ทริปนี้ไปกัน 4 คน
สถานที่ : เชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน พักที่ตัวเมือง / ม่อนแจ่ม / เชียงดาว / แม่กำปอง
เดินทาง : เครื่องบินจากกทม ขาไป 09:50 ขากลับ 20:20 / มอเตอร์ไซค์ในเชียงใหม่
งบประมาณ : ไม่ได้กำหนด แต่จบทริปประมาณ 7,500 บาท ไม่รวมของกินยิบย่อยของแต่ละคน และไม่รวมของฝาก
สรุปที่เที่ยวอยู่ข้างล่างนะคะ วาปไปดูที่ความคิดเห็นที่ 3 - 4 ได้นะคะ
เริ่มเรื่องคืออยากไปเที่ยวเชียงใหม่มานานละ ละทีนี้มันมีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
เราก็เลยจองเครื่องไปเชียงใหม่เลยย
แต่ว่าเราจองก่อนที่โครงการในเฟส 3 จะเริ่ม ทำให้ไม่สามารถเบิกค่าเครื่องบินได้
และที่พักส่วนใหญ่ที่เราพักนั้น ไม่เข้าร่วมโครงการ
มีเข้าร่วมโครงการแค่ที่เดียว คือ ที่พักคืนแรก ที่พักในตัวเมืองเชียงใหม่
ส่วนโซนที่เราเที่ยวก็เป็นเชียงใหม่ช่วงบน
ไม่เน้นปีนเขาเลยค่ะ เพราะไม่ไหว55555
สำหรับการเที่ยวช่วงโควิด ก่อนบินพวกเราฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และส่วนใหญ่จะสวมหน้ากากตลอดทั้งทริป
ถอดออกตอนกิน ถ่ายรูป และอยู่ที่พัก
วันแรก - 25 พ.ย. 64
***เวลาเป็นการประมาณนะคะ อาจจะไม่เป๊ะ***
ในวันแรกเราไปกันก่อน 2 คน ส่วนอีก 2 คน แยกกันไป คืนแรกเรากับเพื่อนอีก 2 คนนอนคนละที่ แต่คืนอ่นๆพักที่เดียวกันค่ะ
07:10 ออกจากที่พักซึ่งอยู่บางนาไปสนามบินสุวรรณภูมิ โดยแท็กซี่
07:35 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และเช็คอินรับตั๋วเครื่องบิน
เราไปสายการบิน Vietjet เวลา 09:50 แต่ตารางเที่ยวบินขึ้น 10:00 (หรือ 10:10 ไม่รู้ เราลืม555)
ราคาตั๋วขาไปและขากลับ คนละ 2,029.57 บาท
พอลงจากสนามบินเราเรากรอกข้อมูลผ่าน เชียงใหม่ชนะเสร็จ ก็ต้องไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์ แถวๆประตูท่าแพ
รถตุ๊กๆถามเราไปไหน และแจ้งเราว่า 2 คน100 บาท
ตอนแรกคิดว่าแพงเลยไปรถแดง สรุปรถแดง 80 บาท ราคาก็ไม่ต่างเท่าไร 5555
เราเช่ามอเตอร์ไซค์ 2 คัน คันละ 250 บาท/วัน เราเช่า 4 วัน
รวมเป็นเงิน 2000 บาท มีค่ามัดจำอีกคันละ 1000 บาท
เราเช่า Click ซึ่งรถก็ใหม่อยู่
ที่จริงคันละ 300 บาทแต่เราอ้อนป้าสุดฤทธิ์เลยได้มาราคานี้
ซึ่งเราต้องคืนป้าตามเวลาเช่า คือ บ่ายโมงของวันที่ 29 พ.ย. 64
แต่เรามาไม่ทันเลยยืมต่ออีกวันหนึ่ง แต่เราคืนช่วง 6 โมงเย็นเนื่องจากต้องบินกลับช่วง 2 ทุ่ม
พอได้มอเตอร์ไซค์เราก็ขี่ไปเช็คอินที่พัก ซึ่งเราพักที่ Homm Boutique
เราพักห้อง Standard ราคา 900 บาท/คืน รวมอาหารเช้า
หลังจากนั้นเราไปต่อคาเฟ่ Transit number 8
จะเสียคูปองคนละ 50 บาทแต่สามารถเอาไปจ่ายเป็นค่าเครื่องดื่มได้
ร้านนี้มุมถ่ายรูปเยอะมากกกก เป็นที่ที่มาเชียงใหม่แล้ว ต้องแวะคาเฟ่ที่นี่
เสียค่าใช้จ่าย188 บาท สำหรับ 2 คน เพราะเพื่อนอีก 2 คน ยังไม่ถึง
หลังจากนั้นเราก็ไปถ่ายรูปที่ประตูท่าแพต่อ
ตรงประตูท่าแพเป็นทางวันเวย์ทำให้เราหาทางจอดรถไม่เจอ เลยวนไป 2 รอบ 5555
พอเพื่อนตามมาครบเราก็ไปหาข้าวทาน ที่ต๋องเต็มโต๊ะ
แต่ที่จริงน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นต๋องโต๊ะเต็มแทนนะ เพราะคนรอเยอะมากกกกก
กว่าจะได้ทานก็รอประมาณ 1ชั่วโมง
จำไม่ได้เหมือนกันว่ามื้อนี้หมดไปเท่าไร
หลังจากนั้นก็ไปหาร้านนั่งชิล แต่เนื่องจากโควิดร้านเหล้าปิด
แอลกอฮอล์ตามร้านสะดวกซื้อก็ขายไม่เกิน 3 ทุ่ม น่าเศร้าจิงๆ
เราเลยไปหานั่งร้าน Red Room สั่งของทานเลานและนั่งคุย หมดไป 626 บาท
จบวันแรกแยกย้ายกันไปนอน
วันที่สอง - 26 พ.ย. 64
ตื่นเช้ามาไปท่านอาหารกันน เมื่อวานที่โรงแรมมีให้เลือกอาหารหลักคนละอย่าง เราเลือกสปาเก็ตตี้กับขันโตก
ส่วนขนมปัง ซีเรียล ผลไม้เป็นแบบบุฟเฟ่ให้ตักเองได้
ประมาณ 09:30 เราก็เช็คเอ้าท์จากโรงแรมและไปคาเฟ่ต่แ
ซึ่งคาเฟ่ที่ไป ชื่อว่า FOHHIDE เป็นคาเฟ่เล็กๆชั้น 5 ที่ลิฟท์ขึ้นโคตรน่ากลัว
หมดไป 170 บาท ต่อ 4 แก้ว
ป่ะ เราไปกันต่อที่ม่อนแจ่ม
โดยเราจะแวะกันที่สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
เสียค่าเข้าคนละ 40 บาท
พอถ่ายรูปจุดยอดฮิตเสร็จแล้วก็ไปโป่งแยงจังเกิ้ล โคสเตอร์และซิปไลน์ต่อ
หลักๆที่มา เพื่อเล่น Jungle Coaster โดยเฉพาะ
แต่ขอแวะทานข้าวก่อนไปเล่น ซึ่งที่นี่สามารถใช้คูปองเราเที่ยวด้วยกัน
ซึ่งได้จากการเช็คอินที่พักในตัวเมืองเมื่อวาน ลดค่าใช้จ่ายได้
ทำให้เราเสียค่าเครื่องเล่นจากปกติ คนละ 150 บาท 4 คน
รวมเป็น 600 บาทเหลือเพียง 360 บาท
เห็นเราไหมมมม
ส่วนค่าข้าวมื้อเนี่ย เสียไป 276 บาท หลังใช้คูปองเราเที่ยวด้วยกันแล้ว
กินอิ่มเที่ยวเสร็จเราก็ไปกันต่อที่ม่อนวิวงาม ซึ่งเป็นที่พักของคืนนี้
ตอนเช็คอินมีค่ามัดจำกุญแจ 100 บาท ได้คืนตอนเช็คเอ้าท์
ห้องน้ำอยู่ด้านล่าง สภาพก็ไม่ค่อยดีเท่าไรสำหรับเรา
แต่ราคาที่พัก ได้มาราคา 1,500 บาท เฉลี่ยคนละ 375 บาท
เห็นว่าเวลาเหลือ เลยแว้นไปสวนส้มของฉัน My Garden
เสียค่าเข้าคนละ 50 บาท
เราหามุมฮิตไม่เจออ่ะ
ไปถึงก็ 5 โมงเย็นแล้ว เลยถ่ายได้นิดเดียว
ตกเย็นก็แวะซื้อของกินแถวทางเข้าที่พัก และสั่งหมูกระทะมาทานกัน
และก็สั่งน้ำแข็งมีมัดจำกระติกด้วย 100 บาท ได้คืนตอนเช็คเอ้าท์
ยิ่งดึกยิ่งหนาววววว ประมาณ 18-19 องศา ควันออกปากหน่อยๆ
กินเบียร์ไม่ได้ช่วยให้อุ่นขึ้นเลยยย
วันที่สาม - 27 พ.ย. 64
ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น
อากาศโคตรหนาว 16 องศา สั่นหงึกๆเลย
เช้านี้หมอกอย่างเยอะ
หลังจากรอชมพระอาทิตย์เรียบร้อยแล้ว เราก็รีบเบิ่งไปยัง ยิ่งยงสวนดอกไม้ เพื่อจะถ่ายรูปค่ะ
ทางสวนแนะนำให้มาตอนเช้าก่อน 9 โมง จะมีหมอก บรรยากาศดี
แต่วันนี้หมอกหนาไม่เห็นวิวภูเขาเลยย เศร้า
พอมาถึงสวนดอกไม้ก็จะเสียค่าเข้า คนละ 50 บาทค่ะ
ซึ่งมีดอกไม้กำละ 20 บาทไว้ถือเป็นพร็อพถ่ายรูปด้วย
เราเลือกดอกไม้สีขาวมาเป็นพร็อพ
ถ่ายเสร็จก็แวะทานโจ๊กแถวนั้น ละก็กลับที่พัก
ระหว่างทางกลับหนาวมากกก หมอกลงด้วย
ขี่มอเตอร์ไซค์กันมือแข็งเลยย
เราเช็คเอ้าท์ประมาณ 10 โมง ได้เงินมัดจำกุญแจกับมัดจำกระติกคืน
ก่อนออกจากม่อนแจ่มแวะถ่ายดุ๊กดิ๊กกับป้ายบอกทางซักหน่อย
หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่เชียงดาว แต่แวะคาเฟ่ Fleur Cafe & Eatery ก่อน
โดฟกาแฟกันเสร็จก็มุ่งหน้าไปเชียงดาวต่อ โดยแวะทานก๋วยเตี๋ยวก่อน เสียค่าใช้จ่าย 140 บาท ต่อ 4 คน
ที่พักที่จะไปคือ อยู่เถื่อน ทางที่ไปคือ ฝั่งหนึ่งเขา อีกฝั่งเป็นเหว เน็ตก็ไม่ค่อยมี ทางชันบางจุด
ที่พักที่นี่ เราได้มาในราคาคนละ 700 บาท
รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า
เน็ตที่รอด คือ AIS เราใช้ DTAC อย่าถามถึงเลยย
ที่พักเป็นไม้ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เป็นห้องน้ำกลางแจ้ง ตรงกลางมีลานกิจกรรม
เมื่อเอาของเก็บเสร็จ เราก็ขี่ไปดูที่พักละแวกนั้น
หลังจากดูเสร็จ ก็กลับมาทานอาหารเย็น
โดยมีคุณตากับคุณยายเป็นคนทำให้
อร่อยมากเลยยย
พอมืดๆเราก็มานั่งสุมไฟ โดยมีพี่อีกกลุ่มมาร่วมแจม
เพราะตรงจุดที่เขาพักไม่มีกองไฟแบบจุดที่เราพัก
ทีนี่บรรยากาศจะยิ่งสนุก เมื่อเจอกลุ่มเพื่อนใหม่ๆ
พอตกดึกก็จะเห็นดาวเต็มท้องฟ้าเลย
จบกันไปอีกคืน
[CR] เที่ยวเชียงใหม่ตอนบน 5 วัน 4 คืน ในยุคโควิด
สถานที่ : เชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน พักที่ตัวเมือง / ม่อนแจ่ม / เชียงดาว / แม่กำปอง
เดินทาง : เครื่องบินจากกทม ขาไป 09:50 ขากลับ 20:20 / มอเตอร์ไซค์ในเชียงใหม่
งบประมาณ : ไม่ได้กำหนด แต่จบทริปประมาณ 7,500 บาท ไม่รวมของกินยิบย่อยของแต่ละคน และไม่รวมของฝาก
สรุปที่เที่ยวอยู่ข้างล่างนะคะ วาปไปดูที่ความคิดเห็นที่ 3 - 4 ได้นะคะ
เริ่มเรื่องคืออยากไปเที่ยวเชียงใหม่มานานละ ละทีนี้มันมีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
เราก็เลยจองเครื่องไปเชียงใหม่เลยย
แต่ว่าเราจองก่อนที่โครงการในเฟส 3 จะเริ่ม ทำให้ไม่สามารถเบิกค่าเครื่องบินได้
และที่พักส่วนใหญ่ที่เราพักนั้น ไม่เข้าร่วมโครงการ
มีเข้าร่วมโครงการแค่ที่เดียว คือ ที่พักคืนแรก ที่พักในตัวเมืองเชียงใหม่
ส่วนโซนที่เราเที่ยวก็เป็นเชียงใหม่ช่วงบน
ไม่เน้นปีนเขาเลยค่ะ เพราะไม่ไหว55555
สำหรับการเที่ยวช่วงโควิด ก่อนบินพวกเราฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และส่วนใหญ่จะสวมหน้ากากตลอดทั้งทริป
ถอดออกตอนกิน ถ่ายรูป และอยู่ที่พัก
วันแรก - 25 พ.ย. 64
***เวลาเป็นการประมาณนะคะ อาจจะไม่เป๊ะ***
ในวันแรกเราไปกันก่อน 2 คน ส่วนอีก 2 คน แยกกันไป คืนแรกเรากับเพื่อนอีก 2 คนนอนคนละที่ แต่คืนอ่นๆพักที่เดียวกันค่ะ
07:10 ออกจากที่พักซึ่งอยู่บางนาไปสนามบินสุวรรณภูมิ โดยแท็กซี่
07:35 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และเช็คอินรับตั๋วเครื่องบิน
เราไปสายการบิน Vietjet เวลา 09:50 แต่ตารางเที่ยวบินขึ้น 10:00 (หรือ 10:10 ไม่รู้ เราลืม555)
ราคาตั๋วขาไปและขากลับ คนละ 2,029.57 บาท
พอลงจากสนามบินเราเรากรอกข้อมูลผ่าน เชียงใหม่ชนะเสร็จ ก็ต้องไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์ แถวๆประตูท่าแพ
รถตุ๊กๆถามเราไปไหน และแจ้งเราว่า 2 คน100 บาท
ตอนแรกคิดว่าแพงเลยไปรถแดง สรุปรถแดง 80 บาท ราคาก็ไม่ต่างเท่าไร 5555
เราเช่ามอเตอร์ไซค์ 2 คัน คันละ 250 บาท/วัน เราเช่า 4 วัน
รวมเป็นเงิน 2000 บาท มีค่ามัดจำอีกคันละ 1000 บาท
เราเช่า Click ซึ่งรถก็ใหม่อยู่
ที่จริงคันละ 300 บาทแต่เราอ้อนป้าสุดฤทธิ์เลยได้มาราคานี้
ซึ่งเราต้องคืนป้าตามเวลาเช่า คือ บ่ายโมงของวันที่ 29 พ.ย. 64
แต่เรามาไม่ทันเลยยืมต่ออีกวันหนึ่ง แต่เราคืนช่วง 6 โมงเย็นเนื่องจากต้องบินกลับช่วง 2 ทุ่ม
พอได้มอเตอร์ไซค์เราก็ขี่ไปเช็คอินที่พัก ซึ่งเราพักที่ Homm Boutique
เราพักห้อง Standard ราคา 900 บาท/คืน รวมอาหารเช้า
หลังจากนั้นเราไปต่อคาเฟ่ Transit number 8
จะเสียคูปองคนละ 50 บาทแต่สามารถเอาไปจ่ายเป็นค่าเครื่องดื่มได้
ร้านนี้มุมถ่ายรูปเยอะมากกกก เป็นที่ที่มาเชียงใหม่แล้ว ต้องแวะคาเฟ่ที่นี่
เสียค่าใช้จ่าย188 บาท สำหรับ 2 คน เพราะเพื่อนอีก 2 คน ยังไม่ถึง
หลังจากนั้นเราก็ไปถ่ายรูปที่ประตูท่าแพต่อ
ตรงประตูท่าแพเป็นทางวันเวย์ทำให้เราหาทางจอดรถไม่เจอ เลยวนไป 2 รอบ 5555
พอเพื่อนตามมาครบเราก็ไปหาข้าวทาน ที่ต๋องเต็มโต๊ะ
แต่ที่จริงน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นต๋องโต๊ะเต็มแทนนะ เพราะคนรอเยอะมากกกกก
กว่าจะได้ทานก็รอประมาณ 1ชั่วโมง
จำไม่ได้เหมือนกันว่ามื้อนี้หมดไปเท่าไร
หลังจากนั้นก็ไปหาร้านนั่งชิล แต่เนื่องจากโควิดร้านเหล้าปิด
แอลกอฮอล์ตามร้านสะดวกซื้อก็ขายไม่เกิน 3 ทุ่ม น่าเศร้าจิงๆ
เราเลยไปหานั่งร้าน Red Room สั่งของทานเลานและนั่งคุย หมดไป 626 บาท
จบวันแรกแยกย้ายกันไปนอน
วันที่สอง - 26 พ.ย. 64
ตื่นเช้ามาไปท่านอาหารกันน เมื่อวานที่โรงแรมมีให้เลือกอาหารหลักคนละอย่าง เราเลือกสปาเก็ตตี้กับขันโตก
ส่วนขนมปัง ซีเรียล ผลไม้เป็นแบบบุฟเฟ่ให้ตักเองได้
ประมาณ 09:30 เราก็เช็คเอ้าท์จากโรงแรมและไปคาเฟ่ต่แ
ซึ่งคาเฟ่ที่ไป ชื่อว่า FOHHIDE เป็นคาเฟ่เล็กๆชั้น 5 ที่ลิฟท์ขึ้นโคตรน่ากลัว
หมดไป 170 บาท ต่อ 4 แก้ว
ป่ะ เราไปกันต่อที่ม่อนแจ่ม
โดยเราจะแวะกันที่สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
เสียค่าเข้าคนละ 40 บาท
พอถ่ายรูปจุดยอดฮิตเสร็จแล้วก็ไปโป่งแยงจังเกิ้ล โคสเตอร์และซิปไลน์ต่อ
หลักๆที่มา เพื่อเล่น Jungle Coaster โดยเฉพาะ
แต่ขอแวะทานข้าวก่อนไปเล่น ซึ่งที่นี่สามารถใช้คูปองเราเที่ยวด้วยกัน
ซึ่งได้จากการเช็คอินที่พักในตัวเมืองเมื่อวาน ลดค่าใช้จ่ายได้
ทำให้เราเสียค่าเครื่องเล่นจากปกติ คนละ 150 บาท 4 คน
รวมเป็น 600 บาทเหลือเพียง 360 บาท
เห็นเราไหมมมม
ส่วนค่าข้าวมื้อเนี่ย เสียไป 276 บาท หลังใช้คูปองเราเที่ยวด้วยกันแล้ว
กินอิ่มเที่ยวเสร็จเราก็ไปกันต่อที่ม่อนวิวงาม ซึ่งเป็นที่พักของคืนนี้
ตอนเช็คอินมีค่ามัดจำกุญแจ 100 บาท ได้คืนตอนเช็คเอ้าท์
ห้องน้ำอยู่ด้านล่าง สภาพก็ไม่ค่อยดีเท่าไรสำหรับเรา
แต่ราคาที่พัก ได้มาราคา 1,500 บาท เฉลี่ยคนละ 375 บาท
เห็นว่าเวลาเหลือ เลยแว้นไปสวนส้มของฉัน My Garden
เสียค่าเข้าคนละ 50 บาท
เราหามุมฮิตไม่เจออ่ะ
ไปถึงก็ 5 โมงเย็นแล้ว เลยถ่ายได้นิดเดียว
ตกเย็นก็แวะซื้อของกินแถวทางเข้าที่พัก และสั่งหมูกระทะมาทานกัน
และก็สั่งน้ำแข็งมีมัดจำกระติกด้วย 100 บาท ได้คืนตอนเช็คเอ้าท์
ยิ่งดึกยิ่งหนาววววว ประมาณ 18-19 องศา ควันออกปากหน่อยๆ
กินเบียร์ไม่ได้ช่วยให้อุ่นขึ้นเลยยย
วันที่สาม - 27 พ.ย. 64
ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น
อากาศโคตรหนาว 16 องศา สั่นหงึกๆเลย
เช้านี้หมอกอย่างเยอะ
หลังจากรอชมพระอาทิตย์เรียบร้อยแล้ว เราก็รีบเบิ่งไปยัง ยิ่งยงสวนดอกไม้ เพื่อจะถ่ายรูปค่ะ
ทางสวนแนะนำให้มาตอนเช้าก่อน 9 โมง จะมีหมอก บรรยากาศดี
แต่วันนี้หมอกหนาไม่เห็นวิวภูเขาเลยย เศร้า
พอมาถึงสวนดอกไม้ก็จะเสียค่าเข้า คนละ 50 บาทค่ะ
ซึ่งมีดอกไม้กำละ 20 บาทไว้ถือเป็นพร็อพถ่ายรูปด้วย
เราเลือกดอกไม้สีขาวมาเป็นพร็อพ
ถ่ายเสร็จก็แวะทานโจ๊กแถวนั้น ละก็กลับที่พัก
ระหว่างทางกลับหนาวมากกก หมอกลงด้วย
ขี่มอเตอร์ไซค์กันมือแข็งเลยย
เราเช็คเอ้าท์ประมาณ 10 โมง ได้เงินมัดจำกุญแจกับมัดจำกระติกคืน
ก่อนออกจากม่อนแจ่มแวะถ่ายดุ๊กดิ๊กกับป้ายบอกทางซักหน่อย
หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่เชียงดาว แต่แวะคาเฟ่ Fleur Cafe & Eatery ก่อน
โดฟกาแฟกันเสร็จก็มุ่งหน้าไปเชียงดาวต่อ โดยแวะทานก๋วยเตี๋ยวก่อน เสียค่าใช้จ่าย 140 บาท ต่อ 4 คน
ที่พักที่จะไปคือ อยู่เถื่อน ทางที่ไปคือ ฝั่งหนึ่งเขา อีกฝั่งเป็นเหว เน็ตก็ไม่ค่อยมี ทางชันบางจุด
ที่พักที่นี่ เราได้มาในราคาคนละ 700 บาท
รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า
เน็ตที่รอด คือ AIS เราใช้ DTAC อย่าถามถึงเลยย
ที่พักเป็นไม้ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เป็นห้องน้ำกลางแจ้ง ตรงกลางมีลานกิจกรรม
เมื่อเอาของเก็บเสร็จ เราก็ขี่ไปดูที่พักละแวกนั้น
หลังจากดูเสร็จ ก็กลับมาทานอาหารเย็น
โดยมีคุณตากับคุณยายเป็นคนทำให้
อร่อยมากเลยยย
พอมืดๆเราก็มานั่งสุมไฟ โดยมีพี่อีกกลุ่มมาร่วมแจม
เพราะตรงจุดที่เขาพักไม่มีกองไฟแบบจุดที่เราพัก
ทีนี่บรรยากาศจะยิ่งสนุก เมื่อเจอกลุ่มเพื่อนใหม่ๆ
พอตกดึกก็จะเห็นดาวเต็มท้องฟ้าเลย
จบกันไปอีกคืน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้