อยากทราบความเห็นหน่อยครับว่าที่ผมทำถูกหรือผิด

เรื่องคือ ผมกับแฟนกำลังจะแต่งงานกัน ต้นเดือน พค 65 ซึ่งก่อนหน้านี้แฟนผมถูกออกจากงานประจำ ผันตัวมาทำเบเกอร์รี่ส่งออนไลน์ ผมจึงทำร้านให้แฟนซึ่งเป็นเงินเก็บผมทั้งหมด(ผมถือว่าเงินทุนในการเปิดร้านเป็นค่าสินสอดของงานแต่ง) จากนั้นพอร้านใกล้เสร็จเรามาคุยกันเรื่องกำไรของร้าน ซึ่งผมเสนอไปว่ารายได้ทั้งหมดเมื่อหักต้นทุน(ต้นทุนรวมเงินเดือนของแฟนผม) ให้มาหักเปอร์เซ็นกัน เช่นแฟนผมเอาไป 80 ผมซัก 20 เพราะแฟนทำเยอะกว่า แต่แฟนผมกลับมองว่าผมเห็นแก่ตัว ยังมาเอาเงินทั้งๆที่มีงานประจำอยู่แล้ว จนทะเลาะกันใหญ่โต

ในความเห็นของคนอื่นคิดยังไงบ้างครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
- • เรายังไม่อยากกินอาหารเม็ด เราก็จะตอบแบบคนนอก และนี่เป็นเพียงคำตอบที่มาจากความรู้สึกนึกคิดของเราไม่ใช่คำตัดสินว่าคุณหรือเขาหรือใครจะต้องเป็นแบบนี้ โอเคมั้ย? • -

# คิดเห็นว่าต้องแยกออกเป็นแบบนี้นะ -

1 • การนำเงินสินสอดให้ฝ่ายผู้หญิงไปก่อน หากไม่ใช่ความคิดของคุณที่จะทำร้าน สำหรับเราคิดว่าเงินจำนวนนั้นควรเป็นของฝ่ายหญิงหรือครอบครัวฝ่ายหญิงหากว่าคุณตัดสินใจเก็บไว้เพื่อเป็นค่าสินสอด แต่พอคุณเอามันไปลงทุน คุณจะมาคิดว่านั่นเป็นเงินของคุณทั้งหมดไม่ได้ เพราะมันเป็นเงินสินสอดมาตั้งแต่ต้นใช่มั้ย? มันเป็นเงินที่คุณ วางแผนที่จะให้เขาและครอบครัวเขาอยู่แล้ว - ครอบครัวฝ่ายหญิงเค้าจะคืนให้หรือตัวฝ่ายหญิงเค้าจะเก็บไว้เองมันก็ยังเป็นสิทธิ์ของเค้า ถูกมั้ย? นอกจากว่าคุณบอกว่าเอาเงินสินสมรสนี้ให้ยืมเพื่อไปลงทุนและต้องการเงินทั้งหมดคืนมาหลังจากที่เขาได้กำไรแล้วหรือให้ผ่อนคืนกับคุณมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่จะไปบอกว่าเงินนั้นเมื่อเอาไปลงทุนแล้วคุณจะต้องมีส่วนแบ่งจากผลกำไรเค้าก็คงจะรู้สึกว่าคุณเห็นแก่ตัวอันนั้นก็เข้าใจได้นะ

2 • หลังจากแต่งงานจดทะเบียนกันรายได้ที่เกิดหลังจากวันที่ลงนามในทะเบียนสมรสถือว่าคุณสองคนเป็นคน-คนเดียวกัน ควรจะรอให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นมาก่อนแล้วจึงคุยกันว่าจะจัดสรรปันส่วนแบ่งเงินในแต่ละเดือนไว้ทำอะไรตรงไหนยังไง มันไม่ใช่เงินของฉันและของเธออีกต่อไป เพราะคุณได้กลายเป็นคนคนเดียวกันแล้วมีสุขมีทุกข์มีกินหรือมีหนี้ ก็ต้องเป็นไปด้วยกัน

3 • ย้อนกลับไปเกี่ยวข้องกับข้อแรก - หากไม่มีการเจรจาตกลงกันให้เป็นเรื่องราวและไม่มีการจดทะเบียนสมรสหรือแต่งงานเงินที่คุณให้เค้าไปลงทุนโดยไม่มีการทำสัญญาหรือตกลงกันมีเพียงสัญญาใจก็ยังจะถือว่าเป็นการให้โดยเสน่หา ( เดี๋ยวเราจะใส่ไว้ให้ในสปอยล์เพราะการให้ลักษณะนี้ก็ยังแบ่งออกไปอีกสามแบบ มันจะยาวฉะนั้นควรจะอยู่ในสปอยล์และคุณต้องไปอ่านและคิดดีดี ) 👇🏼


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




# ส่วนตรงนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของเรา เราว่า - การเพิ่งจะทำธุรกิจอะไรโดยที่ยังไม่รู้ผลกำไรขาดทุน การที่คุณออกตัวว่าต้องการส่วนแบ่งไม่ว่าจะมากหรือน้อยเท่าไหร่อาจจะทำให้ผู้หญิงคิดอย่างที่เค้าคิดก็ได้ แต่ถ้าเป็นเราก็คงจะปฏิเสธการรับเงินนี้ตั้งแต่ต้น หรือหากรับมาแล้วเราจะเป็นคนเสนอการแบ่งผลกำไรให้คนของเราด้วยซ้ำ คงไม่รอให้ถูกทวงถาม

# แต่คนเราถูกเลี้ยงดูมาต่างกันมองอะไรหลายสิ่งอย่างต่างแง่มุมกัน มันอาจจะเป็นอีกหนึ่งมุมที่คุณไม่เคยเห็นในตัวของคนที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วย ก็คงต้องพูดคุยกันให้เข้าใจและหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสองฝ่าย แต่อย่ามาหาเลยว่าใครผิดหรือถูก เพราะนี่เป็นสิ่งที่ทำลายความสัมพันธ์ชีวิตคู่แน่นอน ถ้าทุกครั้งที่เกิดปัญหาจะต้องมีคนผิดหรือถูก

• § • ขอให้แก้ปัญหาและหาทางออกไปได้ด้วยดีค่ะ - ลองคุยกันด้วยเหตุผลแล้วเอาผลประโยชน์และอารมณ์วางไว้ข้างข้างก่อน โชคดีจ้า * ขอมาแก้ตัวสะกดหน่อยจ้ะ *
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่