ตัดมาจากโพสของ บอ บู๋ (อ่านโพสเต็มได้ที่ https://web.facebook.com/borbou23/posts/1933338960387723)
นาทีนี้เชื่อว่า "เด็กหงส์" จำนวนหนึ่งกำลังใฝ่ฝันถึงการเป็น 4 แชมป์ของ ลิเวอร์พูล
อืมมมมมม...นะ
ในทางทฤษฎีถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้พอสมควรเลยนะครับ หรือแม้แต่ในทางปฏิบัติ มันก็พอมีทางเป็นไปได้
ในอดีต แมนฯ ยูไนเต็ด เคยคว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" ในปี 1999
ตอนโน้น แชมป์พรีเมียร์ลีกไม่ต่างจาก "ของตาย" สำหรับปีศาจแดงที่มีคู่แข่งอย่าง อาร์เซน่อล แค่ทีมเดียว
ในเส้นทางสู่แชมป์ เอฟเอ คัพ - แมนฯ ยูไนเต็ด เจองานหนักบนถนนไป เวมบลี่ย์ เพราะต้องเจอคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล, เชลซี และอาร์เซน่อล ก่อนเจองานเบาอย่าง นิวคาสเซิ่ล ในนัดชิงชนะเลิศ
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กว่าจะเป็นแชมป์ก็ต้องอาศัย "ปาฏิหาริย์" ถึงขนาด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ใช้คำว่า "Football-bloody hell" มาอธิบายความสำเร็จของทีมตัวเอง
ย้อนกลับไปในปี 1967 เซลติก จากการคุมทีมของกุนซือระดับบรมครูอย่าง จ๊อค สตีน อาจารย์ของ "เฟอร์กี้" เคยทำอะไรที่เรียกว่า "ควอดรูเปิ้ลแชมป์" ได้สำเร็จ
แต่ต้องไม่ลืมว่าการเป็น 3 แชมป์ในสก๊อตแลนด์นั้นง่ายกว่าการเป็น 3 แชมป์ในอิงแลนด์
เซลติก จึงหนักแค่ใน ยูโรเปี้ยน คัพ เพียงรายการเดียว และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยมีทีมใดในเมืองหลวงแห่งลูกหนังที่เหิมเกริมถึงขั้นคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว เพราะมันถือเป็นเรื่องที่ยากระดับคั้นน้ำออกจากก้อนหิน
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2018-19
โคตรทีมไร้เทียมทานอย่าง แมนฯ ซิตี้ กวาด 3 แชมป์ในเกาะมหาสมบัติมาครอบครองทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และลีก คัพ
แต่ในเส้นทางสาย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขากลับถูก สเปอร์ส ถีบตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบแสบสันต์
ก่อนที่ "น้องไก่" จะเข้าไปให้ ลิเวอร์พูลเชือด...เชือดนิ่มๆ ในนัดชิงชนะเลิศ
เด็กหงส์จำนวนหนึ่งดูจะมั่นอกมั่นใจมิใช่น้อยกับการเป็น 4 แชมป์ของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้จนมองข้ามอุปสรรคที่ทีมตัวเองต้องเจอ
อันดับแรกคือความคาดหวังที่ย่อมมาพร้อมกับความกดดันอันหน่วงหนัก
ABC ของพวกเขาคือ แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ยังอยู่ในเส้นทางการคว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" เช่นเดียวกับ เชลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล ที่หวังจะคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอฟเอ คัพ ให้จงได้
อนึ่ง ABC = กขค และ กขค = ก้างขวางคอ
นอกจากนี้ยิ่งมีลุ้นแชมป์มากเท่าไหร่ ยิ่งต้องลงแข่งมากขึ้นเท่านั้น
เอาง่ายๆ ลำพังแค่เดือนเมษายน พลพรรคหงส์แดงต้องลงเล่นแบบซอยยิกถึง 8 นัด
เฉลี่ยต้องแข่งสัปดาห์ละ 2 นัดตลอดทั้งเดือน แถมต้องทำการศึกระดับอภิพญามหายุทธอย่าง แมนฯ ซิตี้ ถึง 2 นัดใน 2 รายการ
แล้วไหนจะ "ศึกแดงเดือด" และ "เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้" ที่คู่แค้นแบบผลาญเผ่าพันธุ์อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เอฟเวอร์ตัน ย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งความยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล
เฉพาะอย่างยิ่งวิธีการเล่นแบบ "เฮฟวี่ เมทั่ล ฟุตบอล" ของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่สิ้นเปลืองพลังงานอย่างจงหนัก มันอาจส่งผลต่อเครื่องจักรสีแดงในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
ฉะนั้น & ฉะนี้
ความฝันเป็น 4 แชมป์ของเด็กหงส์ในอีกด้านหนึ่งจึงแทบไม่แตกต่างจากความเชื่อที่ว่า...ซานตาคลอส มีจริงในโลก ???
เชื่อว่าได้ 4 แชมป์ = เชื่อว่าซานตาคลอสมีจริง
นาทีนี้เชื่อว่า "เด็กหงส์" จำนวนหนึ่งกำลังใฝ่ฝันถึงการเป็น 4 แชมป์ของ ลิเวอร์พูล
อืมมมมมม...นะ
ในทางทฤษฎีถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้พอสมควรเลยนะครับ หรือแม้แต่ในทางปฏิบัติ มันก็พอมีทางเป็นไปได้
ในอดีต แมนฯ ยูไนเต็ด เคยคว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" ในปี 1999
ตอนโน้น แชมป์พรีเมียร์ลีกไม่ต่างจาก "ของตาย" สำหรับปีศาจแดงที่มีคู่แข่งอย่าง อาร์เซน่อล แค่ทีมเดียว
ในเส้นทางสู่แชมป์ เอฟเอ คัพ - แมนฯ ยูไนเต็ด เจองานหนักบนถนนไป เวมบลี่ย์ เพราะต้องเจอคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล, เชลซี และอาร์เซน่อล ก่อนเจองานเบาอย่าง นิวคาสเซิ่ล ในนัดชิงชนะเลิศ
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กว่าจะเป็นแชมป์ก็ต้องอาศัย "ปาฏิหาริย์" ถึงขนาด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ใช้คำว่า "Football-bloody hell" มาอธิบายความสำเร็จของทีมตัวเอง
ย้อนกลับไปในปี 1967 เซลติก จากการคุมทีมของกุนซือระดับบรมครูอย่าง จ๊อค สตีน อาจารย์ของ "เฟอร์กี้" เคยทำอะไรที่เรียกว่า "ควอดรูเปิ้ลแชมป์" ได้สำเร็จ
แต่ต้องไม่ลืมว่าการเป็น 3 แชมป์ในสก๊อตแลนด์นั้นง่ายกว่าการเป็น 3 แชมป์ในอิงแลนด์
เซลติก จึงหนักแค่ใน ยูโรเปี้ยน คัพ เพียงรายการเดียว และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยมีทีมใดในเมืองหลวงแห่งลูกหนังที่เหิมเกริมถึงขั้นคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว เพราะมันถือเป็นเรื่องที่ยากระดับคั้นน้ำออกจากก้อนหิน
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2018-19
โคตรทีมไร้เทียมทานอย่าง แมนฯ ซิตี้ กวาด 3 แชมป์ในเกาะมหาสมบัติมาครอบครองทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และลีก คัพ
แต่ในเส้นทางสาย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขากลับถูก สเปอร์ส ถีบตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบแสบสันต์ ก่อนที่ "น้องไก่" จะเข้าไปให้ ลิเวอร์พูลเชือด...เชือดนิ่มๆ ในนัดชิงชนะเลิศ
เด็กหงส์จำนวนหนึ่งดูจะมั่นอกมั่นใจมิใช่น้อยกับการเป็น 4 แชมป์ของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้จนมองข้ามอุปสรรคที่ทีมตัวเองต้องเจอ
อันดับแรกคือความคาดหวังที่ย่อมมาพร้อมกับความกดดันอันหน่วงหนัก
ABC ของพวกเขาคือ แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ยังอยู่ในเส้นทางการคว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" เช่นเดียวกับ เชลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล ที่หวังจะคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอฟเอ คัพ ให้จงได้
อนึ่ง ABC = กขค และ กขค = ก้างขวางคอ
นอกจากนี้ยิ่งมีลุ้นแชมป์มากเท่าไหร่ ยิ่งต้องลงแข่งมากขึ้นเท่านั้น
เอาง่ายๆ ลำพังแค่เดือนเมษายน พลพรรคหงส์แดงต้องลงเล่นแบบซอยยิกถึง 8 นัด
เฉลี่ยต้องแข่งสัปดาห์ละ 2 นัดตลอดทั้งเดือน แถมต้องทำการศึกระดับอภิพญามหายุทธอย่าง แมนฯ ซิตี้ ถึง 2 นัดใน 2 รายการ
แล้วไหนจะ "ศึกแดงเดือด" และ "เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้" ที่คู่แค้นแบบผลาญเผ่าพันธุ์อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เอฟเวอร์ตัน ย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งความยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล
เฉพาะอย่างยิ่งวิธีการเล่นแบบ "เฮฟวี่ เมทั่ล ฟุตบอล" ของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่สิ้นเปลืองพลังงานอย่างจงหนัก มันอาจส่งผลต่อเครื่องจักรสีแดงในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
ฉะนั้น & ฉะนี้
ความฝันเป็น 4 แชมป์ของเด็กหงส์ในอีกด้านหนึ่งจึงแทบไม่แตกต่างจากความเชื่อที่ว่า...ซานตาคลอส มีจริงในโลก ???