แชร์วิธีเตรียมสอบ TOEIC 950 ครับ และจะมาตอบคำถามว่า TOEIC ยากไหม?

คือเราคะแนนเก่าจะหมดในอีกไม่กี่เดือน ก็เลยไปสอบใหม่ เลยได้มีโอกาสมาแชร์รีวิว TOEIC 2022 นะครับ จะเป็นรีวิวแบบฉบับคนธรรมดา เด็กไทยทั่วไป ไม่ได้จบนอก ไม่ได้จบอักษร ไม่เคยติวคอร์ส TOEIC ฝึกทำครั้งแรกทำได้ 4xx คะแนน สอบมา 5 ครั้ง คะแนนเริ่มจาก ก็….มีทุกช่วงเลยผ่านมาหมดแล้ว  600 700 800 และมาจบ 950


ก่อนอื่นเลยขอบอกว่ารอบล่าสุดเราไม่ได้เตรียมตัวอะไรเยอะนะ แต่เรามีพื้นฐานมาแล้วนะ เราเลยทำแบบนี้ได้ ใครไปเจอกระทู้แบบ TOEIC ง่าย เมาๆไปสอบก็ได้ 900 อย่าไปใส่ใจนะครับ คนเหล่านั้นคือเค้าเตรียมตัวมาทั้งชีวิต อยู่กับภาษามาตลอด เราไม่ใช่แบบนั้น เราต้องเตรียมตัว ถ้าถามเราว่า TOEIC ยากไหม เราขอตอบว่ายากครับ ถ้าเราไม่มีพื้นฐาน เราเคยอยากได้ 800 มากๆตอนเริ่มอ่านหนังสือสอบ TOEIC ใหม่ๆ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ตอนปี 2015 อ่านจัดเต็มมากๆ ดูหนังฝึกภาษาเต็มที่เป็นเวลาครึ่งปีคือตอนนั้นไม่ทำงาน ลาออกมาเตรียมสอบ TOEIC อยากเป็นสจ๊วตมากๆครับตอนนั้น 555 แต่เราก็ได้ 790 กว่าจะได้ 800+ จริงๆก็คือเริ่มเข้าสู่โลกของภาษา ใช้ภาษาเรื่อยๆในการทำงาน ดูหนังซับ ENG มาเรื่อยๆอีกเป็นปีเลยครับ เอาเป็นว่ามองในมุมคนทั่วไป ผมขอบอกว่ามันยากครับ และต้องเตรียมตัวแน่นอน คนที่บอกว่าง่ายคือคนที่เตรียมมาทั้งชีวิต ใช้ภาษามาตลอดแบบจัดเต็มครับเลยไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มนั้นมันก็จะง่ายสำหรับคุณครับยิ้ม

กลับมาที่เนื้อหาหลักในโพสนี้นะครับ เราก็จะมาแชร์เทคนิควิธีการที่เราใช้เน้อ อาจจะยาวนิดนึงแต่อยากให้อ่านให้จบนะยิ้ม อ่อท้ายโพสมีลิ้งค์ข้อสอบนะ อยากให้อ่านก่อนไม่อยากแปะลิ้งค์ก่อน เลยเอาไว้ท้ายๆฮ่าๆ

เอาหละ เรามาเข้าเรื่องวิธีการฝึกนะครับ เราขอบอกเลยว่าวิธีการเตรียมตัวแบบที่เรากำลังจะอธิบายนี้นะ มันใช้ได้กับทุกข้อสอบ เรามั่นใจว่าการเตรียมพร้อมแบบนี้จะช่วยคุณได้แน่นอน หลักๆเลยก็มี 3 ข้อด้วยกัน

1.”Evaluate” ประเมินระดับภาษาของเราก่อนโดยการทำข้อสอบแบบฝึกหัดสัก 1 ชุด พอทำเสร็จเทียบคะแนนว่าเราอยู่ระดับไหน ไม่ต้องไปสอบจริงเด้อ ตอนนี้ 1,800 บาท แล้วนะ แพง5555

2.”Plan” หลังจากรู้ระดับภาษาของตัวเราแล้ว ขอให้วางแผนการเตรียมตัว ตั้งเป้าคะแนนเรา เช่นแบบตอนนี้ได้ 500 ต้องทำได้ 600-700 ในอีกสองเดือนครับ เราจะได้มีเป้าหมาย และก็ต้องตั้งเป้าให้อยู่บนความเป็นไปได้ครับ คือถ้าอยากได้ 800+900+ แต่ไม่มีพื้นฐานเลย ทำเทสได้ 400 คือมันต้องใช้เวลาเน้อ มันไม่มีทางเพิ่มขนาดนั้นได้ใน 1 เดือนไรงี้นะครับ ต่อให้ติวยังไงก็ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ขอยืนยันว่าเพิ่ม 100-200 คะแนน จากคะแนนเดิมใน 3 เดือนเป็นไปได้ครับ แต่ต้องเตรียมดีๆ ก็คือทำการแพลนโดยการหาว่าเราทำตรงไหนได้ดี ตรงไหนยังไม่ดีต้องปรับปรุงมากๆ ยกตัวอย่าง ถ้าทักษะการฟังเราดีอยู่แล้วได้คะแนนโอเครแล้ว การที่เราจะไปเน้นฝึกฟังเยอะๆ มันก็จะไม่ได้ช่วยคะแนนอ่านจริงไหม อันนี้ไม่ได้บอกให้ทิ้งไม่เตรียมฟังเลยนะ ก็เตรียมไปควบคู่กันแต่โฟกัสจุดอ่อนเรามากๆเน้อ

3.”Practise” พอวางแพลนเสร็จแล้วก็ฝึกเลย แต่ต้องฝึกอย่างถูกวิธีนะ ตรงนี้คือจุดที่คนส่วนใหญ่มักจะฝึกไม่ถูก ทำข้อสอบซ้ำๆ ทำจนหมดแทบทุกข้อสอบ ทำจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว คือเราจะบอกว่าการทำข้อสอบ พอทำจบแล้ว เราต้องศึกษาหาข้อผิดพลาดจากข้อสอบที่เราทำผิด ไม่ใช่ทำเสร็จแล้วก็ไปทำอันอื่นต่อเลย ถ้าทำแบบนั้นเราแทบจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมาเลย ขอให้ทุกคนฟังสคริปซ้ำในส่วนของฟัง เรียนรู้ว่าเราฟังไม่เข้าใจเพระาอะไร เราพลาดเพราะศัพท์ หรือเพราะเค้าพูดไวจับไม่ทัน ถ้าเราพลาดเพราะคำศัพท์ก็จดคำนั้นไปท่อง ถ้าพลาดเพราะฟังไม่ทัน ก็แนะนำว่าให้ฟังพร้อมอ่านสคริปซ้ำและฟังอีกครั้งแบบปิดสคริป สมองเราจะเรียนรู้และจำได้ว่า อ๋อ… เค้าพูดเชื่อมคำแบบนี้นี่เองและเราจะจับจุดได้เพราะรู้สคริปแล้ว และถ้าเจอคำพูดแบบไวๆคล้ายๆเดิมในอนาคตเราก็จะไม่พลาดอีกแน่นอน ส่วนพาร์ท Reading ยิ่งสำคัญมากๆสำหรับการทบทวน เราจะไม่ได้อะไรเลยยิ่งกว่าพาร์ทฟัง ถ้าเราไม่เช็คคำตอบว่าทำไมทำผิด การที่เราเรียนรู้จากข้อที่เราผิด มันจะช่วยให้เราจำสิ่งนั้นได้ไวมากขึ้นและจะไม่ผิดซ้ำ เพราะสมองเราจะจำได้เลยว่าแบบเคยผิดมาแล้วนะ อารมณ์แบบแค้นที่ผิดเลยจำ55

จบไปแล้วสำหรับวิธีเตรียมตัว เราจะต่อที่ทริคนะครับ ขอแบบเป็นข้อๆไปละกัน
-สอบช่วง Covid คนน้อยครับต่อรอบ นั่งห่างโต๊ะไม่ชน ใครไม่ค่อยมีสมาธิแบบเราสอบช่วงนี้จะดีหน่อย55 คือเราเคยเจอคนลบแรงมากโต๊ะสั่น 
-TOEIC เดี๋ยวนี้ห้ามแอบทำพาร์ทอ่านก่อนแล้วนะ
-พาร์ท 2 ของฟังมันจะมีพวกข้อที่แบบต้องตีความ ต้องตั้งใจฟังนะจับคำไม่ได้เลย เช่น แบบถามว่า Are you going out tonight?
I have a cold.
Yes, I did.
No, it’s tomorrow.
คือมันดูผิดหมดเลยใช่ไหมครับ เราก็ต้องวิเคราะห์ที่เป็นไปได้ที่สุด คือ I have a cold ฉันมีไข้นะ คือบอกเป็นนัยว่าไม่สบายจะไปได้ไง เดี๋ยวนี้ข้อสอบออกแบบนี้เยอะขึ้นมากๆ ถ้าใครฟังผ่านๆ แบบรีบตัดช้อยก็จะพลาดได้เน้อ
-ทักษะการฟังพัฒนาง่ายกว่าอ่าน ใครอยากบูสคะแนนขึ้นไวๆในช่วงเวลาสั้นๆแนะนำเน้นฝึกพาร์ทฟังครับ
-เวลาได้ศัพท์ใหม่ ให้ท่องโดยการแต่งประโยคโดยเอาเพื่อน หรืออะไรที่สำคัญในชีวิตมาเกี่ยวด้วย แล้วเราจะจำคำศัพท์คำนั้นได้ง่ายมาก! ยกตัวอย่าง สมมุติเราเพิ่งรู้ศัพท์ Fluctuate = ผันแปรบ่อยไม่คงที่ (v) เราก็โยงกับชีวิตจริงว่าเราเคยซื้อบิทคอยน์ แล้วมันขึ้นลงๆบ่อย มัน Fluctuate บ่อยมากๆ ประมาณนี้ ฮ่าๆ
-อย่าซ้อมแบบใช้หูฟัง ถ้าเราใช้หูฟังเราจะชินกับเสียงที่ชัดเคลียร์มากๆ แต่สอบจริงมันไม่เคลียร์ขนาดนั้น เพราะเป็นลำโพงนะ อย่าเปิดดังด้วย ของจริงไม่ดังนะลำโพง
-ห้ามฝึกแบบขีดเขียน ถ้าเราฝึกโดยการไฮไลท์คีเวิร์ดด้วยการขีด แต่พอสอบจริงเราขีดเขียนไม่ได้ มันจะส่งผลให้เราโฟกัสไม่ได้ จงฝึกแบบไม่ขีดไฮไลท์ แต่ฝึกจำไว้ในหัวเลย คือมันยากนะ แต่ก็ต้องทำให้ชินนะทุกคน
-พาร์ทฟัง ถ้าหลุดข้อนึงไปแล้วข้ามเลย เดาไปเลย ไปฟังข้อต่อไป มันทำอะไรไม่ได้แล้ว ไม่ต้องนั่งอ่านช้อยซ้ำ มันหลุดไปแล้วปล่อยไป ไปเอาข้ออื่นต่อ ไม่งั้นจะหลุดยาวนะ
-ดินสอหัวมันแหลมมันฝนช้า แนะนำหักนิดนึงแล้วจะฝนไว้ขึ้น
-ตอนซ้อม ซ้อมแบบฝึกฝนกระดาษนะ ถ้าเราซ้อมแบบเขียน มันจะไวกว่าฝน เราจะจับเวลาพลาดคิดว่าทำทัน แต่เอาจริงไม่ทัน ซึ่งเราก็ไม่ทันจริงๆ5555
-อย่ากินน้ำเยอะ การปวดฉี่ตอนทำข้อสอบจะทำให้สติแตก
-ใส่เสื้อกันหนาว หรือเสื้อแขนยาวไปด้วยนะใครที่ขี้หนาว มันส่งผลต่อการสอบ
-สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีสติแบบเรา ชอบเหม่อลอย แนะนำว่าฝึกนั่งสมาธิ เพราะว่า “สติ” สำคัญมากๆในการทำข้อสอบ
-ฝึกจับเวลาอย่างเคร่งครัด เราสอบมา 5 ครั้งแล้ว จะบอกว่ารอบล่าสุดก็ยังไม่ทันอีกต้องเดาไปสองข้อ
-สำหรับหนังสือที่เราแนะนำคือของ ครูเค็นนะ หนังสือของ อ. จะช่วยปูพื้นพื้นฐาน และทำให้เข้าใจ TOEIC ได้ดีเลย
-อันนี้ลิ๊งค์ข้อสอบที่เราใช้ฝึกล่าสุด ของเกาหลี ส่วนตัวคิดว่าเหมือนของจริงมากๆ มากที่สุด ไม่ง่ายกว่า ไม่ยากกว่า ถ้าทำอันนี้ได้เท่าไร คะแนนสอบจริงไม่ห่างจากตัวนี้เกิน 100 คะแนนแน่ๆ ETS เกาหลี

สุดท้ายนี้ เราก็อยากฝากทุกคนไว้ว่าขอให้พยายามนะ เราเชื่อเสมอว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ เราเองตอนเด็กๆ เราจำได้ว่าเราท่อง A B C ไม่ได้ เพื่อนในห้องท่องได้กันแล้ว เราก็ร้องไห้บอกแม่ว่าเราโง่ แต่เราก็สู้จนเราท่องได้ เราเคยทำเทสสอบ TOEIC ได้ 400 จนมาเป็น 950 ก็เพราะความพยายามอีกนั่นแหละ ถ้าเราทำได้ทุกคนก็ต้องทำได้เหมือนกันนะ ขอเป็นกำลังใจให้ สู้ๆครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่