ทริป 3 คืน 4 วัน วางแผนตั้งแต่ปีที่แล้ว จองเครื่องบินก็แล้ว ต้องเลื่อนมาเป็นปีนี้เพราะสถานการณ์โควิด แต่ก็เอาวะ
ตั้งใจจะมาแล้วต้องมาให้ได้ ออกจากสุวรรณภูมิ สี่โมงเช้า ถึงสมุย ห้าโมงเช้าแก่ ๆ
ถึงที่พักกินข้าวและไม่รีรอแช่น้ำคลายร้อน และเป็นการแช่น้ำแรกและครั้งเดียวในการมาสมุย
ตกเย็นไอ้ต้าวปวดท้องตัวงอ อ้วกตลอด งานเข้า หายาแก้ปวดให้กินก็ไม่หาย ทำยังไงดีวะ รีบเรียกรถที่มารับเราที่สนามบินพาไป รพ.ที่ใกล้ที่สุด
ภาวนา ขอให้เป็นอย่างที่คิด
และมันก็เป็นจริง ลูกชายใส้ติ่งอักเสบ ต้องผ่าตัดด่วน ใจหายวาบ คิดในใจพังหมดแล้วทริปสมุย แต่ไม่เป็นไร ชีวิตลูกต้องมาก่อน
หมดเท่าไรเท่ากัน ขนาดเอกชนบนฝั่งหลักหมื่น มาบนเกาะต้องเท่าตัว ยังไงก็ต้องสู้
พักฟื้นอยู่ 2 คืน ขอหมอกลับ หมอบอกยังขึ้นเครื่องไม่ได้ จะออกใบ FIT TO FLY ให้เป็นวันที่ 6 เมษายน 2565 แต่ด้วย ค่าห้องที่เราสู้ไม่ไหว
จึงขอหมอออกมาพักฟื้นที่โรงแรม หรือรีสอร์ทเอา
และก็งานเข้าอีก 2 เมษายน โรงแรม รีสอร์ท ถูกจองเกลี้ยง เพราะผมระบุว่าขอห้องไม่ไกล ไม่ต้องเดินขึ้นลงมาก เพราะลูกผ่าตัด ยิ่งหายากไปอีกจนมาเจอ King's Garden Resort
เข้าไปครั้งแรก ผมขอวีลแชร์ ก่อนเลย เขาบอกไม่มีแต่จะหาให้ และขอเช่ารถมอเตอร์ไซด์เผื่อฉุกเฉิน
เดินไปรอบ ๆ รีสอร์ท โหย หมาพอ ๆกับคน คือเขาให้สุนัขมาพักได้ ใจคิดว่าไม่เป็นไร ไม่กี่วันเราก็กลับ
คืนนั้นหลับเป็นตาย เพราะกว่าจะเดินเรื่องออกจาก รพ. กว่าจะหาที่พัก กว่าที่จะเอาลูกขยับตัวไปไหนมันช้ามาก
เพราะเขาเดินแล้วเจ็บ แต่เราก็ได้วีลแชร์ และมอเตอร์ไซด์พร้อมใช้แล้ว
3 เมษายน 2565
เปิดทีวี ได้ยินอะไรนะ พายุเข้า ๆ นครศรีฯ สุราษฎร์ธานี เฮ้ย ๆ พอไปเปิดหน้าต่างฟ้ามืดตึ๊บ สักพักเท่านั้นฝนเทครื้น
คิดว่าไม่เป็นไร ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว วันนี้ก็จบไปอีก 1 วันแบบที่ยังไม่เห็นสมุยจริง ๆอีกเหมือนเคย
4 เมษายน 2565
ลูกชายเริ่มเดินได้ เอาวะลองไปดูของกินแถวนี้ดูสักหน่อย คว้ามอเตอร์ไซด์ตั้งจี ไปตลาดอาหารทะเล ไปเจอตลาดปลา
เฮ้ยผมชอบเลย ราคาน่ารัก แม่ค้าไม่ยัดเยียด และที่สำคัญผักสด ของทะเล สวยสดน่ากินทุกอย่าง
แต่ก็ต้องรีบกลับมาเพราะพายุเริ่มเข้ามาอีกแล้ว อดเลย ต้องสั่งเกรบอีกวัน
5 เมษายน 2565 คืนสุดท้ายก่อนบิน
วันนี้ไม่ได้ละ เพื่อความสบายใจยังไงต้องไปไหว้พระ ขอให้ฟ้าเปิด อย่ามีพายุอะไรเข้ามาอีกเลย
ตั้ง จี ไปวัดพระใหญ่ ขอพร ขอให้ลูกปลอดภัย และขอให้ได้กลับบ้านในวันพรุ่งนี้
ระหว่างกลับที่พักเราเจอร้านอาหารทะเล ลองเข้าไปดู โอ้ เป็น ๆเด้ง ๆ ลองสั่งมากินสุดลิ้ม เลือดมังกร 1 หมึกโวยวาย 1
ทุกท่าน ราคาไม่ถึงพัน !!!
คืนนี้ นอน แต่หัวค่ำ ภาวนาขอให้ได้กลับบ้าน ๆ
6 เมษายน 2565
ไม่มีฝน เราได้เห็นแดดครั้งแรกในรอบ 3 วันของเกาะสมุย
เราได้กลับบ้านแล้วววววว
สมุยครั้งที่ 2 ของผมมุมมอง ที่ผมไม่เคยเห็น การเที่ยวที่ไม่ได้เที่ยว ผู้คน ที่เป็นมิตร อาหาร ถ้าเราลองเดิน หรือไปตามตลาดท้องถิ่นของเขา
มันไม่ได้แพงเลย แถมยังน่ากินมาก ๆอีกด้วย
ขอบคุณ รีสอร์ท โดยเฉพาะลูกจ้างชาวต่างด้าว คอยที่จะช่วยเหลือดูลูกผมตลอด การบริการด้วยใจของพนักงานทุกคน(ที่ต้องดูแลทั้งคนและสัตว์เลี้ยง)
แล้วผมจะกลับมาอีก
ประสบการณ์สุด ๆ King's Garden Resort เกาะสมุย
ตั้งใจจะมาแล้วต้องมาให้ได้ ออกจากสุวรรณภูมิ สี่โมงเช้า ถึงสมุย ห้าโมงเช้าแก่ ๆ
ถึงที่พักกินข้าวและไม่รีรอแช่น้ำคลายร้อน และเป็นการแช่น้ำแรกและครั้งเดียวในการมาสมุย
ตกเย็นไอ้ต้าวปวดท้องตัวงอ อ้วกตลอด งานเข้า หายาแก้ปวดให้กินก็ไม่หาย ทำยังไงดีวะ รีบเรียกรถที่มารับเราที่สนามบินพาไป รพ.ที่ใกล้ที่สุด
ภาวนา ขอให้เป็นอย่างที่คิด
และมันก็เป็นจริง ลูกชายใส้ติ่งอักเสบ ต้องผ่าตัดด่วน ใจหายวาบ คิดในใจพังหมดแล้วทริปสมุย แต่ไม่เป็นไร ชีวิตลูกต้องมาก่อน
หมดเท่าไรเท่ากัน ขนาดเอกชนบนฝั่งหลักหมื่น มาบนเกาะต้องเท่าตัว ยังไงก็ต้องสู้
พักฟื้นอยู่ 2 คืน ขอหมอกลับ หมอบอกยังขึ้นเครื่องไม่ได้ จะออกใบ FIT TO FLY ให้เป็นวันที่ 6 เมษายน 2565 แต่ด้วย ค่าห้องที่เราสู้ไม่ไหว
จึงขอหมอออกมาพักฟื้นที่โรงแรม หรือรีสอร์ทเอา
และก็งานเข้าอีก 2 เมษายน โรงแรม รีสอร์ท ถูกจองเกลี้ยง เพราะผมระบุว่าขอห้องไม่ไกล ไม่ต้องเดินขึ้นลงมาก เพราะลูกผ่าตัด ยิ่งหายากไปอีกจนมาเจอ King's Garden Resort
เข้าไปครั้งแรก ผมขอวีลแชร์ ก่อนเลย เขาบอกไม่มีแต่จะหาให้ และขอเช่ารถมอเตอร์ไซด์เผื่อฉุกเฉิน
เดินไปรอบ ๆ รีสอร์ท โหย หมาพอ ๆกับคน คือเขาให้สุนัขมาพักได้ ใจคิดว่าไม่เป็นไร ไม่กี่วันเราก็กลับ
คืนนั้นหลับเป็นตาย เพราะกว่าจะเดินเรื่องออกจาก รพ. กว่าจะหาที่พัก กว่าที่จะเอาลูกขยับตัวไปไหนมันช้ามาก
เพราะเขาเดินแล้วเจ็บ แต่เราก็ได้วีลแชร์ และมอเตอร์ไซด์พร้อมใช้แล้ว
3 เมษายน 2565
เปิดทีวี ได้ยินอะไรนะ พายุเข้า ๆ นครศรีฯ สุราษฎร์ธานี เฮ้ย ๆ พอไปเปิดหน้าต่างฟ้ามืดตึ๊บ สักพักเท่านั้นฝนเทครื้น
คิดว่าไม่เป็นไร ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว วันนี้ก็จบไปอีก 1 วันแบบที่ยังไม่เห็นสมุยจริง ๆอีกเหมือนเคย
4 เมษายน 2565
ลูกชายเริ่มเดินได้ เอาวะลองไปดูของกินแถวนี้ดูสักหน่อย คว้ามอเตอร์ไซด์ตั้งจี ไปตลาดอาหารทะเล ไปเจอตลาดปลา
เฮ้ยผมชอบเลย ราคาน่ารัก แม่ค้าไม่ยัดเยียด และที่สำคัญผักสด ของทะเล สวยสดน่ากินทุกอย่าง
แต่ก็ต้องรีบกลับมาเพราะพายุเริ่มเข้ามาอีกแล้ว อดเลย ต้องสั่งเกรบอีกวัน
5 เมษายน 2565 คืนสุดท้ายก่อนบิน
วันนี้ไม่ได้ละ เพื่อความสบายใจยังไงต้องไปไหว้พระ ขอให้ฟ้าเปิด อย่ามีพายุอะไรเข้ามาอีกเลย
ตั้ง จี ไปวัดพระใหญ่ ขอพร ขอให้ลูกปลอดภัย และขอให้ได้กลับบ้านในวันพรุ่งนี้
ระหว่างกลับที่พักเราเจอร้านอาหารทะเล ลองเข้าไปดู โอ้ เป็น ๆเด้ง ๆ ลองสั่งมากินสุดลิ้ม เลือดมังกร 1 หมึกโวยวาย 1
ทุกท่าน ราคาไม่ถึงพัน !!!
คืนนี้ นอน แต่หัวค่ำ ภาวนาขอให้ได้กลับบ้าน ๆ
6 เมษายน 2565
ไม่มีฝน เราได้เห็นแดดครั้งแรกในรอบ 3 วันของเกาะสมุย
เราได้กลับบ้านแล้วววววว
สมุยครั้งที่ 2 ของผมมุมมอง ที่ผมไม่เคยเห็น การเที่ยวที่ไม่ได้เที่ยว ผู้คน ที่เป็นมิตร อาหาร ถ้าเราลองเดิน หรือไปตามตลาดท้องถิ่นของเขา
มันไม่ได้แพงเลย แถมยังน่ากินมาก ๆอีกด้วย
ขอบคุณ รีสอร์ท โดยเฉพาะลูกจ้างชาวต่างด้าว คอยที่จะช่วยเหลือดูลูกผมตลอด การบริการด้วยใจของพนักงานทุกคน(ที่ต้องดูแลทั้งคนและสัตว์เลี้ยง)
แล้วผมจะกลับมาอีก