หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิวการไปเปลี่ยนยาง BF Goodrich Advantage T/A DRIVE ที่ร้าน stand alone และ Old school มากๆในร้อยเอ็ด
กระทู้รีวิว
รถยนต์
ยางรถยนต์
อู่ซ่อมรถ
ดูแลรักษารถยนต์
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
รีวิวนี้ผมจ่ายเงินเองทุกบาททุกสตางค์ ไม่ได้ฟรี ไม่ได้ถูกว่าจ้างครับ แถมเทสต์เองเกือบหลุดโค้งก็มีเพราะยางทำให้รถหน้าดื้อ ไม่เกาะโค้งเท่ายางรุ่นอื่นประกอบกับรถรุ่นนี้ช่วงล่างห่วยและพวงมาลัยไม่คมด้วยครับ
จุดเริ่มต้นจากรีวิวนะครับ เริ่มแรกเลย ยางที่อยู่ใช้อยู่ในขณะนั้นคือ Dunlop enesave ec300+ ขนาด 185/65/r15 ซึ่งแถมมากับล้อแม็ก mazda2 ที่ผมได้ซื้อต่อมาจากในคลับ ได้ถูกใช้งานจนมีสภาพไม่น่าใช้และไม่น่าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับความขี้เหนียวของตัวเอง
เลยจึงวางแผนว่าจะเปลี่ยนยาง โดยจะสั่งจาก ลาซาด้ามาเปลี่ยน ซึ่งผมก็เล็ง kumho esta ps31 ไว้พอดีเห็นว่าไม่แพงและพอพึ่งพาได้แถมลายดอกยางสวย ได้ตระเวณหาร้านที่รับเปลี่ยน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่รับเปลี่ยน แต่ก็มีบางร้านก็รับเปลี่ยนด้วยนะครับ ประมาณ 1200฿ รวมตั้งศูนย์ ซึ่งทั้งนี้ผมก็ได้ถามราคายางพร้อมติดตั้งทั้งหลายมา ซึ่งส่วนใหญ่ร้านที่นี่ขายกันแพงจริงๆ ไม่เหมือนเมืองใหญ่ที่คู่แข่งเยอะที่แข่งราคากันยิ่งร้านแฟนไชน์ยิ่งแพงไปอีก จนผมขับรถมาร้าน แถวที่พักแห่งนี้ ที่ชื่อร้อยเอ็ดผ้าเบรค ที่ร้านไม่ได้ใหญ่โตและมีพนักงานไม่กี่คน กำลังเข้าไปว่าจะถามราคาหิ้วยางมาติดตั้งเอง แต่กระนั้นผมเหลือบไปเห็นยาง ยี่ห้อ BF Goodrich จึงได้ถามราคา ว่ายางขนาด 195/55/r15 ราคาเท่าไหร่ เจ้าของร้านวัยหนุ่มหน้าตาใจดี ตอบกับผมด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร ว่าเส้นละ 1600฿ สี่เส้น6400฿ พร้อมบัตรเติมน้ำมันปตท 300฿ครับ และเจ้าของร้านก็ได้กล่าวต่อว่า ผมมีล็อตค้างต็อกผลิตปีที่แล้ว สี่เส้นหกพันบาทและแถมบัตรเติมน้ำมันด้วยสามร้อยบาท ยิ่งทำให้ผมเขวและใจอ่อนเข้าไปใหญ่ และการที่เห็นร้านเล็กๆด้วยยิ่งอยากไปสนับสนุนให้ร้านเค้าเติบโตสู่กับร้านใหญ่ได้ แต่ผมยังไม่ตอบตกลง ขอไปดูรีวิวยางรุ่นนี้ก่อนว่าเป็นไง จากข้อมูลรีวิวมีไม่เยอะ มีแต่ข้อมูลว่าผลิตในไทยแข็งไวเสียงดังเร็วบ้าง เว็ปฝรั่งบางเว็ปก็ให้คะแนน การเกาะถนนดี การวิ่งถนนเปียกดี ความทนทานดี บางเว็ปก็ว่าเงียบดี วิ่งทางเปียกดี แต่นุ่มเงียบและย้วยเข้าโค้งไม่สู้ Goodyear และ maxis ipro นั่งคิดนอนคิดมาทั้งคืน ผมเลยคิดว่าเปลี่ยนเลยเถอะ ยังไงราคานี้ก็พอกันกับหิ้วยางจากลาซาด้าไปติดตั้งเอง ถ้ายางมีปัญหาก็ต้องเสียค่าถอดค่าส่งไปรษณีย์อีก รุ่งเช้าจึงไปร้านนี้ครับ มาถึงปุ๊บมีคิว สองสามคันได้
เจ้าของร้านบอกให้ไปรอที่ห้องรองรับที่มีแอร์แต่ผมขอดูช่างทำงานใกล้ๆลิฟต์ยกรถแหละน่าสนุกดี พอถึงคิว พนักงานในร้านจะจับยกด้วยจะเข้ เลยได้บอกพนักงาน รอคิวถัดไปเพื่อขึ้นลิฟต์ยกก็ได้ครับเพราะรถเหล็กมันบางกับกลัวสนิมกิน พอถึงคิว เจ้าของร้านรับหน้าที่เอาขึ้นลิฟต์เองเลย ถอดล้อและถอดยางเองร่วมกับลูกน้องในร้าน
ซึ่งดู old school badass สุดๆ เพราะจากการที่ไปเปลี่ยนยางในร้านอื่นๆมา มักจะเห็นแต่เจ้าของร้านมีแต่สั่งงานลูกน้องและนั่งห้องแอร์ครับ พอถึงขั้นตอนเอายางใส่ล้อ ใส่ตะกั่วถ่วงล้อ และใส่ล้อเข้ากับรถ เจ้าของร้านก็ทำเองทุกอย่างคล่องแคล่ว (ภายหลัง ก่อนกลับได้คุยกับเจ้าของร้าน แกจบปวส.ช่างยนต์ และพ่อของเจ้าของร้านก็เป็นช่างโดยเปิดอู่อีกที่นึงด้วยครับ จึงทำงานเองได้คล่องแคล่วชำนาญ)
เมื่อประกอบล้อเสร็จแล้วผมนึกว่าจะเสร็จได้จ่ายเงินกลับบ้านแล้ว แต่ยังก่อน!!! เจ้าของอู่บอกว่าจะขับไปตั้งศูนย์ด้วยคอมพิวเตอร์อีกร้านนึงโดยทางร้านจะไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะแกมีแต่เครื่องตั้งศูนย์รุ่นเก่า ตั้งศูนย์ได้ยากกว่าแบบคอมพิวเตอร์ ผ่านไปนึงชั่วโมงก็เสร็จจ่ายเงินกลับบ้านพร้อมบัตรเติมน้ำมัน พร้อมการรับประกันยางหกปี
จากการที่ขับเจ้า BF Goodrich ในช่วงห้าร้อยกิโลเมตรแรก ให้สัมผัสถึงความนุ่มเงียบ เบรคสั้นขึ้น ตามแบบฉบับยางใหม่เมื่อเทียบกับยางเก่านะครับ แต่การเข้าโค้ง ความความคมของพวงมาลัยสู้เจ้าดันลอป ทั้งที่หมดสภาพแตกลายงาไม่ได้เลยทั้งที่สภาพสมบูรณ์กว่าและแก้มเตี้ยและหน้ากว้างมากกว่าครับ แต่ทำให้รถเตี้ยลงและดูทรงสวยขึ้นครับ
ถัดมาหลังจากห้าร้อยกิโลเมตรจนถึง ปัจจุบันร่วมๆสามพันกิโลเมตรได้ ความเงียบ นุ่มถือว่าดีมากในราคายางเส้นละ1500-1600 การวิ่งบนทางเปียกถนนชื้นแฉะ น้ำขังก็ทำได้ดีมากครับ เกาะดีไม่ลื่นหรือเหินน้ำ แถมระยะเบรกสั้นดีไว้ใจได้ แต่การวิ่งบนทางแห้งการเข้าโค้ง ไม่ค่อยจะคมนัก มีอาการหน้าดื้อ และดิ้นโค้งบ้าง ไม่เหมาะสำหรับขาซิ่งหรือคนที่ชอบเข้าโค้งด้วยความเร็วและคนที่ชอบขับมุด ปาดซ้ายขวานะครับ ซึ่งการเข้าโค้งคมๆ ดันลอปเก่าๆ กรอบแตกลายงายังทำผลงานได้ดีกว่ามากๆครับ ส่วนเรื่องความทนทานต้องรอดูกันอีกทีครับ
ส่วนร้านยาง หรือเซอร์วิสทั้งหลายอยากให้ลองร้านเล็กๆ ร้านเก่าๆดูนะครับ หลายร้าน อาจจะ Badass Old school ฝีมือการบริการและราคาดีแบบร้านนี้ก็เป็นได้ครับ และช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจเล็กๆขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินต่อไปครับ
ชื่อสินค้า:
BF Goodrich Advantage T/A DRIVE
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ท่านใดเคยใช้ BF Goodrich Advantage Touring บ้างหรือยังครับดีกว่า BF Goodrich Advantage T/A DRIVE ตัวเดิมไหม
ตามหัวข้อกระทู้เลยครับหาข้อมูลเบื้องต้นเป็นรุ่นใหม่ที่มาทดแทนทั้งรุ่น BF Goodrich Advantage T/A DRIVE และ SUV สนใจ Size 195/60R15 มีท่านใดเปลี่ยนมาใช้แล้วรบกวนช่วยรีวิวด้วยนะครับ เครดิต: yellowtire.co
ทามะคุง
ยางรถเก๋ง BF Goodrich เป็นยังไงบ้างครับ
กำลังจะเปลี่ยนยางพอดีครับ ของเดิมใช้ Yokohama Advan DB อยู่ พอดีไปเจอของ BF มา เลยอยากทราบคุณภาพครับ ใครใช้อยู่ หรือ มีข้อมูล ขอคำแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ
Lokasunder_007
มีใครเคยลอง BF Goodrich Advantage T/A SUV บ้างครับ ขอความเห็นหน่อย
กำลังสนใจยางตัวนี้อยู่ครับ ยางเก่า Dunlop AT22 ติดรถได้เวลาบอกลาแล้ว รถ Mazda BT-50 Pro ยกสูงขับสอง ยาง 265/65R17 การใช้งานวิ่งในเมืองมากกว่า 80% ที่เหลือวิ่งออกต่างจังหวัด ขึ้นเขาเที่ยวอุทยานปีละ 2
gecomax
[SR] ริวิวยาง BFGoodrich Advantage T/A Drive อีกทางเลือก ยางรถยนต์นั่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันบนถนน แต่ยังขับได้สนุก
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip วันนี้ผมในนามของทีม Pantip Garage จะขอมารีวิวยางรถยนต์ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ที่กำลังมองหายางที่จะเปลี่ยนใหม่ กันนะครับ โดยล่าสุดทางผมได้โอกาส จากทาง BFG
GenPon_Redline
ยาง bf goodrich (รีวิว)
ยี่ห้อนี้เป็นไงบ้างครับ ความทนทาน ประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง ประสิทธิภาพขับขี่ตอนฝนตก กะจะซื้อมาใส่ fortuner 06 265/65/17 ดีไหมครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ
สมาชิกหมายเลข 2025865
ยางที่เกาะถนน สำหรับรถเก๋งเล็ก
รบกวนขอคำแนะนำค่ะ จะเปลี่ยนยางรถมาสด้า 2 รุ่น 4 ประตู ปี 2011 ขนาดยาง 185/55 R15 ใช้น้อย แต่มีเดินทางไกลบ้างปีละหนสองหน เน้นเกาะถนน รีดน้ำ มั่นใจเวลาเข้าโค้ง เปลี่ยนเลน เรื่องเสียงดังและกระด้างไม่เป
SweetShinHye
ยาง 3 แบรนด์นี้ ตัวไหนโอเคสุดครับ YOKOHAMA / FIRESTONE / BF GOODRICH แนะนำด้วยครับ
พอดีจะเปลี่ยนยางสิ้นปีครับ รถกระบะใช้ยางเดิม 265/65R17 YOKOHAMA GEOLANDAR G94 อยู่ครับ ได้เวลาเปลี่ยนยาง มีตัวเลือก 3 ตัวครับ 1.YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G94 ราคา 16000บาท ใช้อยู่รู้สมรรถนะอยู่ดครับ 2.F
สมาชิกหมายเลข 1270030
สอบถามประสบการณ์การใช้ยางรถยนต์ 3 รุ่นนี้หน่อยครับ
รบกวนสอบถามประสบการณ์การใช้งาน หรือความคิดเห็นเกี่ยวกับยางรถของ 3 รุ่นนี้หน่อยครับ รถที่ใช้เป็น Honda city 2020 sv ยางติดรถ Maxxis MA-P3 อายุการใช้งานอันไหนนานกว่ากัน การวิ่งบนถนนเปรียกอัน
สมาชิกหมายเลข 1234507
ยางรถยนต์ยี่ห้อ BF Goodrich นำมาใข้กับ Honda city 2008 พอใช้ได้รึเปล่าครับ
พอดียางรถพึ่งโดนตะปูเจาะมาครับ เลยเอาเข้าร้านยาง ที่ร้านแนะนำ BF Goodrich 185/60/R15 มา ราคา 7,600 บาท ตกล้อละ 1,900 บาท ผมก็เลยคล้อยตาม เพราะเห็นราคาค่อนข้างถูก ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิด เพราะมาหาข้อ
สมาชิกหมายเลข 1910770
Goodrich ยางเล็ก 185 60 15 เทียบกับ Michellin และ Yokohama ตัวเล็ก
Goodrich Advanntage TA Drive https://www.autotirechecking.com/tirespec/BF%20GOODRICH-Advantage-TA-DRIVE-185-60-15R-1746.html ถ้าเทียบกับ สองรุ่นนี้ Michellin xm2 ,, Yokohama Blue Eart , แนะนำตัวไหนด
สมาชิกหมายเลข 1022373
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถยนต์
ยางรถยนต์
อู่ซ่อมรถ
ดูแลรักษารถยนต์
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิวการไปเปลี่ยนยาง BF Goodrich Advantage T/A DRIVE ที่ร้าน stand alone และ Old school มากๆในร้อยเอ็ด
จุดเริ่มต้นจากรีวิวนะครับ เริ่มแรกเลย ยางที่อยู่ใช้อยู่ในขณะนั้นคือ Dunlop enesave ec300+ ขนาด 185/65/r15 ซึ่งแถมมากับล้อแม็ก mazda2 ที่ผมได้ซื้อต่อมาจากในคลับ ได้ถูกใช้งานจนมีสภาพไม่น่าใช้และไม่น่าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับความขี้เหนียวของตัวเอง
เลยจึงวางแผนว่าจะเปลี่ยนยาง โดยจะสั่งจาก ลาซาด้ามาเปลี่ยน ซึ่งผมก็เล็ง kumho esta ps31 ไว้พอดีเห็นว่าไม่แพงและพอพึ่งพาได้แถมลายดอกยางสวย ได้ตระเวณหาร้านที่รับเปลี่ยน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่รับเปลี่ยน แต่ก็มีบางร้านก็รับเปลี่ยนด้วยนะครับ ประมาณ 1200฿ รวมตั้งศูนย์ ซึ่งทั้งนี้ผมก็ได้ถามราคายางพร้อมติดตั้งทั้งหลายมา ซึ่งส่วนใหญ่ร้านที่นี่ขายกันแพงจริงๆ ไม่เหมือนเมืองใหญ่ที่คู่แข่งเยอะที่แข่งราคากันยิ่งร้านแฟนไชน์ยิ่งแพงไปอีก จนผมขับรถมาร้าน แถวที่พักแห่งนี้ ที่ชื่อร้อยเอ็ดผ้าเบรค ที่ร้านไม่ได้ใหญ่โตและมีพนักงานไม่กี่คน กำลังเข้าไปว่าจะถามราคาหิ้วยางมาติดตั้งเอง แต่กระนั้นผมเหลือบไปเห็นยาง ยี่ห้อ BF Goodrich จึงได้ถามราคา ว่ายางขนาด 195/55/r15 ราคาเท่าไหร่ เจ้าของร้านวัยหนุ่มหน้าตาใจดี ตอบกับผมด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร ว่าเส้นละ 1600฿ สี่เส้น6400฿ พร้อมบัตรเติมน้ำมันปตท 300฿ครับ และเจ้าของร้านก็ได้กล่าวต่อว่า ผมมีล็อตค้างต็อกผลิตปีที่แล้ว สี่เส้นหกพันบาทและแถมบัตรเติมน้ำมันด้วยสามร้อยบาท ยิ่งทำให้ผมเขวและใจอ่อนเข้าไปใหญ่ และการที่เห็นร้านเล็กๆด้วยยิ่งอยากไปสนับสนุนให้ร้านเค้าเติบโตสู่กับร้านใหญ่ได้ แต่ผมยังไม่ตอบตกลง ขอไปดูรีวิวยางรุ่นนี้ก่อนว่าเป็นไง จากข้อมูลรีวิวมีไม่เยอะ มีแต่ข้อมูลว่าผลิตในไทยแข็งไวเสียงดังเร็วบ้าง เว็ปฝรั่งบางเว็ปก็ให้คะแนน การเกาะถนนดี การวิ่งถนนเปียกดี ความทนทานดี บางเว็ปก็ว่าเงียบดี วิ่งทางเปียกดี แต่นุ่มเงียบและย้วยเข้าโค้งไม่สู้ Goodyear และ maxis ipro นั่งคิดนอนคิดมาทั้งคืน ผมเลยคิดว่าเปลี่ยนเลยเถอะ ยังไงราคานี้ก็พอกันกับหิ้วยางจากลาซาด้าไปติดตั้งเอง ถ้ายางมีปัญหาก็ต้องเสียค่าถอดค่าส่งไปรษณีย์อีก รุ่งเช้าจึงไปร้านนี้ครับ มาถึงปุ๊บมีคิว สองสามคันได้
เจ้าของร้านบอกให้ไปรอที่ห้องรองรับที่มีแอร์แต่ผมขอดูช่างทำงานใกล้ๆลิฟต์ยกรถแหละน่าสนุกดี พอถึงคิว พนักงานในร้านจะจับยกด้วยจะเข้ เลยได้บอกพนักงาน รอคิวถัดไปเพื่อขึ้นลิฟต์ยกก็ได้ครับเพราะรถเหล็กมันบางกับกลัวสนิมกิน พอถึงคิว เจ้าของร้านรับหน้าที่เอาขึ้นลิฟต์เองเลย ถอดล้อและถอดยางเองร่วมกับลูกน้องในร้าน
ซึ่งดู old school badass สุดๆ เพราะจากการที่ไปเปลี่ยนยางในร้านอื่นๆมา มักจะเห็นแต่เจ้าของร้านมีแต่สั่งงานลูกน้องและนั่งห้องแอร์ครับ พอถึงขั้นตอนเอายางใส่ล้อ ใส่ตะกั่วถ่วงล้อ และใส่ล้อเข้ากับรถ เจ้าของร้านก็ทำเองทุกอย่างคล่องแคล่ว (ภายหลัง ก่อนกลับได้คุยกับเจ้าของร้าน แกจบปวส.ช่างยนต์ และพ่อของเจ้าของร้านก็เป็นช่างโดยเปิดอู่อีกที่นึงด้วยครับ จึงทำงานเองได้คล่องแคล่วชำนาญ)
เมื่อประกอบล้อเสร็จแล้วผมนึกว่าจะเสร็จได้จ่ายเงินกลับบ้านแล้ว แต่ยังก่อน!!! เจ้าของอู่บอกว่าจะขับไปตั้งศูนย์ด้วยคอมพิวเตอร์อีกร้านนึงโดยทางร้านจะไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะแกมีแต่เครื่องตั้งศูนย์รุ่นเก่า ตั้งศูนย์ได้ยากกว่าแบบคอมพิวเตอร์ ผ่านไปนึงชั่วโมงก็เสร็จจ่ายเงินกลับบ้านพร้อมบัตรเติมน้ำมัน พร้อมการรับประกันยางหกปี
จากการที่ขับเจ้า BF Goodrich ในช่วงห้าร้อยกิโลเมตรแรก ให้สัมผัสถึงความนุ่มเงียบ เบรคสั้นขึ้น ตามแบบฉบับยางใหม่เมื่อเทียบกับยางเก่านะครับ แต่การเข้าโค้ง ความความคมของพวงมาลัยสู้เจ้าดันลอป ทั้งที่หมดสภาพแตกลายงาไม่ได้เลยทั้งที่สภาพสมบูรณ์กว่าและแก้มเตี้ยและหน้ากว้างมากกว่าครับ แต่ทำให้รถเตี้ยลงและดูทรงสวยขึ้นครับ
ถัดมาหลังจากห้าร้อยกิโลเมตรจนถึง ปัจจุบันร่วมๆสามพันกิโลเมตรได้ ความเงียบ นุ่มถือว่าดีมากในราคายางเส้นละ1500-1600 การวิ่งบนทางเปียกถนนชื้นแฉะ น้ำขังก็ทำได้ดีมากครับ เกาะดีไม่ลื่นหรือเหินน้ำ แถมระยะเบรกสั้นดีไว้ใจได้ แต่การวิ่งบนทางแห้งการเข้าโค้ง ไม่ค่อยจะคมนัก มีอาการหน้าดื้อ และดิ้นโค้งบ้าง ไม่เหมาะสำหรับขาซิ่งหรือคนที่ชอบเข้าโค้งด้วยความเร็วและคนที่ชอบขับมุด ปาดซ้ายขวานะครับ ซึ่งการเข้าโค้งคมๆ ดันลอปเก่าๆ กรอบแตกลายงายังทำผลงานได้ดีกว่ามากๆครับ ส่วนเรื่องความทนทานต้องรอดูกันอีกทีครับ
ส่วนร้านยาง หรือเซอร์วิสทั้งหลายอยากให้ลองร้านเล็กๆ ร้านเก่าๆดูนะครับ หลายร้าน อาจจะ Badass Old school ฝีมือการบริการและราคาดีแบบร้านนี้ก็เป็นได้ครับ และช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจเล็กๆขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินต่อไปครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น