ Agency เรียบร้อย เค้าก็นัดแนะวันเข้าไปฟังรายละเอียด ว่าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
พอวันจริงที่ไปฟังรายละเอียดก็พบว่ามีคนมาฟังเยอะมากกก มีแต่คนสวยๆ สาวเรียนการบินงี้ เออแต่เราจะบอกว่าเรื่องภาษาก็สำคัญนะ คือไม่ต้องขนาด Native Speaker หรือสไตล์ลูกคุณ เรียนอินเตอร์มาไรงี้ แค่พอฟังออก พูดสื่อสารได้ก็พอ แต่เดี๋ยวพี่เค้าจะ โทรมาคุยเองว่าเราอยู่ในระดับไหน ไปโน่นแล้วจะเอาตัวรอดได้มั้ย สำหรับคุณสมบัติทั่วไปนะ
อันดับแรกเลย อายุ 18- 26 ปี ไม่เกิน 27 ในวันที่บิน อันดับต่อมา มีวุฒิขั้นต่ำ ม.6 คุณสมบัติอีกข้อเลย คือต้องมีชั่วโมงเลี้ยงเด็ก ทั้งเด็กอ่อน และเด็กโต อย่างน้อย 400 ชั่วโมง (ในช่วงนั้นที่เรามาคือปี 2018 นะ แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ต้องลองไปคุยกบเอเจนซี่ดู) ข้อสุดท้ายมีใบขับขี่จ้าา อ้อ แล้วค่าโครงการที่ควรมีขั้นต่ำนะ เตรียมไว้เลย 7 หมื่น คร่าวๆนะ รวมค่าวีซ่าด้วย
เราพอได้ข้อมูลดังนั้นก็รีบเลย ตอนนั้น เราอายุ 25 ปี ทำงานมาหลายปีก็พอมีเงินเก็บ (บ้าง ><") เลยรีบหาที่เก็บชั่วโมง จริงๆชั่วโมงการเลี้ยงหลานก็เอามาใช้ได้น้าา พอดีเราหางานใน Facebook ได้งาน nanny part time กับที่หนึ่ง เลยเก็บชั่วโมงได้ทัน ครบ การหาสถานที่เก็บชั่วโมงที่เราแนะนำคือ ลอง Search ใน Google เลย หา Nursery ไกล้บ้าน แล้วโทรถามเค้าว่า รับออแพร์ที่มาเก็บชั่วโมงมั้ยค้าาา จะได้ไม่ต้องเสียเวลา Walk in เข้าไป
(ตอนเก็บชั่วโมงอย่าลืมถ่ายรูปไว้เยอะๆ เอามาใส่ Profile ตัวเองตอนหา Host ) พอทุกอย่างครบ เราก็จะต้องทำ Video สำหรับ Present ให้ host ดู ซึ่งทุกอย่างจะ Upload ลงหน้าเว็บ Agency ที่เราสังกัด
เข้าสู่ขั้นตอน Online จะบอกว่าช่วงแรกๆมันจะเงียบบบบ มากกกก พวกเทอต้องอดทนรอออ อย่างเดียว เดือนแรกคือ มีเข้ามาบ้านเดียว บ้านอินเดียจ้าาา อยู่ NYC นิวหยวกที่ฉันใฝ่ฝัน แต่ก็ไม่กล้าที่จะฝัน 5555
คุยไปคุยมานัดแนะกันเรียบร้อย ห้องนางคือ Apartment หรือใจกลางแมนแฮตตัน นิวหยวกก นี่คือไหว้พระเช้าเย็นตอนนั้น ขอให้ได้บ้านนี้ สรุปคือนางเทจ้าาาา เหตุผลคือ นางบอกฉันดูเป็นคนไม่ Alert อยากได้คนพูดมาก Cheerful น่าเริง เหอะๆ ไม่เป็นไร ปรึกษาพี่ๆที่ Agent เค้าบอกใจเย็นๆหญิง เดี๋ยวมีเข้ามาอีก
หลังจาก Fail จากบ้านแรก NYC ที่ฉันใฝ่ฝัน ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็มีบ้านอื่นเร่เข้ามาเรื่อยๆจ้า จำได้มีบ้านนึง ลูก 3 บ้าไปแล้ว มีหมาอีก ตายแน่ๆ แต่ดีที่นางเทฉัน 55555 เทเก่ง จนมาเจอบ้านสุดท้าย เด็กคนเดียวเหมือนแม่น้องจะชอบฉันมาก Video call 3-4 รอบ ก็เพราะเรามันสวย สุดท้ายฉันเข้ารอบ Prelim และ Final จ้า เพราะเพื่อนอีกคนที่เค้าเลือกไว้สละสิทธ์
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้