วันนี้ (4 เม.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวถึงกรณียักยอกเงินจากบัญชีของวัดบวรนิเวศวิหารและวัดสาขา หลังจาก สมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ มรณภาพ ว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษว่ามีบุคคลต้องสงสัยลักเงินของวัด จึงจัดทีมสืบสวนสอบสวน ก่อนพบมีความผิดปกติ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกจับบุคคลรายดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน และจะดำเนินการตรวจสอบให้ครบทุกมิติ เบื้องต้นขณะนี้ยังพบผู้กระทำผิดเพียงแค่รายเดียว
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า สำหรับความเสียหายเบื้องต้นพบมีหลายวัด เป็นวัดสาขา ประมาณ 3 วัด อยู่ในภาคกลาง และ ภาคตะวันออก มูลค่าหลักร้อยล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินของวัด ที่จะนำไปใช้บูรณะซ่อมแซมหรือ สร้างวัด....
รายงานข่าวแจ้งว่า จากตรวจสอบยังพบว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้ต้องหาได้กระทำในลักษณะเดียวกันกับวัดสาขาในพื้นที่ จ.ตราด อีก 2 วัด อาทิ วัดรัตนวราราม และ โรงเรียนวัดคีรีวิหาร เบื้องต้นพบเป็นเงินงบประมาณจัดสร้างวัดรัตนวราราม 80 กว่าล้านบาท และ งบจัดสร้างโรงเรียนวัดคีรีวิหาร อีกกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป.....
https://mgronline.com/crime/detail/9650000032493
ชุดสืบสวน เปิดเส้นทางเงิน “ไวยาวัจกร เนย” ฉกเงิน “สมเด็จพระวันรัต”
ปลายเดือน พ.ย.64 นายเนยใช้อุบายหลอให้สมเด็จพระวันรัต ขณะอาพาธลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน
นำใบถอนเงินเขียนจำนวนเงินตามที่ต้องการ
นำไปถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา วัดสาขาของวัดบวรฯ
บัญชีนี้เป็นเงินบริจาคพัฒนาวัด ผู้ที่จะลงนามจ่ายถอนได้คือสมเด็จพระวันรัตเท่านั้น
ต้นเดือน ม.ค.65 นายเนยยังหลอกให้สมเด็จพระวันรัตลงลายมือชื่อในใบถอนเงินแล้วนำมาเขียนจำนวนเงินตามที่เองต้องการอีกได้ให้ผู้ใกล้ชิดสมเด็จพระวันรัตอีกคนนำใบถอนเงินไปถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมารามให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้นายเนย ก่อนฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเองรวม 80 ล้านบาท ต่อมาเจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมาราม ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบฯให้ดำเนินคดีกับนายเนยตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 22 มี.ค.65
วัดบวรนิเวศวิหาร เชื่อว่า นายเนยน่าจะทุจริตเอาเงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นของวัดบวรนิเวศฯไปด้วย พระธรรมวชิรญาณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุต) มีคำสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินของสมเด็จพระวันรัต พบว่า ได้เปิดบัญชีเงินฝากส่วนตัว และบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหารไว้กับธนาคารหลายบัญชี
เริ่มจากช่วงปลายเดือน ต.ค.64 นายเนย นำสมุดบัญชีเงินฝากหลายเล่ม และบัตรประจำตัวประชาชนของสมเด็จพระวันรัต พร้อมโทรศัพท์มือถือของนายเนย มอบให้บุคคลใกล้ชิดสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่ง ให้นำไปติดต่อกับธนาคารขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
จากนั้น ใช้โทรศัพท์มือถือของตนโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรฯ มายังบัญชีเงินฝากของตนเอง เป็นเหตุให้วัดวชิรธรรมาราม เสียหายกว่า 80 ล้านบาท ส่วนวัดบวรนิเวศฯ เสียหายกว่า 110 ล้านบาท รวมความเสียหายทั้งสองวัด 190 ล้านบาท วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเนยในวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
https://www.thansettakij.com/insights/520018
กองปราบขยายผลพบลูกศิษย์ตัวดี "สมเด็จพระวันรัต" ยักยอกเงินสร้างวัด -โรงเรียนสาขาตราด อีกเกือบร้อยล้าน
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า สำหรับความเสียหายเบื้องต้นพบมีหลายวัด เป็นวัดสาขา ประมาณ 3 วัด อยู่ในภาคกลาง และ ภาคตะวันออก มูลค่าหลักร้อยล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินของวัด ที่จะนำไปใช้บูรณะซ่อมแซมหรือ สร้างวัด....
รายงานข่าวแจ้งว่า จากตรวจสอบยังพบว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้ต้องหาได้กระทำในลักษณะเดียวกันกับวัดสาขาในพื้นที่ จ.ตราด อีก 2 วัด อาทิ วัดรัตนวราราม และ โรงเรียนวัดคีรีวิหาร เบื้องต้นพบเป็นเงินงบประมาณจัดสร้างวัดรัตนวราราม 80 กว่าล้านบาท และ งบจัดสร้างโรงเรียนวัดคีรีวิหาร อีกกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป.....
https://mgronline.com/crime/detail/9650000032493
ชุดสืบสวน เปิดเส้นทางเงิน “ไวยาวัจกร เนย” ฉกเงิน “สมเด็จพระวันรัต”
ปลายเดือน พ.ย.64 นายเนยใช้อุบายหลอให้สมเด็จพระวันรัต ขณะอาพาธลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน
นำใบถอนเงินเขียนจำนวนเงินตามที่ต้องการ
นำไปถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา วัดสาขาของวัดบวรฯ
บัญชีนี้เป็นเงินบริจาคพัฒนาวัด ผู้ที่จะลงนามจ่ายถอนได้คือสมเด็จพระวันรัตเท่านั้น
ต้นเดือน ม.ค.65 นายเนยยังหลอกให้สมเด็จพระวันรัตลงลายมือชื่อในใบถอนเงินแล้วนำมาเขียนจำนวนเงินตามที่เองต้องการอีกได้ให้ผู้ใกล้ชิดสมเด็จพระวันรัตอีกคนนำใบถอนเงินไปถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมารามให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้นายเนย ก่อนฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเองรวม 80 ล้านบาท ต่อมาเจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมาราม ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบฯให้ดำเนินคดีกับนายเนยตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 22 มี.ค.65
วัดบวรนิเวศวิหาร เชื่อว่า นายเนยน่าจะทุจริตเอาเงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นของวัดบวรนิเวศฯไปด้วย พระธรรมวชิรญาณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุต) มีคำสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินของสมเด็จพระวันรัต พบว่า ได้เปิดบัญชีเงินฝากส่วนตัว และบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหารไว้กับธนาคารหลายบัญชี
เริ่มจากช่วงปลายเดือน ต.ค.64 นายเนย นำสมุดบัญชีเงินฝากหลายเล่ม และบัตรประจำตัวประชาชนของสมเด็จพระวันรัต พร้อมโทรศัพท์มือถือของนายเนย มอบให้บุคคลใกล้ชิดสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่ง ให้นำไปติดต่อกับธนาคารขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
จากนั้น ใช้โทรศัพท์มือถือของตนโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรฯ มายังบัญชีเงินฝากของตนเอง เป็นเหตุให้วัดวชิรธรรมาราม เสียหายกว่า 80 ล้านบาท ส่วนวัดบวรนิเวศฯ เสียหายกว่า 110 ล้านบาท รวมความเสียหายทั้งสองวัด 190 ล้านบาท วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเนยในวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
https://www.thansettakij.com/insights/520018