ในปี 1974 มนุษย์ได้ส่งข้อความแรกของพวกเขาสู่อวกาศไปยังมนุษย์ต่างดาว การส่งสัญญาณนี้เรียกว่า "Arecibo message" เป็นการสื่อสารรหัสไบนารี 1,679 หลักเป็นเวลาสามนาทีซึ่งมีข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับมนุษยชาติโดยหวังว่าจะสามารถไปถึงสิ่งมีชีวิตนอกโลกได้ นอกจากข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องยัง รวมถึงรูปแท่งของบุคคล การเป็นตัวแทนของ DNA ระบบสุริยะของเรา และกราฟิกของกล้องโทรทรรศน์ โดยข้อความถูกส่งไปยังเป้าหมายที่กระจุกดาวทรงกลม M13 ที่ตั้งอยู่ใกล้สุดขอบทางช้างเผือกในกลุ่มดาวเฮอร์คิวลีส ห่างออกไป 25,000 ปีแสง และมีดาวฤกษ์ประมาณหนึ่งในสามของล้านดวง 

Arecibo Message ฉบับแรกได้รับการออกแบบโดยนักดาราศาสตร์ Frank Drake ผู้บุกเบิกการค้นหาข่าวกรองนอกโลกหรือ SETI ร่วมกับนักดาราศาสตร์คนอื่นๆ รวมทั้ง Carl Sagan โดยข้อความดังกล่าวอยู่ในรูปของการส่งสัญญาณวิทยุ 1,679 บิต ที่ถูกส่งไปในระหว่างการอัพเกรดครั้งใหญ่ของกล้อง โทรทรรศน์วิทยุ Arecibo ในเปอร์โตริโก แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของข้อความนี้คือ เพื่อเน้นถึงพลังอันมหาศาลของเครื่องส่งสัญญาณเรดาร์ที่เพิ่งติดตั้งที่ Arecibo และความสามารถของเสาอากาศจานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,000 ฟุตของกล้องเพื่อฉายสัญญาณอันทรงพลังสู่อวกาศ

และนับตั้งแต่การส่งสัญญาณนั้น คลื่นวิทยุในระยะเวลาสามนาทีได้กระเพื่อมเป็นระยะทาง 44 ปีแสง หรือน้อยกว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์ของเส้นทางสู่ M13 ซึ่ง
ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ข้อความจะถูกตรวจพบและถอดรหัสโดยอารยธรรมมนุษย์ต่างดาว

แม้จะมีการส่งข้อความประเภทอื่นเป็นระยะตั้งแต่นั้นมา แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงถกเถียงกันอยู่ว่าการถ่ายทอดการมีอยู่ของเรานั้นดีหรือไม่ รวมถึงนักฟิสิกส์ชื่อดังอย่าง Stephen Hawking กล่าวว่าการให้มนุษย์ต่างดาวรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน อาจกลายเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเราเช่นเดียวกับการมาถึงของ Christopher Columbus ในโลกใหม่จนกลายเป็นเรื่องกับชนพื้นเมืองอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม หากมีผู้คนใน M13 จริงพวกเขาอาจจะตอบกลับข้อความนี้โดยทันที ในขณะที่เรายังคงต้องรออย่างน้อย 43,960 ปีสำหรับการตอบกลับนี้ แต่ในความเป็นจริงข้อความ Arecibo ไม่เคยตั้งใจให้เป็นการสื่อสารระหว่างดวงดาว หากเป็นการสาธิตถึงพลังของกล้องโทรทรรศน์ Arecibo เป็นหลัก และแม้ว่าสิ่งมีชีวิตสมมุติของ Messier 13 อาจไม่มีวันเป็นเพื่อนทางจดหมายของเรา แต่ความคาดหวังของการสื่อสารระหว่างดวงดาวในอนาคตยังคงดำเนินต่อไป โดยหลังจากข้อความ Arecibo ถูกส่งไปยังจักรวาล ภายใน 15 ปีที่ผ่านมายังมีอย่างน้อย 8 ข้อความวิทยุระหว่างดวงดาวได้ถูกส่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

จากข้อความระหว่างดวงดาวทั้ง 8 ที่ส่งไปตั้งแต่ปี 1999 ข้อความแรกที่ไปถึงเป้าหมายคือ ข้อความจากโลกซึ่งถูกส่งไปยังดาวเคราะห์นอกระบบ Gliese 581 c ในเดือนตุลาคม 2008 และมีกำหนดจะกลับมาถึงในต้นปี 2029 (การส่งสัญญาณนี้ตั้งใจให้เป็นแคปซูลเวลาดิจิทัลที่ริเริ่มโดยบริษัท RDF Digital และเว็บไซต์ Bebo เป็นภาพถ่ายและข้อความจำนวน 501 ภาพ) ทั้งนี้ การส่งสัญญาณระหว่างดวงดาวแต่ละครั้งจะมีเนื้อหาที่แตกต่างกันออกไป แต่แต่ละครั้งจะสะท้อนข้อความหลักทั่วไป นั่นคือ "We ar. This is us" 

ตอนนี้ หลังจาก 50 ปีของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี Daniel Oberhaus แห่ง  Scientific American นักวิจัยของ NASA ได้อัปเดตข้อความใหม่ไว้ในการศึกษาเบื้องต้นที่เผยแพร่บนเซิร์ฟเวอร์ preprint arXiv (กระดาษยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยพันธมิตร) เป็นข้อความใหม่ที่เรียกว่า "Beacon in the Galaxy" (BITG) นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ แผนที่โลก ร่างมนุษย์ชายและหญิงที่มีรายละเอียดมากขึ้น โครงสร้างและองค์ประกอบของโลก การเชิญและการตอบกลับ และเช่นเดียวกับข้อความ Arecibo เดิม นักวิจัยได้สร้างมันให้เป็น bitmap (คอมพิวเตอร์จะแปลงให้เป็นจุดภาพ) ซึ่งเป็นวิธีการใช้ไบนารีเพื่อสร้างภาพพิกเซล 

Jonathan Jiang นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จาก Jet Propulsion Laboratory (JPL) ของ NASA ในแคลิฟอร์เนียผู้เขียนศึกษา กล่าวว่า แรงจูงใจสำหรับการออกแบบคือการให้ข้อมูลจำนวนสูงสุดเกี่ยวกับสังคมและเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราในข้อความที่น้อยที่สุดในการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว เพื่อบอกให้รู้ว่าเรามีอยู่ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล ข้อความต้นฉบับจะมีความชัดเจน รัดกุม ตรงประเด็น และสามารถทำได้ดีกว่าข้อความ Arecibo ในปี 1974

ในรายงานของ Jiang และเพื่อนร่วมงานยังได้อธิบายถึงวิธีที่ดีที่สุดในการส่งข้อความและตำแหน่งใดในทางช้างเผือกที่ควรกำหนดทิศทางสัญญาณวิทยุ และระบุว่า BITG จะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ ที่เริ่มต้นด้วยการถ่ายทอดแนวคิดทางคณิตศาสตร์และทางกายภาพขั้นพื้นฐานเพื่อ "สร้างวิธีการสื่อสารที่เป็นสากล" นอกจากนี้ ทีมงานยังเสนอว่าสำหรับงานนี้ กล้องโทรทรรศน์วิทยุทรงกลม Five-hundred-meter Aperture Spherical radio Telescope(FAST) ในประเทศจีนและกล้องโทรทรรศน์ Allen ของสถาบัน SETI ในแคลิฟอร์เนียจะถูกนำมาใช้ด้วย 

นักวิจัยกล่าวว่าข้อความน่าจะถูกส่งขึ้นไปในช่วงวันที่ 30 มีนาคม - 4 ตุลาคมของปีนี้ เมื่อโลกอยู่ในมุมที่เหมาะสม และควรจะส่งจากกล้องโทรทรรศน์ Allen ของสถาบัน SETI ในแคลิฟอร์เนียหรือกล้องโทรทรรศน์วิทยุทรงกลม FAST ในประเทศจีน โดยข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกบรรจุใน 13 ส่วนที่ประกอบด้วย 204,000 บิตหรือ 25,500 ไบต์  เป้าหมายที่เลือกคือวงแหวนที่มีจุดศูนย์กลางซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางกาแลคซี่ 13,000 ปีแสง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เพิ่งได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์ของ SETI เมื่อไม่นานมานี้

สำหรับหอดูดาว Arecibo นับตั้งแต่ติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณในปี 1974 เรดาร์ของ Arecibo ก็ได้ถูกนำมาใช้ในการสำรวจระบบสุริยะอย่างกว้างขวาง รวมถึงการทำแผนที่โดยละเอียดของพื้นผิวดวงจันทร์และดาวศุกร์ เรดาร์ได้รับการปรับปรุงให้มีกำลังสูงขึ้นในปี 1997 แม้ไม่มีการส่งข้อความอย่างเป็นทางการอื่น ๆ แต่สัญญาณเรดาร์จำนวนมากยังคงดำเนินต่อไปจากระบบสุริยะของเรา ในขณะที่การส่งข้อความโดยใช้ยานพาหนะในวิธีแรกๆ ที่สลักอยู่บนแผ่นทองแดงไปพร้อมกับยานอวกาศ Pioneer 10 ที่เปิดตัวในเดือนมีนาคม 1972 ตอนนี้อยู่ห่างจากโลกประมาณ 7 พันล้านไมล์

นอกจากเป็นศูนย์นักท่องเที่ยวแล้ว Arecibo ยังเป็นที่ตั้งของเครื่องมือทางดาราศาสตร์อื่นๆ เช่น กล้องโทรทรรศน์ 12 เมตรและศูนย์ LIDAR ซึ่งสามารถศึกษาบรรยากาศได้โดยการสะท้อนลำแสงเลเซอร์ออกจากอนุภาคที่อยู่เหนือพื้นโลกประมาณ 20 ถึง 100 ไมล์ และหลังจากกล้องถล่มไปในปี 2020 สิ่งประดิษฐ์ได้ถูกกู้คืนและซ่อมแซมและเปิดให้เข้าชมอีกครั้งแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา

Cr.https://gizmodo.com/a-beacon-in-the-galaxy-scientists-update-humanity-s-me-1848727546 / George Dvorsky/2022
Cr.https://www.smithsonianmag.com/smart-news/researchers-update-message-to-extraterrestrials-180979885/Margaret Osborne/2022
Cr.https://interestingengineering.com/nasa-scientists-message-extraterrestrials / Chris Young /2022
Cr.https://www.geekwire.com/2018/44-years-first-message-aliens-arecibo-observatory-calls-follow/ ALAN BOYLE 
Cr.https://www.standard.co.uk/lifestyle/areceibo-message-google-doodle-explained-a3991926.html / Georgia Chambers
Cr.https://arxiv.org/abs/2203.04288

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)