การประเมินดัชนีความเท่าเทียมทางเพศจากการที่วัดจำนวนผู้หญิงนั้นคุณคิดว่ายุติธรรมเเละเเฟร์ไหม
เหมือนไอซ์เเลนด์ถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศอันดับ1เเต่ผมสงสัยว่าเท่าเทียมเหรอ
เพราะจากที่ผมดูคณะกรรมการประเมินดัชนีความเท่าเทียมทางเพศกับมีหญิงมากกว่าชายซึ่งอาจจะทำให้เกิดเพดานเเก้วชนิดย้อนกลับได้เเละทำให้การประเมินไม่เป็นธรรมได้เพราะองค์กรระหว่างประเทศไม่ได้เป็นธรรมเสมอไปอย่างที่ไทยก็เคยติดหล่มมาเเล้วอย่างสนธิสัญญาเบาว์ริงที่เป็นสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
เพราะความเท่าเทียมทางเพศจะเกิดขึ้นได้เมื่อทั้งสองเพศได้รับการยอมรับจากสังคมพอๆกันเเละไม่มีเพศไหนเหนือกว่าเพศไหนเเละต้องไม่ตํ่าต้อยกว่าเพศไหน
ทุกเพศต้องมีอำนาจในการตัดสินใจนั้นคือการเป็นผู้บริหารเเละผู้นำประเทศหรือท้องถิ่น
เพราะฉะนั้นการที่ผู้หญิงมีสัดส่วนผู้บริหารกว่าชายเเบบไร้สมดุลนั้นไม่เป็นธรรมเเละห้ามบอกให้ผู้ชายหรือเพศไหนยอมรับความเเตกต่างด้วย
เพราะunได้ให้หลักการยอมรับความเเตกต่างว่า
"การยอมรับความเเตกต่างนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องยอมรับเเต่ทั้งนี้ความเเตกต่างนั้นจะต้องไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพเเละได้รับการยอมรับจากสังคม"
จะเห็นได้เลยว่าต่อให้ผู้หญิงจะมีผู้บริหารมากกว่าชายนั้นยังคงไม่สามารถยอมรับความเเตกต่างได้เพราะมันไม่เป็นธรรมทั้งนี้เพื่อไม่ให้เข้าข่ายการปกครองเเบบมาตาธิปไตยหรือการครอบงำผูกขาดอำนาจนำโดยเพศหญิงนั้นก็จะต้องปิดช่องว่างระหว่างเพศด้วย
เพื่อไม่ให้เพศชายหรือผู้เสียเปรียบนั้นลุกฮือปฏิวัติจากความไม่เป็นธรรมทางเพศเเละโครงสร้างอำนาจที่ไม่เท่าเทียมจนกลายเป็นสงครามการเมืองเเละเสี่ยงเกิดdevelopment disasterหรือสงครามกลางเมืองเหมือนจากการที่ช่องว่างคนรวยคนจนห่างกันมากเเบบผิดปกติ
เเละอาจจะเกิดคอรัปชั่นด้วยเพราะความที่ตกเป็นรองนั้นมักจะเห็นเพดานเเก้วที่เต็มไปด้วยคอรัปชั่นที่เป็นอุปสรรคไม่ให้ขึ้นไปได้
งานบ้านต้องเเบ่งกันทำอย่างเท่าเทียมเพื่อใจเเห่งความเสมอภาค
เพราะอย่าลืมว่าการเคารพเเต่เสียงส่วนใหญ่เเต่ทิ้งเสียงส่วนน้อยไว้อยู่ข้างหลังนั้นไม่เป็นประชาธิปไตยเเละเหลื่อมลํ้า
สมัยที่โลกผู้หญิงเป็นใหญ่ในอดีตกาลนั้นผู้ชายเคยลุกฮือปฏิวัติมาเเล้วอย่าให้มันซํ้ารอยอีกดังนั้นสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกเพศดีกว่าเสียใจในภายหลัง
ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
การประเมินดัชนีความเท่าเทียมทางเพศที่ไม่เป็นธรรม
เหมือนไอซ์เเลนด์ถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศอันดับ1เเต่ผมสงสัยว่าเท่าเทียมเหรอ
เพราะจากที่ผมดูคณะกรรมการประเมินดัชนีความเท่าเทียมทางเพศกับมีหญิงมากกว่าชายซึ่งอาจจะทำให้เกิดเพดานเเก้วชนิดย้อนกลับได้เเละทำให้การประเมินไม่เป็นธรรมได้เพราะองค์กรระหว่างประเทศไม่ได้เป็นธรรมเสมอไปอย่างที่ไทยก็เคยติดหล่มมาเเล้วอย่างสนธิสัญญาเบาว์ริงที่เป็นสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
เพราะความเท่าเทียมทางเพศจะเกิดขึ้นได้เมื่อทั้งสองเพศได้รับการยอมรับจากสังคมพอๆกันเเละไม่มีเพศไหนเหนือกว่าเพศไหนเเละต้องไม่ตํ่าต้อยกว่าเพศไหน
ทุกเพศต้องมีอำนาจในการตัดสินใจนั้นคือการเป็นผู้บริหารเเละผู้นำประเทศหรือท้องถิ่น
เพราะฉะนั้นการที่ผู้หญิงมีสัดส่วนผู้บริหารกว่าชายเเบบไร้สมดุลนั้นไม่เป็นธรรมเเละห้ามบอกให้ผู้ชายหรือเพศไหนยอมรับความเเตกต่างด้วย
เพราะunได้ให้หลักการยอมรับความเเตกต่างว่า
"การยอมรับความเเตกต่างนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องยอมรับเเต่ทั้งนี้ความเเตกต่างนั้นจะต้องไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพเเละได้รับการยอมรับจากสังคม"
จะเห็นได้เลยว่าต่อให้ผู้หญิงจะมีผู้บริหารมากกว่าชายนั้นยังคงไม่สามารถยอมรับความเเตกต่างได้เพราะมันไม่เป็นธรรมทั้งนี้เพื่อไม่ให้เข้าข่ายการปกครองเเบบมาตาธิปไตยหรือการครอบงำผูกขาดอำนาจนำโดยเพศหญิงนั้นก็จะต้องปิดช่องว่างระหว่างเพศด้วย
เพื่อไม่ให้เพศชายหรือผู้เสียเปรียบนั้นลุกฮือปฏิวัติจากความไม่เป็นธรรมทางเพศเเละโครงสร้างอำนาจที่ไม่เท่าเทียมจนกลายเป็นสงครามการเมืองเเละเสี่ยงเกิดdevelopment disasterหรือสงครามกลางเมืองเหมือนจากการที่ช่องว่างคนรวยคนจนห่างกันมากเเบบผิดปกติ
เเละอาจจะเกิดคอรัปชั่นด้วยเพราะความที่ตกเป็นรองนั้นมักจะเห็นเพดานเเก้วที่เต็มไปด้วยคอรัปชั่นที่เป็นอุปสรรคไม่ให้ขึ้นไปได้
งานบ้านต้องเเบ่งกันทำอย่างเท่าเทียมเพื่อใจเเห่งความเสมอภาค
เพราะอย่าลืมว่าการเคารพเเต่เสียงส่วนใหญ่เเต่ทิ้งเสียงส่วนน้อยไว้อยู่ข้างหลังนั้นไม่เป็นประชาธิปไตยเเละเหลื่อมลํ้า
สมัยที่โลกผู้หญิงเป็นใหญ่ในอดีตกาลนั้นผู้ชายเคยลุกฮือปฏิวัติมาเเล้วอย่าให้มันซํ้ารอยอีกดังนั้นสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกเพศดีกว่าเสียใจในภายหลัง
ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ