ขอตอบเป็นข้อๆให้นะ

การเงินไม่ดีเลย ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้

😟 ไม่สนใจหน้าตาแล้ว หน้าตาดี หรือ หน้าธรรมดา ก็ได้ ไม่ว่ายังไงธุรกิจก็ต้องเดินต่อไป
- หน้าตาดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ซื้อ ถ้าคิดจะขาย เอาความต้องการของผู้ซื้อเป็นที่ตั้งไม่ใช่มุมมองของคุณ  ปรับเปลี่ยนทัศนะคติใหม่

😟 อยากคบกับคนที่สามารถ แชร์ หรือ แบ่งปัน ผลประโยชน์ให้กันและกันได้มากกว่านะ .... ขนาดพวกเพื่อนๆ บน facebook ผมยังไม่อยากกด app เข้าไปดูเลยด้วยซ้ำ (โพสต์อวดอ้าง โต้กันไป สวนกันมา ใส่หน้ากากเข้าหากัน อะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่มีใครได้ผลประโยชน์จากกันและกัน)
- ผลประโยชน์แต่ละคน จำกัดความไม่เหมือนกัน

😟 ผมทำงานมา 3 เดือนแล้ว ทั้ง ศึกษาตลาด, วิเคราะห์คู่แข่ง, ลงคอร์สยิงโฆษณา , ทำอาหารเอง 9ล9 ทำเองคนเดียวหมดทุกอย่าง ลูกน้องก็ไม่มีเลย เพราะเงินจำกัดมาก อยากจะกินอะไรก็ไม่ได้กิน , ไม่ได้เที่ยวไหนเลย ก็กลุ้มๆ & ท้ออยู่นะ รายได้ก็ไม่มีเลย
-คุณรู้มั้ย มีเพียงแค่ 10% ของธุรกิจเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ และ คุณไม่ใช่ทำมา 3 เดือน แต่คุณพึ่งทำมาแค่ 3 เดือนเอง คุณควรจะไป ดาวโหลด ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และดูว่า ช่วงโควิดที่ผ่านมา บริษัทที่มีกำไรมีกี่เปอเซ็น  การที่คุณไม่มีลูกน้อง นั่นคือข้อดีของคุณ เพราะคุณไม่ต้องแบกค่าใช้จ่ายเพิ่มในช่วงที่คุณไม่มีรายได้  คุณควรจะสมัครไปเป็นพนักงานประจำจะได้เข้าใจว่า ธุรกิจจริงๆเป็นยังไง นอกจากได้เงินและจะได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติด้วย

😟 ไม่นานมานี้ก็ ตบะแตก เผลอซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เกี่ยวกับ skincare ที่ไม่จำเป็น เงินที่เหลืออยู่นี้ก็คือ บุญเก่า ในอดีต
-ดูจากกระทู้เก่าของคุณ ตามที่บอกข้อแรก ถ้าคุณจะลงทุนกับหน้าตา มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบสไตล์เกาหลี
คุณกำลังลงทุนแบบสะเปะสะปะ ไม่มีจุดหมาย

😟 มีวันนึง ร่างกายไม่รู้มันเป็นอะไร เดินไปจ่ายตลาดไป-กลับ แค่ 600 เมตร ก็เมื่อยแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร กลุ้มใจ หรือ ขาดสารอาหาร ก็ไม่รู้ พอกลับถึงห้องคอนโดก็งีบหลับไป 40 นาทีเลย

- คุณควรเอาเงินที่เหลือมาซื้อข้าวแล้วไปสมัครงานได้แล้ว ณ จุดๆนี้ เพราะ ถ้าคุณจะขายรูปร่างหน้าตา คุณกำลังเสนอขายของที่กำลังจะเสื่อมหรือได้เสื่อมคุณภาพไปแล้ว คุณจะบอกว่า ผู้หญิงหน้าตาเป็นไง ไม่สนทั้งนั้น แต่ผู้หญิงคงไม่สามารถไม่สนได้ เพราะ เธอกำลังจะจ่ายเงินซื้อสินค้า ซึ่งคือตัวคุณ ในสภาพที่อิดโรยแรงไม่มี สิ้นหวัง ตีโพยตีพาย โรครุม แค่คิดก็มีแต่ค่าใช้จ่ายเต็มไปหมด ยังไม่เห็นข้อดีเลย

😟 ถ้าพลาดอีกแค่ 1 ครั้ง มันต้องเลวร้ายพอตัวแน่ ผมต้องหาเงินมาตุนเอาไว้ซักก้อนก็จะดี เหมือนทำประกันชีวิต ถึงแม้ผมจะพลาดโดยเสียเงินไม่มาก แต่ก็จะเสียเวลาไปฟรีๆ มากโขเลย (ถ้าได้เงินมาซักก้อนก็จะลดผลกระทบนี้ได้) แต่ผมก็ทำ SWOT กับ ศึกษา market ที่จะเจาะมาอย่างดีแล้ว มันก็ช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้เยอะอยู่นะ
-ความเสี่ยงในที่นี้ ลดยังไง คุณกำลังบอกว่า ที่ธุรกิจคุณไปไม่ได้ เพราะ สายป่านไม่ยาวพอ ?

😟 ผมได้ idea นี้จากการที่ผมเช่าห้อง condo ของ ผญ. สิงคโปร์ แต่ยังไม่เคยเจอหน้ากันเลยซักครั้ง และก็ผมค้างค่าเช่าเธอมา 5 เดือนแล้ว
😟 ก่อนหน้านั้นประมาณ 3 เดือนก่อน นายหน้าของเธอโทรมาแจ้งว่าจะฟ้องร้อง ถ้าผมไม่ยอมย้ายออกไป (ผมจ่ายค่าล่วงหน้า 3 เดือนแล้ว)
😟 ต่อมา นายหน้าฯ แจ้งนิติฯ ให้ระงับ Key card ผม แต่ผมก็ยังเข้า-ออก condo นี้ได้อยู่นะ โดยตีเนียนขึ้นมากับคนอื่นตอนช่วงเช้าๆ หรือ เย็นๆ ที่คนเข้า-ออกเยอะ
😟 ตอน 4 เดือนก่อน ผมส่งหลักฐานทางการเงินไปอ้างกับนายหน้าฯ ว่าผมมีปัญญาจ่ายชดใช้หนี้ให้ได้ หลังจากนั้นนายหน้าฯ ก็ไม่โทร และมาเคาะห้องผม เพื่อทวงเงินอีกเลย .... หลักฐาน คือ บัญชีเงินฝากธนาคารช่วงที่ธุรกิจผมรุ่งเรือง ก่อนที่จะเจ๊งหนัก
😟 หลังจากนั้น ผมก็ส่งรูปหน้าผม กับ Instagram ผมไปให้นายหน้าฯ เพื่อให้เค้าส่งต่อไปหาเธอ (ตั้งแต่ผมมาเช่า condo นี้ เรายังไม่เคยเจอหน้ากันเลย) โดยอ้างว่า ผมอยากชื้แจง/แถลงไข ก็เลยส่งลิงค์ instagram มากับข้อความนี้ด้วย แต่ความจริง คือ ผมอยากให้เธอเอ็นดูผมเฉยๆ (สมัยวัยรุ่นเคยมี ผญ. วัยประมาณ 30-40 เอ็นดูผม ตอนแรกก็นึกว่ามาจีบ แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย) เพราะได้ยินมาว่า ผญ. สิงคโปร์ชอบชายไทย จากสื่อบันเทิงไทยที่ส่งออกนอก และก็หน้าผมก็ไปวัดไปวากับเค้าได้ ก็เลยอยากลองเสี่ยงดู ก็ไม่ได้กะจะจีบเธอหรอก แค่อยากให้เธอสงสารผม ไม่ส่งนายหน้าฯ มาทวงเงินผมอีก และในที่สุดเธอก็ไม่ส่งนายหน้าฯ มาทวงเงินผมจนถึงปัจจุบันอีกเลย
😟 ต่อมาผมก็ขอไอดี Line เธอจากนายหน้า เพราะคราวนี้ผมอยากลองจีบดู .... ตอนแรกก็นึกว่าคนสิงคโปร์ใช้ Whatsapp ซะอีก
😟 ผมส่ง message ไป แต่ก็ไม่เชิงว่าจีบ .... ผมอยากสื่อสารทางอ้อมว่า ผมขอบคุณ และรู้สึก grateful มาก ที่คุณใจดี มีความเมตตา คุณเป็นคนที่ sofisticated ที่รับมือกับปัญหาที่ผมทำกับคุณได้อย่างนุ่มนวล .... ชมๆ เธอไปก่อน ไรงี้ ผมไม่ได้จีบ ผญ. มานานแล้ว ก็เลยอยากจะ play it safe โดยการชมไว้ก่อน มันง่ายดี และ ปลอดภัยด้วย
😟 แต่ทว่า .... เธอยังไม่ส่งข้อความตอบกลับมาเลย
- ขอตอบจากคนที่เคยอยู่สิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นประเทศที่ทำงานหนักมาก เพราะไม่มีทรัพยากรเลย ผู้หญิงสิงคโปร์ ขึ้นชื่อว่า มาตรฐานสูงเทียมฟ้าและภูมิใจในชาติของเค้ามาก เพราะ เค้าเป็น ประเทศเดียวในเอเชียที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง เป็นเรื่องจริงที่เค้าชอบผู้ชายไทยแต่ผู้ชายไทย ในมุมมองของเค้าคือ อั้ด อัษฎา พานิชกุล ลองไปดูใน youtube ดูตอนที่เป็น วีเจ ไม่ใช่มีดีแค่หน้าตา สิงคโปร์ถือว่าเป็น regional office ของ บริษัท MNC ในอาเซียน คุณคิดว่า คุณจะแข่งกับผู้ชายในระดับสากลยังไง คุณคงต้องทำ SWOT และ Market positioning ตัวเองใหม่

😟 แต่ผมก็ยังมีความเชื่อว่า .... อย่างน้อยๆ เธอน่าจะเอ็นดูผม เธออาจมีอายุ 40 อัพแล้วก็เป็นได้ (ผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธออายุเท่าไหร่) เธอปล่อยให้ผมค้างค่าเช่ามานานขนาดนี้ได้ & condo เธอก็อยู่ใกล้กับสถานี BTS ด้วย (ตึกเก่าแล้ว แต่ก็เห็นมีรถหรูจากเยอรมันจอดอยู่นะ 4-5 คัน eco car ก็มี ก็มีทุกชนชั้นนั่นล่ะนะ) นางก็คงฐานะดีพอสมควรเลยนะผมว่า ผมได้พักอยู่ condo ได้นานมากถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายพอสมควรเลยนะ ซักวันในอนาคตอันใกล้นี้ผมจะตอบแทนบุญคุณเธอแน่นอน 🙏 ผมอยากจ่ายคืนใช้เธอ 2 เท่าเลยด้วยซ้ำ
- เธออาจจะกำลังทำ cost benefit analysis อยู่ว่าจะฟ้องขับไล่ หรือ ไปสวดมนต์ที่วัดขอพรให้ศักดิ์สิทธิ์ดลบัลดาลให้คุณออกไปแบบไม่ต้องเสียตัง
😟 ผมก็เลยอยากหาแหล่ง หาคู่ที่สะดวก (ไม่กระทบกับงานยุ่งๆ ของผมนี้) ที่มี ผญ. สิงคโปร์ เยอะๆ เผื่อไว้ในกรณีที่โดนปฏิเสธ
- ถ้าคุณหวังตกถังข้างสาร คุณอาจจะต้องทำ SWOT analysis ใหม่ เพราะ ตามที่คุณพูดมาว่า มีผู้หญิง 30-40 มาเอ็นดูคุณตอนวัยรุ่น หมายความว่าตอนนี้คุณอายุมากแล้ว และ มาพร้อมกับร่างกายอันเสื่อมโทรม ถ้าคุณจะขายความสงสาร และ ความน่าเอ็นดู ช่วง golden time ของคุณมันเลยมาเนิ่นนานแล้ว สิ่งที่ผู้ชายที่มีอายุควรมีคือ 1. ทัศนคติและ 2. ความเป็นผู้ใหญ่ (ยอมรับและเข้าใจโลก) เพราะถ้าคุณไม่มีสองสิ่งนี้ คุณจะไม่รู้เลยว่า ตอนนี้คุณมีอะไรที่จะนำเสนอได้บ้าง แล้วผู้หญิงที่คุณหวังเค้าต้องการอะไรจากคุณ ถ้าจุดขายคุณคือความสงสาร และผู้หญิงต้องเลือกคุณเพราะปลื้มปิติที่ได้ทำบุญและทาน อันนี้คุณซ้ำกับวัด คิดใหม่