สวัสดีค่ะ เราจะเริ่มตั้งแต่เมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อนนะคะ เราได้ทำงานเด็กดริ้งที่ร้านต่างชาติที่นึงแล้วเราก็ได้พบคนต่างชาติคนนึง เขาชอบเรามากค่ะและบอกว่าจะซัพพอร์ทหรือจะคอยเห็นเงินเราทุกเดือนเพื่อแลกกับเราต้องเป็นแฟนเขาค่ะ ซึ่งเงินตอนนั้นก็มากอยู่และเราต้องลาออกจากมหาลัยเพื่อมาเข้าเรียนเสาร์อาทิตย์เพื่อมีเวลาทำงานและที่บ้านประสบอุบัติเหตุค่ะไม่สามารถส่งเสียอะไรได้ เราเลยตัดสินใจรับเงื่อนไขโดยไม่คิดอะไรมากค่ะ แต่พอผ่านไปสามสี่เดือนเราก็จับได้ค่ะว่าเขามีครอบครัวแล้ว แต่คนรอบข้างก็บอกอย่าสนใจเพราะเราเป็นแฟนกับเขาก็แค่ไม่กี่วันเขาก็บินกลับให้สนใจหาเงินดีกว่า เราก็เลยใช้ชีวิตแบบมีสองชีวิตมาตลอดค่ะ แต่เราก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ไปตลอด อยากมีอะไรเป็นของตัวเอง เลยเอาเงินที่เขาคอยให้ไปลองทำนั่นทำนี่ทำธุรกิจอะไรไปเรื่อยค่ะ แต่ก็ไม่รอดตลอดเราพยายามที่จะอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองค่ะเพราะเราไม่ชอบเขาค่ะทั้งคำพูดทั้งนิสัยเรารู้สึกมันหลอกลวงทั้งนั้นแต่เราก็ทนทำเพราะใครๆต่างก็บอกว่าอย่างก็ให้เรียนจบก่อนจะเอาตัวรอดได้ เราก็พยาบาลอดทนค่ะ ทุกครั้งที่เขามาเราทุกข์ทรมานมากแต่ก็ต้องแสร้งยิ้มและด้วยเรื่องหลายอย่างที่เราต้องแบกรับทำให้เราเป็นโลกทางจิตเวชค่ะ ชื่อโรค 'ผิดปกติทางบุคลิกภาพ' คืออันนี้ก็เกิดจากที่เราเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่อบอุ่นเท่าไหร่ ถูกทุบตีบ้างไล่ออกจากบ้านบ้าง แต่ปัจจุบันครอบครัวก็ดีกับเราแล้วนะคะแต่บาดแผลมันก็ยังไม่หาย
จนเราเรียนจบก็พบกับปัญหาโควิด เราได้ทำธุรกิจนึงไว้เกี่ยวกับออกแบบรักในการสร้างค่ะแต่พยายามเท่าไหร่ก็เหมือนดันทุรังค่ะไปไม่รอดทั้งๆ ที่คนที่เรียนมากับเราหลายรุ่นไปได้ไกลมาก แต่เราก็ยังไม่ยอมแพ้ค่ะสู้อยู่สองปีก็ย้ายบ้านค่ะ ตัดสินมาซื้อบ้าน! คิดว่าเงินที่ได้มาอย่างน้อยก็ซื้อบ้านไว้ แล้วก็หางานประจำทำค่ะ เราไปสมัครเป็นกราฟฟิกที่โรงงานนึงทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ลาออกเพราะรู้สึกงานไม่ไปไหนหัวหน้างานไม่มีตารางที่ชัดเจนเดี๋ยวทำอันนั้นอันนี้ไม่เสร็จสักอย่างแล้วก็ไม่มีแบบในหัวค่ะ คือให้ทำไปเรื่อยๆจนกว่าหัวหน้าใหญ่จะถูกใจ เราพยายามคุยกับหัวหน้าลองคุยกับหัวหน้าใหญ่ดูมั้ยว่าจุดประสงค์แนวทางงานจะเป็นยังไง แกก็ยืนยันจะให้เราทำไปเรื่อยๆค่ะ และที่เราไม่โอเคที่สุดคือการให้คนที่ติดโควิดแล้วมาทำงานเดินไปเดินมาในที่ทำ มีคนตรวจเจอติดโควิดทุกๆ สองชั่วโมงเลยค่ะ เรารู้สึกประสาทมากเหมือนนับถอยหลังเวลาตายเลย เราเลยตัดสินใจลาออกค่ะ แล้วก็คิดว่าจะขายอาหารในหมู่บ้านไปก่อนละกันซื้อของมาลองทำแต่ไม่ทันได้ทำแมวที่เลี้ยงไว้ก็คลอดลูกแล้วไม่มีนม เราเลยต้องพักทำอาหารมาเลี้ยงลูกเขาค่ะ
วันนี้เป็นวันครบกำหนดพบจิตแพทย์ของทุกเดือนค่ะ ก็จะเป็นเชิงเล่าปัญหาเล่าความรู้สึก ซึ่งคุณหมอก็รู้เรื่องชีวิตเราทุกอย่างค่ะ เราก็เล่าเรื่องที่ทำงานให้ฟังเขาก็บอกคุณเป็นลูกจ้างใครไม่ได้หรอกถ้ายังคิดแบบนี้ ผมว่าคุณเอาเงินที่หมดไปกับการทำนั่นนี่ไปสานสัมพันธ์กับคนต่างชาติที่ให้เงินคุณมาตลอดดีกว่า เขามีพระคุณกับคุณมากด้วยซ้ำนะรู้ตัวรึเปล่า ที่ส่งเงินให้มาตลอดนานขนาดนี้ (ซึ่งตลอดโควิดสองปีเขาไม่ได้มาไทยเลยแต่ก็ยังส่งเงินให้ค่ะ) เขาดีกับเรามากเลยนะแค่เราไม่ชอบเขาแค่นั้นถึงเขาจะมีครอบครัวแล้วก็เถอะ
เราเลยคิดว่านี่มันใช่ชีวิตที่ควรจะเป็นเหรอคะ ตลอดมาเราก็ไม่ได้มีความสุขกับเงินที่เราได้มาเลย เรารู้สึกอึดอัดรู้สึกเหมือนทำผิดตลอดเวลา เราถึงพยายามหาทางทำอะไรตลอด แต่พอมาเจอคำพูดหมอทำให้รู้สึกเราต้องก้มหน้าเป็นเมียน้อยเขาเพื่อให้ชีวิตสุขสบายเหรอ เราแค่อยากมีชีวิตธรรมดา งานดีๆทำเงินไม่ต้องเยอะพออยู่ได้ก็ได้ เราไม่รู้จะทำยังไงต่อเลยค่ะ..
เมื่อจิตแพทย์แนะนำให้ใช้ชีวิตแบบนึง!
จนเราเรียนจบก็พบกับปัญหาโควิด เราได้ทำธุรกิจนึงไว้เกี่ยวกับออกแบบรักในการสร้างค่ะแต่พยายามเท่าไหร่ก็เหมือนดันทุรังค่ะไปไม่รอดทั้งๆ ที่คนที่เรียนมากับเราหลายรุ่นไปได้ไกลมาก แต่เราก็ยังไม่ยอมแพ้ค่ะสู้อยู่สองปีก็ย้ายบ้านค่ะ ตัดสินมาซื้อบ้าน! คิดว่าเงินที่ได้มาอย่างน้อยก็ซื้อบ้านไว้ แล้วก็หางานประจำทำค่ะ เราไปสมัครเป็นกราฟฟิกที่โรงงานนึงทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ลาออกเพราะรู้สึกงานไม่ไปไหนหัวหน้างานไม่มีตารางที่ชัดเจนเดี๋ยวทำอันนั้นอันนี้ไม่เสร็จสักอย่างแล้วก็ไม่มีแบบในหัวค่ะ คือให้ทำไปเรื่อยๆจนกว่าหัวหน้าใหญ่จะถูกใจ เราพยายามคุยกับหัวหน้าลองคุยกับหัวหน้าใหญ่ดูมั้ยว่าจุดประสงค์แนวทางงานจะเป็นยังไง แกก็ยืนยันจะให้เราทำไปเรื่อยๆค่ะ และที่เราไม่โอเคที่สุดคือการให้คนที่ติดโควิดแล้วมาทำงานเดินไปเดินมาในที่ทำ มีคนตรวจเจอติดโควิดทุกๆ สองชั่วโมงเลยค่ะ เรารู้สึกประสาทมากเหมือนนับถอยหลังเวลาตายเลย เราเลยตัดสินใจลาออกค่ะ แล้วก็คิดว่าจะขายอาหารในหมู่บ้านไปก่อนละกันซื้อของมาลองทำแต่ไม่ทันได้ทำแมวที่เลี้ยงไว้ก็คลอดลูกแล้วไม่มีนม เราเลยต้องพักทำอาหารมาเลี้ยงลูกเขาค่ะ
วันนี้เป็นวันครบกำหนดพบจิตแพทย์ของทุกเดือนค่ะ ก็จะเป็นเชิงเล่าปัญหาเล่าความรู้สึก ซึ่งคุณหมอก็รู้เรื่องชีวิตเราทุกอย่างค่ะ เราก็เล่าเรื่องที่ทำงานให้ฟังเขาก็บอกคุณเป็นลูกจ้างใครไม่ได้หรอกถ้ายังคิดแบบนี้ ผมว่าคุณเอาเงินที่หมดไปกับการทำนั่นนี่ไปสานสัมพันธ์กับคนต่างชาติที่ให้เงินคุณมาตลอดดีกว่า เขามีพระคุณกับคุณมากด้วยซ้ำนะรู้ตัวรึเปล่า ที่ส่งเงินให้มาตลอดนานขนาดนี้ (ซึ่งตลอดโควิดสองปีเขาไม่ได้มาไทยเลยแต่ก็ยังส่งเงินให้ค่ะ) เขาดีกับเรามากเลยนะแค่เราไม่ชอบเขาแค่นั้นถึงเขาจะมีครอบครัวแล้วก็เถอะ
เราเลยคิดว่านี่มันใช่ชีวิตที่ควรจะเป็นเหรอคะ ตลอดมาเราก็ไม่ได้มีความสุขกับเงินที่เราได้มาเลย เรารู้สึกอึดอัดรู้สึกเหมือนทำผิดตลอดเวลา เราถึงพยายามหาทางทำอะไรตลอด แต่พอมาเจอคำพูดหมอทำให้รู้สึกเราต้องก้มหน้าเป็นเมียน้อยเขาเพื่อให้ชีวิตสุขสบายเหรอ เราแค่อยากมีชีวิตธรรมดา งานดีๆทำเงินไม่ต้องเยอะพออยู่ได้ก็ได้ เราไม่รู้จะทำยังไงต่อเลยค่ะ..