Mindset ของ freelance บางคน

กระทู้คำถาม
คือฟังมาจากเพื่อนหุ้นส่วนโรงงานค่ะ เพื่อนอายุ 30 กว่า แต่ก่อนเค้าเคยเป็นฟรีแลนซ์มาก่อน ช่วงยังใช้ชีวิตวัยรุ่นปลายๆ ก่อนเข้าวัยผู้ใหญ่เต็มตัวขะ

คือเพื่อนพูดถึง mindset ของคนฟรีแลนซ์ยุคนี้ ที่ชอบ ดูถูก คนวงการอาชีพอื่น 

มีฟรีแลนซ์คนนึงชื่อ ฟ้า ค่ะ 
เพื่อนบอกเพื่อนเพิ่งเล่าถึงเพื่อนเค้านอกวงการให้นางฟัง พวกข้าราชการ นักธุรกิจ มีกิจการส่วนตัว คนชื่อ ฟ้า เค้าบอก มีแต่พวกสร้างภาพ อวดรวย ธุรกิจกงสีอาศัยคนอื่น ชนชั้นสูงไร้ค่า สู้ฟ้าไม่ได้เป็นฟรีแลนซ์แจกใบปลิวถ่ายละครทุกวัน ทำงานหนักถึงมีค่า ไม่ใช่ทำงานเบาแต่ฐานะสูงส่ง พวกนั้นไร้ค่า พวกข้าราชการก็มีแต่คนใจแคบเพราะทำงานสบาย ข้าราชการหรือคนทำงานประจำจริงๆ พวกนี้เงินในกระเป๋าไม่มีหรอก แล้วก็มีพรรคพวกนางคนหาเช้ากินค่ำรายวันมาเชียร์นางเห็นดีเห็นงามกัน ---เพื่อนสะอึกเลยขะ--- 

และคนชื่อ ฟ้า ชอบนินทาคนวงการฟรีแลนซ์ทั้งที่เป็นเพื่อนสนิทกะตัวเค้าเองด้วย ให้เพื่อนดิชั้นฟัง ใยกิ๊กอย่างงู้นอย่างงี้ มั่วผู้ชาย คบซ้อน พ่อแม่เป็นแค่ข้าราชการ นึกว่าตัวเองหรูตาย ใยก้อย อย่างงู้นอย่างงี้ มั่วผู้ชาย เล่นชู้ คบชั้นหวังผลประโยชน์ ของานชั้นทำ (คือมั่วผู้ชายทุกคน เพื่อนผู้หญิงวงการเดียวกันของคนชื่อฟ้าฟรีแลนซ์ที่นางชอบนินทาให้เพื่อนดิชั้นฟังขะ) เพื่อนคือ แบบนะ เพราะวงการฟรีแลนซ์คือสมัครงานกะโมเดลลิ่ง ไม่มีมาขอพวกเดียวกันทำงานขะ จะมีก็แค่แนะนำกันขะ

อีกอย่างเพื่อนดิชั้นเค้ารับงานน้อยลง เพราะเริ่มรับช่วงต่อกิจการโรงงานที่เป็นหุ้นส่วนกับดิชั้น กะมีกิจการเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่าง ใยคนชื่อฟ้าที่เป็นฟรีแลนซ์นางก็มาจิกกัดเพื่อนดิชั้นค่ะ ว่า อ้าว ไมเดี๋ยนี้ไม่เห็นมารับงาน จะเอาที่ไหนกิน ตกงานเหรอ น่าสงสารจัง สู้ชั้นไม่ได้นี่ แล้วนางก็จะชอบถ่ายรูปส้มตำ ยำ อะไรที่นางชอบกินส่งมาอวดเพื่อนชั้นแล้วบอกฟ้ามีกิน ดิชั้นเห็นไลน์คนชื่อฟ้าที่เพื่อนดิชั้นโดนนางส่งมา ดิชั้นยังขำค่ะ แต่ก็น่าสงสารนางนะคะ เพราะ mindset แคบ นางคงคิดว่านางวิเศษสุด เจอใครที่ฐานะดีกว่า ชีวิตมั่นคงกว่านางจะปิดกั้นทำไม่รับรู้แถมบลัฟจิกกัดเค้าด้วยขะ 

และก่อนเลิกคุย นางโทรไลน์มาหาเพื่อนดิชั้นค่ะ คือไม่โทรเบอร์คงกลัวบันทึกเสียงอัตโนมัติเวลานางนินทาคนนู้นคนนี้ในวงการฟรีแลนซ์เสียๆ หายๆ ให้เพื่อนดิชั้นฟัง นางบอกความจริงบ้านนางรวยค่ะ มีที่หลายสิบไร่คฤหาสน์อยู่ในรั้วสองสามหลังกลางกทม. พ่อแม่นางเป็นข้าราชสำนักในวัง นางเบื่อชีวิตนาง นางเลยมาหารับจ้างแจกใบปลิว มารับจ้างถ่ายตัวประกอบละคร คือ เพื่อนดิชั้นแอบขำ เพราะนางเคยบ่นให้เพื่อนดิชั้นฟังก่อนหน้า ว่านางหาเงินคนเดียว พ่อแม่นางยังไม่เกษียณแต่ไม่มีอาชีพ ต้องรอให้นางซื้อข้าวไปให้กินหลังนางเลิกงานฟรีแลนซ์แต่ละวัน พอนางเงินไม่พอซื้อ คือมีซื้อให้ตัวเองกินคนเดียว ก็จะทะเลาะกะพ่อกะแม่นาง ค่ะ (คือนางคงลืมค่ะ เลยไม่เนียน) และนางอยู่บ้านไม้ผสมสังกะสีแถวลาดพร้าว ยังดีที่มีทะเบียนบ้านเป็นคนกทม. (คนตจว.อยู่กทม.นาน ไปขอทะเบียนกะที่ว่าการเขต แต่จริงๆ ไม่มีบ้านของตัวในกทม.) เพราะตอนเด็กนางอยู่พิษณุโลก มีลูกสาวกะสามีคนแรกหย่ากันไป แต่นางเคยบอกคนอื่นนางจบปริญญาตรี สารสนเทศ ม.ม.หนึ่งในกทม.นะคะ แต่ให้นางอ่านภ.อังกฤษง่ายๆ นางอ่านไม่เป็น คุยภ.ไม่ได้แม้แต่น้อย ก็เพราะนางโกหกว่าเรียนจบม.ค่ะ 

เพื่อนคือแบบ สงสัยคงต้องเลิกคุย คือเพื่อนรู้จักนางคนนี้ ที่ชื่อ ฟ้า ตั้งแต่ปี 60 นางจู่ๆ วิ่งเข้ามาทักในงานฟรีแลนซ์งานนึง คือมาตีสนิทมาขอคบก่อนค่ะ 
ที่เล่ามาไม่ได้อยากจะนินทานะคะ แต่เผอิญมันกระทบดิชั้นน่ะค่ะ เพราะคนชื่อฟ้าวงการฟรีแลนซ์ เค้าบอก พวกทำธุรกิจ เป็นคนไร้ค่า เพราะไม่ได้ทำงานหนักเหมือนนาง พวกข้าราชการเป็นคนใจแคบ จน แล้ว อวดรวย ไม่ได้รับเงินทุกวันเหมือนนาง 

---อันนี้แหละที่ดิชั้นอยากทราบว่าคนวงการฟรีแลนซ์ mindset เป็นงี้เหรอคะ น่ากลัวมากๆ ค่ะ--- อีกอย่างคนพวกนี้วันดีคืนดีแอบอินบ็อกมาหาเพื่อนดิชั้นขอยืมเงินทีละห้าร้อยทีละพันด้วยนะคะ ลึกๆ คนพวกนี้คงดูออกว่าเพื่อนดิชั้นพอมีฐานะค่ะ พอยืมแล้วก็เงียบหาย ไม่คืน แต่เวลานั้นก็จะชอบพูดบลัฟ ค่อนขอด เพื่อนดิชั้นแปลกๆ แบบคนขี้อิจฉาขะ

ปัจจุบันเพื่อนดิชั้นเบื่อๆ เค้าก็ไปรับฟรีแลนซ์ทำสนุกๆ (นางนิสัยแบบ ชอบอยากเป็นเด็กเป็นวัยรุ่น) แก้เบื่อนะคะ (แต่ก็เลือกที่ดูดีดูดี สบายๆ อย่างงานวิจัยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบ.ต่างๆ/ เดินทรูป ต้อนรับงานนิทรรศการที่ใช้ภาษาอังกฤษ อะไรที่ดูเป็นปัญญาชนหน่อยขะ เพราะนางก็ไม่ได้ลำบากอะไร) แต่เงินส่วนตัวมีขะ (เค้าปกปิดมากเรื่องนี้กะคนในวงการฟรีแลนซ์ที่เค้ารู้จัก) เพราะที่บ้านค่อนข้างมีฐานะมีกิจการเป็นของตัวเองค่ะ แต่ก็อาจรับงานฟรีแลนซ์น้อยลงน้อยลงเรื่อยๆ เค้าบอกดิชั้นว่า เมื่อห้าหกปีก่อน ปัญญาชนที่เป็นฟรีแลนซ์ เยอะมาก เหมือนแฟชั่นเด็กรวยวัยรุ่นก่อนเข้าวัยผู้ใหญ่ทำกัน (ช่วงนั้นเพื่อนเค้าที่ฐานะดีๆ บ้านรวยจริงๆ ทำกันเยอะ) แต่ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ เพราะพวกปัญญาชนพวกนี้กลับไปทำงานประจำหรือรับช่วงต่ออะไรที่บ้านกันหมดแล้ว จนปัจจุบัน จะเหลือก็คนพื้นฐานแบบคนที่ดิชั้นเล่าไปค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่