ประสบการณ์ขอวีซ่า Visitor to Norway (Apr 2022)

กระทู้สนทนา
ขอแชร์ประสบการณ์บ้างค่ะ จากที่มาหาข้อมูลในนี้บ่อยๆ วีซ่าที่ไปขอคือ Visitor ไปนอร์เวย์ เพิ่งได้เล่มคืนวันนี้ สดๆร้อนๆ ขอสรุปเป็นข้อๆข้างล่างค่ะ

- ก่อนขอวีซ่าต้องเข้าไปกรอก application form แบบออนไลน์ เป็นเว็บของสถานทูต กรอกเสร็จเรียบร้อยจะมีให้จ่ายเงินค่าวีซ่าออนไลน์ ก็จ่ายไป สมัครเสร็จแล้วต้องปริ้นท์ใบ application นี้ออกมาเป็น 1 ในเอกสารที่จะยื่น

- ต้องจองคิวกับ VFS จองออนไลน์เช่นกัน ขั้นตอนนี้คนละเว็บกับด้านบน คิวจะเลื่อนไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ได้แน่นมาก คุ้นๆว่าคิวจะเป็นพีเรียดของอาทิตย์หน้า จองคิวเสร็จจะมีเอกสารให้ปริ้นท์ออกมา ใช้เป็น 1 ในเอกสารที่ต้องยื่นเช่นกันสล็อตเวลาที่ให้จอง ไม่มีให้เห็นทุกช่วงเวลาในแต่ละวัน อาจจะเพราะเต็มไปแล้ว เราเลือกวันที่ต้องการ เวลาเช้าสุด8.30 จะได้ไม่ต้องลางาน

- เอกสารหลักๆของ visitor visa คือ invitation letter เราจะไปเยี่ยมเยือนใคร คนนั้นต้องส่งจม.เชิญมาให้ วีซ่าประเภทนี้จะอยู่ได้ 3 เดือน จม.เชิญต้องเป็นเอกสารตัวจริง

- รูปถ่าย เตรียมไปสัก 3 ใบ เผื่อไปหน่อย ของเราติดรูปไว้ที่ใบสมัคร 1 ใบ จนท. VFS ขอรูปถ่ายไปอีก 2 ใบ ตอนได้เล่มคืน มีคืนรูปมาให้ 1 ใบ (จากเช็คลิสขอแค่ 2)

- เตรียมค่าบริการ VFS service fee ไปด้วย ของเรา 1,130 บาท ไม่รับโอน ต้องเงินสดเท่านั้น ค่าวีซ่าที่จ่ายตอนกรอกapplication form น่าจะคนละส่วนกัน อันนั้นให้สถานทูต

- พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน ให้ติดก็อปปี้ไปด้วย 2 ใบ ถ้าไปถ่ายเอกสารที่นั่น ใบละ 5 บาท

- พาสปอร์ตเล่มเก่า ถ้าเคยมีเชงเก้นวีซ่า ให้ติดเล่มจริงไปด้วย เรายื่นก็อปปี้ไปแล้ว แต่จนท.ก็ถามถึงเล่มจริง เลยยื่นไปด้วยทุกเล่มที่มีเชงเก้น (ได้คืนตอนที่คืนเล่มให้ทางไปรษณีย์)

- สถานที่ยื่นเอกสาร จามจุรีสแควร์ชั้น 4 ตึกจะเปิดประตู 8 โมง ถึงเวลานัดโชว์หน้าที่บุกกิ้งไว้ว่าจองรอบเช้าสุด(8.30) ให้จนท.ดู เข้าไปตรงไปรับบัตรคิว พอเป็นคิวแรกๆโพรเซสไวมาก เอกสารเราเตรียมไปพร้อม มีต้องเพิ่มก็อปปี้พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน 1 ใบ ในนั้นมีบริการก็อปปี้เอกสารเลยไม่ใช้เวลามาก (เรากลับไปทำงานทัน 9 โมง) จนท.VFS บริการดี ดูเอกสารเรียบร้อยก็จ่ายค่า VFS service fee มีบวกค่าบริการ SMS, ค่าส่งเล่มคืนด้วย ที่นั่นมีบริการประกันการเดินทาง ถ่ายรูป ถ่ายเอกสาร ใครลืมอะไร ไปหาที่นั่นได้ (แพงกว่าเตรียมไปเอง ถ่ายรูปน่าจะ 200 กว่า)

- เอกสารที่เป็น proof ว่าจำเป็นต้องกลับมาไทย (ไม่คิดจะหนี) เช่มจม.รับรองการทำงาน นอร์เวย์ระบุว่าให้ใส่ leave period ด้วย เราก็ขอบริษัทให้ระบุลงไป แล้วมีเอกสารตัวนึงที่เรายื่นไปด้วย เกี่ยวกับ property ownership เพื่อยืนยันว่ามีสิ่งผูกพันในไทย เรายื่นสัญญาซื้อขายคอนโดไป สัญญานั้นเป็นภาษาไทย จนท.VFS เลยถามว่ามีฉบับอังกฤษมั้ย เราไม่มี จนท.ให้เขียนยืนยันลงไปที่ใบสมัครว่ายืนยันจะยื่นเอกสารนี้เป็นภาษาไทย เราก็เขียนเพิ่มตามที่จนท.บอก เราว่าอันนี้คือเอกสารเสริม ไม่ใช่ตัวหลัก เลยช่างมันเอาแค่นี้

- ตั๋วเครื่องบิน เราแอบกลัวเพราะเป็นการขอวีซ่าเต็มแม๊กซ์ 90 วันครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีแค่วีซ่าท่องเที่ยวไม่เกิน 2 วีคกลัวจะไม่ได้ตามที่ขอ เลยไม่ได้ซื้อตั๋วก่อน ได้คำแนะนำจากกะทู้ก่อนหน้านี้ คือใช้วิธีจ่ายมัดจำ 2,000 บาทกับเอเจนซี่ขายตั๋วเจ้านึงเพื่อให้ออก itinerary สำหรับยื่นวีซ่าให้ ถ้าวีซ่าผ่านแล้วจองตั๋วกับเค้าก็หัก 2,000 ออก ถ้าวีซ่าไม่ผ่านจะคืนเงินให้

- วันที่เรายื่นขอวีซ่าคือ 1 เมษา วันที่ได้เล่มคืนคือ 9 เมษา (ผ่านไปรษณีย์)ถ้านับวันทำงานใช้เวลาแค่ 3-4 วันเอง มีsms แจ้ง มี tracking no. ที่จะคอยเช็คได้ ได้เร็วกว่าที่คิดมาก

- วีซ่าเราได้มา 89 วัน วีซ่าเริ่มเป็นวันเดียวกับที่เรายื่น itinerary ไปเป๊ะๆ ได้ single entry ตามที่ขอ (ไม่ได้จะออกนอกเชงเก้น) ดีใจสุดๆ

ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเราประวัติค่อนข้างแน่น ไม่ได้ให้คนเชิญเป็นสปอนเซอร์เพราะมีเงินเก็บอยู่บ้างประมาณหลักแสนมีงานประจำอายุงาน 10 ปีขึ้น มีส่งเพย์สลิป ยื่นก็อปปี้บช.เงินเดือนให้เห็นเงินเข้าชัดๆ เคยขอเชงเก้นมาก่อน แต่ไม่ได้ไปบ่อยขนาดนั้น น่าจะ 3-4 ครั้ง ไม่ได้ไปติดๆกันทุกปี แล้วขอวีซ่าครั้งสุดท้ายปี 2017 แล้วอย่างที่บอกครั้งนี้ขอวีซ่าแบบ 3 เดือนครั้งแรก แอบกลัวว่าจะไม่ได้ตามแผน สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี ส่วนตัวเราว่าวีซ่านอร์เวย์ไม่ได้ยาก เราเขียนเหตุผลที่ขอไปตามจริงซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่ invitation letter เขียนมาเชิญ เอกสารทุกอย่างที่มีก็ให้ไป ไม่มีอะไรหมกเม็ด

หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างสำหรับใครที่ไปขอวีซ่าช่วงนี้ ขอบคุณทั้งจนท.VFS และสถานทูตด้วยค่ะที่ดำเนินการให้รวดเร็วทันใจ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่