“กรรชัย-แจง”เมียแจ๊สชวนชื่น ยันเอาผิด “บังแจ็ค” เหตุข่มขู่หมิ่นประมาท-แอบอ้างใช้ชื่อ “แจ๊ส”ชี้เป็นภัยสังคม
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ที่ ศูนย์แจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิดเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง และ แจง-ปุณณาสา พรหมยศ ภรรยาของแจ๊ส ชวนชื่น ศิลปินและนักแสดงชื่อดัง ร่วมกันเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เพื่อดำเนินคดีร้องทุกข์กล่าวโทษ บังแจ็ค ราชา ไฮเดอร์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ข่มขู่คุกคาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการลงข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการกระทำผิดทั้งหมด
สืบเนื่องจากกรณีที่ ทนายตั้ม หรือ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึง บังแจ็ค พร้อมกับนำภาพรอยสักและนาฬิกามาเปรียบเทียบกับภาพที่มีการถือปืนขู่ทำร้าย ไม่รู้ว่า “หนุ่ม กรรชัย” เห็นหรือยัง รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวคุณหนุ่มมากเลยตอนนี้ ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น โดยก่อนที่ทั้ง 3 คน จะเข้าพบพนักงานสอบสวน ก็ได้มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ทนายษิทรา กล่าวว่า กรณีของหนุ่ม-กรรชัย แจ้งความเพราะถูกบังแจ็คข่มขู่ ส่วนกรณีของแจ๊ส ชวนชื่น มาแจ้งความเอาผิดเพราะมีการนำชื่อเพจเฟซบุ๊ก และรูปภาพของแจ๊ส ชวนชื่น ไปใช้ ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงชื่อและความผิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
ทนายษิทรา กล่าวต่ออีกว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับบังแจ็ค และบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากมีการแสดงความคิดเห็นที่เป็นเท็จในคดีการเสียชีวิตของแตงโม-นิดา ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จ ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ สำหรับการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ แม้ว่าบังแจ็คจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนจะสามารถออกหมายจับและเมื่อพบตัวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อไหร่ สามารถควบคุมตัวได้ทันที
ด้านหนุ่ม-กรรชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่เกรงกลัวที่ถูกข่มขู่ และถือเป็นครั้งแรกที่มาแจ้งความเอาผิด เพราะมั่นใจว่าบังแจ็ค เป็นคนข่มขู่จริง โดยมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว อีกทั้งยังมีการพูดคุยกับ บังแจ็ค และมีคลิปเสียงที่เจ้าตัวยอมรับว่า เป็นผู้ที่ข่มขู่จริง และถึงแม้ว่าตนจะไม่เคยเรียนสื่อสารมวลชน แต่การทำหน้าที่ที่ผ่านมา ถือว่าทำตามกรอบจริยธรรม แต่ยอมรับว่า อาจจะไม่ถูกใจผู้ที่เสียผลประโยชน์ไปบ้าง
ขณะที่ แจง-ปุณณาสา กล่าวว่า การถูกนำชื่อเพจไปใช้ในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการสร้างความเสื่อมเสีย ทั้งยังมีการแอบอ้างนำรูปภาพของแจ๊ส ชวนชื่น ไปใช้ ซึ่งที่ผ่านมา พยายามติดต่อกับแอดมินเพจ เพื่อขอให้ลบข้อมูลในลักษณะนี้แล้วแต่เจ้าของเพจอ้างว่า ให้ติดต่อกับ บังแจ็ค ซึ่งเป็นเจ้าของเพจตัวจริง และก็ยืนยันว่าไม่สามารถลบให้ได้
ต่อมาเวลา 17.40 น. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ได้เดินทางออกมารับมอบหนังสือจาก หนุ่ม-กรรชัย และ แจง-ปุณณาสา พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนนำทั้ง 2 คน เข้าสอบปากคำอย่างละเอียด
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน กล่าวว่า เบื้องต้น หลังจากรับหนังสือแล้ว ก็จะมีการสอบสวนต่อไป จะต้องไปตรวจสอบดูว่าการกระทำดังกล่าวนี้เป็นการกระทำความผิดในหรือนอกอาณาจักร ก็จะเป็นในส่วนของขั้นตอนตรวจสอบต่อๆไป ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เคยมีการขึ้นบัญชีบุคคลไม่พึงประสงค์นั้น ในเรื่องของการสืบสวน เจ้าหน้าที่ดำเนินการในทุกมิติอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบดู แต่ขออนุญาตสงวนรายละเอียดขั้นตอนไว้ก่อน
ส่วนจะเข้าข่ายส่งตัวผู้กระทำผิดหรือไม่ ก็ต้องไปดูรายละเอียดคำให้การของคุณหนุ่ม-กรรชัย ก่อน แล้วจึงจะไปดูขั้นตอนในข้อกฎหมายว่าความผิดดังกล่าวจะเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตรวจสอบในทุกมิติที่เกี่ยวกับตัวบังเเจ็ค
ด้านหนุ่ม-กรรชัย กล่าวว่า ตนมายื่นเรื่องให้ตรวจสอบบังแจ็ค ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ประเทศไทย แต่คาดว่าอยู่อเมริกา จึงมาเรียนท่าน ผบก.ป.ให้ช่วยตรวจสอบ เพราะถือว่าเป็นภัยของสังคม โดยยื่นร้องทุกข์ทั้งหมด 2 เรื่อง คือหมิ่นประมาทและข่มขู่ ส่วนการขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูเรื่องความปลอดภัยนั้น ตนไม่ได้ร้องขอ แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งว่าหากต้องการก็สามารถบอกได้ ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าไม่มีเรื่องขัดแย้งกับบังแจ็ค แต่เท่าที่ทราบ ได้ให้ทีมงานไปตรวจสอบพบว่า บังแจ็คเองมีปัญหากับหลายๆคน ทั้งบุ๋ม-ปนัดดา และ แพท-ณปภา ตนจึงไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของเขาเหมือนกัน
ส่วนในมุมของตนนั้น ก็ไม่รู้ว่าโพสต์ดังกล่าว เขาจริงจังหรือไม่ แต่คิดว่าไม่สมควรโพสต์เช่นนั้น มันส่งผลเสียให้หลายคน และไม่ถูกต้อง ถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องปั่นกระแส มันก็ทำให้สังคมปั่นป่วนและตนไม่ตลกด้วย มันล้ำเส้นและเกินเลยอย่างเรื่องอื่นๆที่เป็นกระแสเกิดขึ้น ตนก็ไม่เข้าใจว่าเขาเข้าไปยุ่งเพราะอะไร คิดว่าเขาคงมีปัญหาทางจิตที่หนักมากและถ้าเขามาขอโทษ ตนขอไม่รับ เพราะคนแบบนี้ถ้าขอโทษ ครั้งหน้าก็ทำอีก ไม่ขอฝากบอกอะไร เขาคงทราบว่าตนมาเเจ้งความ และการที่ตนมาในวันนี้ ก็มาเพื่อปกป้องสิทธิของตัว
https://www.dailynews.co.th/news/945921/
“กรรชัย-แจง”แจ้งตร.เอาผิด “บังแจ็ค” “ข่มขู่-หมิ่นประมาท”ชี้เป็นภัยสังคม
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ที่ ศูนย์แจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิดเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง และ แจง-ปุณณาสา พรหมยศ ภรรยาของแจ๊ส ชวนชื่น ศิลปินและนักแสดงชื่อดัง ร่วมกันเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เพื่อดำเนินคดีร้องทุกข์กล่าวโทษ บังแจ็ค ราชา ไฮเดอร์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ข่มขู่คุกคาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการลงข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการกระทำผิดทั้งหมด
สืบเนื่องจากกรณีที่ ทนายตั้ม หรือ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึง บังแจ็ค พร้อมกับนำภาพรอยสักและนาฬิกามาเปรียบเทียบกับภาพที่มีการถือปืนขู่ทำร้าย ไม่รู้ว่า “หนุ่ม กรรชัย” เห็นหรือยัง รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวคุณหนุ่มมากเลยตอนนี้ ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น โดยก่อนที่ทั้ง 3 คน จะเข้าพบพนักงานสอบสวน ก็ได้มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ทนายษิทรา กล่าวว่า กรณีของหนุ่ม-กรรชัย แจ้งความเพราะถูกบังแจ็คข่มขู่ ส่วนกรณีของแจ๊ส ชวนชื่น มาแจ้งความเอาผิดเพราะมีการนำชื่อเพจเฟซบุ๊ก และรูปภาพของแจ๊ส ชวนชื่น ไปใช้ ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงชื่อและความผิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
ทนายษิทรา กล่าวต่ออีกว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับบังแจ็ค และบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากมีการแสดงความคิดเห็นที่เป็นเท็จในคดีการเสียชีวิตของแตงโม-นิดา ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จ ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ สำหรับการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ แม้ว่าบังแจ็คจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนจะสามารถออกหมายจับและเมื่อพบตัวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อไหร่ สามารถควบคุมตัวได้ทันที
ด้านหนุ่ม-กรรชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่เกรงกลัวที่ถูกข่มขู่ และถือเป็นครั้งแรกที่มาแจ้งความเอาผิด เพราะมั่นใจว่าบังแจ็ค เป็นคนข่มขู่จริง โดยมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว อีกทั้งยังมีการพูดคุยกับ บังแจ็ค และมีคลิปเสียงที่เจ้าตัวยอมรับว่า เป็นผู้ที่ข่มขู่จริง และถึงแม้ว่าตนจะไม่เคยเรียนสื่อสารมวลชน แต่การทำหน้าที่ที่ผ่านมา ถือว่าทำตามกรอบจริยธรรม แต่ยอมรับว่า อาจจะไม่ถูกใจผู้ที่เสียผลประโยชน์ไปบ้าง
ขณะที่ แจง-ปุณณาสา กล่าวว่า การถูกนำชื่อเพจไปใช้ในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการสร้างความเสื่อมเสีย ทั้งยังมีการแอบอ้างนำรูปภาพของแจ๊ส ชวนชื่น ไปใช้ ซึ่งที่ผ่านมา พยายามติดต่อกับแอดมินเพจ เพื่อขอให้ลบข้อมูลในลักษณะนี้แล้วแต่เจ้าของเพจอ้างว่า ให้ติดต่อกับ บังแจ็ค ซึ่งเป็นเจ้าของเพจตัวจริง และก็ยืนยันว่าไม่สามารถลบให้ได้
ต่อมาเวลา 17.40 น. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ได้เดินทางออกมารับมอบหนังสือจาก หนุ่ม-กรรชัย และ แจง-ปุณณาสา พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนนำทั้ง 2 คน เข้าสอบปากคำอย่างละเอียด
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน กล่าวว่า เบื้องต้น หลังจากรับหนังสือแล้ว ก็จะมีการสอบสวนต่อไป จะต้องไปตรวจสอบดูว่าการกระทำดังกล่าวนี้เป็นการกระทำความผิดในหรือนอกอาณาจักร ก็จะเป็นในส่วนของขั้นตอนตรวจสอบต่อๆไป ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เคยมีการขึ้นบัญชีบุคคลไม่พึงประสงค์นั้น ในเรื่องของการสืบสวน เจ้าหน้าที่ดำเนินการในทุกมิติอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบดู แต่ขออนุญาตสงวนรายละเอียดขั้นตอนไว้ก่อน
ส่วนจะเข้าข่ายส่งตัวผู้กระทำผิดหรือไม่ ก็ต้องไปดูรายละเอียดคำให้การของคุณหนุ่ม-กรรชัย ก่อน แล้วจึงจะไปดูขั้นตอนในข้อกฎหมายว่าความผิดดังกล่าวจะเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตรวจสอบในทุกมิติที่เกี่ยวกับตัวบังเเจ็ค
ด้านหนุ่ม-กรรชัย กล่าวว่า ตนมายื่นเรื่องให้ตรวจสอบบังแจ็ค ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ประเทศไทย แต่คาดว่าอยู่อเมริกา จึงมาเรียนท่าน ผบก.ป.ให้ช่วยตรวจสอบ เพราะถือว่าเป็นภัยของสังคม โดยยื่นร้องทุกข์ทั้งหมด 2 เรื่อง คือหมิ่นประมาทและข่มขู่ ส่วนการขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูเรื่องความปลอดภัยนั้น ตนไม่ได้ร้องขอ แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งว่าหากต้องการก็สามารถบอกได้ ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าไม่มีเรื่องขัดแย้งกับบังแจ็ค แต่เท่าที่ทราบ ได้ให้ทีมงานไปตรวจสอบพบว่า บังแจ็คเองมีปัญหากับหลายๆคน ทั้งบุ๋ม-ปนัดดา และ แพท-ณปภา ตนจึงไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของเขาเหมือนกัน
ส่วนในมุมของตนนั้น ก็ไม่รู้ว่าโพสต์ดังกล่าว เขาจริงจังหรือไม่ แต่คิดว่าไม่สมควรโพสต์เช่นนั้น มันส่งผลเสียให้หลายคน และไม่ถูกต้อง ถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องปั่นกระแส มันก็ทำให้สังคมปั่นป่วนและตนไม่ตลกด้วย มันล้ำเส้นและเกินเลยอย่างเรื่องอื่นๆที่เป็นกระแสเกิดขึ้น ตนก็ไม่เข้าใจว่าเขาเข้าไปยุ่งเพราะอะไร คิดว่าเขาคงมีปัญหาทางจิตที่หนักมากและถ้าเขามาขอโทษ ตนขอไม่รับ เพราะคนแบบนี้ถ้าขอโทษ ครั้งหน้าก็ทำอีก ไม่ขอฝากบอกอะไร เขาคงทราบว่าตนมาเเจ้งความ และการที่ตนมาในวันนี้ ก็มาเพื่อปกป้องสิทธิของตัว
https://www.dailynews.co.th/news/945921/