เมื่อชั้นสู้ชีวิต แต่ชีวิตดันสู้กลับ (ฮาร์บิ้น1เดือน เปลี่ยนชีวิต)

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์จุดเปลี่ยนของชีวิต ที่เราไม่เคยมีมาก่อน!! ขอย้อนไปปี 2019นะคะ
ต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่า เราเริ่มรักและหลงใหลในภาษาจีนเมื่อตอนม.5 เทอม1 
จริงๆเราไม่ได้เรียนศิลป์ภาษาจีน แต่ที่เราเริ่มเรียนภาษาจีน ก็เพราะว่าผู้ชายจีนค่า 555
.
หลังจากที่เราได้เรียนภาษาจีนมาประมาณ5เดือน เราก็ได้ตัดสินใจไปเรียนที่ประเทศจีนในช่วงปิดเทอม1เดือน
ซึ่งนี่คือการไปเรียนต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของเรา ก่อนจะมา เราก็กลัวว่าเราจะอยู่ได้มั้ย แต่เราบอกก่อนเลยว่า
หลังจากที่เรามาอยู่ได้ประมาณ1อาทิตย์ เรารู้สึกหลงรักในเมืองนี้มาก เรารู้สึกผูกพัน ไม่อยากกลับไทยอีกเลย
เราได้เจอเพื่อนใหม่ เจอสังคมใหม่ เจอประสบการณ์หลายอย่าง เจอความสบายใจ และความอิสระที่ต้องการ
และมหาวิทยาลัยที่เราไปเรียน1เดือนคือ: Harbin Institute of Technology 
.
ตอนที่เราอยู่ไทย เรามีชีวิตอยู่แต่ในกรอบ ในกรอบ4เหลี่ยมที่แม่ตั้งไว้ให้ ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองซึ่งมันต่างกันมาก
กับการที่เราอยู่ฮาร์บิ้น เราโครตมีความสุข โครตเป็นอิสระ ไปเที่ยว ไปใช้ชีวิต ไปกินของอร่อย ไปช้อปปิ้งได้โดย
ไม่มีขอบเขต เราได้ตัดสินใจอะไรหลายๆอย่างได้ด้วยตัวเราเอง ได้พึ่งพาตัวเอง ได้กำหนดชีวิตของตัวเอง
และในที่สุด เราก็ค้นพบความสุขของตัวเอง
.
หลังจากกลับมาไทย เราหาทุกวิธีทางเพื่อที่จะได้กลับไปฮาร์บิ้น เป้าหมายเดียวของเราหลังจบม.ปลาย 
คือกลับไปเรียนต่อที่ฮาร์บิ้น และมันเป็นเป้าหมายเดียวมาตลอดเกือบ3ปี
.
เราเป็นคนที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความคิดเดิมๆของผู้ใหญ่ที่ไทยว่า จบม.6 ต้องเรียนต่อปริญญาตรีทันที
เรามองว่าสิ่งๆนี้มันควรจะเป็นตัวเราเองที่เป็นคนกำหนด เพราะนี่คือชีวิตของเรา
.
เราจบม.6 ปี2020 แต่เราไม่ได้เรียนต่อป.ตรีในทันที เพราะปีนั้นเรา gap year ไป1ปี เราใช้ชีวิตว่างๆอยู่ที่บ้าน
55555 ดูชิวมาก แต่จริงๆแล้วคือตอนนั้นจีนปิดประเทศ เราก็เลยได้แต่อยู่บ้าน ใช้ชีวิตไปวันๆ ค้นหาตัวเอง
.
จริงๆเราก็แอบเครียดนิดนึงที่เห็นตัวเองยังอยู่ที่บ้าน ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันคือติดมหาลัยกันเยอะมาก
แต่เราก็มีความสุขมากในทางที่เราเลือก เราเคยโดนแม่ด่าเรื่อง gap year แต่เราก็ไม่ซีเรียส เพราะเรามองว่า
เราเป็นผู้เรียน ดังนั้นคนที่สามารถกำหนดอนาคตเราได้มีแค่คนเดียว คือตัวเราเอง
.
หลังจากผ่านไป1ปี เราก็เริ่มยื่นทุนภาษาจีน เพราะเราคิดว่า ปี2021 จีนน่าจะเปิดประเทศได้ละนะ
เราก็เลยตัดสินใจยื่นทุนเรียนภาษาจีน 1ปี ที่ Harbin Engineering University 555555 เราก็ยังไม่ได้เข้าป.ตรี
ในปี 2021 เราโครตมีไฟ เพราะเราคิดว่าเราจะได้กลับไปฮาร์บิ้นซักที จะได้กลับไปหาเซฟโซนซักที  แต่!!!!!!
จีนก็ยังปิดประเทศ เราก็ต้องมานั่งเรียนออนไลน์มา1ปี (2021-2022) สภาพพพพ ทำไมชีวิตมันสู้กลับจังวะ
.
และในตอนนี้นะคะทุกคน 5555 เราจะเรียนทุน1ปีจบในเดือน กรกฎาคม 2022 และมีแพลนจะต่อป.ตรีในเดือนกันยานี้ 65 
แต่!!! ถ้าหากมันยังไม่เปิดประเทศ เราก็คงไม่เรียนออนไลน์กับมันแล้วค่ะเราจะดรอปอีก1ปี 55555
เพราะเรามีแพลนกับตัวเองว่า ถ้ามันยังไม่เปิด ชั้นจะไป work and travel ละนะ
.
หลายคนอาจจะคิดว่าเราคงดรอป ไป wat ที่ต่างประเทศใช่มั้ยคะ แต่!!!!! ไม่ค่ะ 5555 เราจะไป wat ที่เกาะเต่า
ด้วยความที่เคยมีความฝันว่าได้ใช้ชีวิตในเกาะ และส่วนตัวเป็นคนชอบทะเล ชอบดำน้ำ เลยคิดจะใช้โอกาสนี้
ไปทำงานหาเงินกลับจีน และทำตามความฝัน เพราะถ้าเกิดปีนี้มันปิดประเทศ ปีหน้ายังไงมันต้องเปิดได้แล้วนะ
.
สำหรับการไป wat @เกาะเต่า เรากำลังหาข้อมูลอยู่ค่ะ คิดว่าถ้าไปทำก็น่าจะไปทำช่วง สิงหา65-กรกฎา66 
เพราะถ้าปีหน้าจีนเปิดประเทศ เราต้องกลับไปรายงานตัวเข้าป.ตรีในช่วงสิงหาคม66 
.
นี่ก็จบแล้วนะคะ สำหรับเรื่องราวในการดิ้นรนที่จะกลับไปยังเซฟโซนของเรา อุปสรรคเยอะมาก ชีวิตสู้กลับเยอะมาก
ในส่วนของเรื่อง การยื่นทุนจีน ทุนภาษา ทุนป.ตรี รวมถึงเรื่องการไป wat @เกาะเต่า ไว้เราจะมาเล่าให้ฟังนะคะ
.
ขอบคุณค่ะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่