แม่เรามีลูกอยู่ 3 คนและตอนนี้กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่บ้านทำอาชีพเป็นนักดนตรีแปลวงรับจ้างโดนผลกระทบ covid 2 ปีถึง 3 ปีนี้ทำให้ที่บ้านไม่มีรายได้ไม่ต้องมาหาปลาแทนประสบปัญหากับที่แม่เพิ่งเจอโรคมะเร็งเมื่อเร็วๆนี้ 2 ปีที่แล้วแม่ประสบปัญหาเม็ดเลือดจางเป็นโลหิตจางหมอหาสาเหตุไม่เจอและหมอได้ส่งตัวจากรพ.ใกล้บ้านไปรักษาที่ตัวจังหวัดสุพรรณบุรีทางโรงพยาบาลตัวจังหวัดสุพรรณบุรีถึงได้ทำเรื่องให้เราไปรักษาต่อที่ศิริราชพอไปรักษาต่อศิริราชได้ 3 ครั้งคุณหมอแนะนำให้อยู่รักษาเพราะได้เจอโรคก็คือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและให้ยาคีโมตอนนี้แม่ได้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลมา 2-3 อาทิตย์แล้วเราประสบปัญหามาตั้งแต่เด็กๆเลยคือพี่ชายคนโคของเราเอาเปรียบพ่อแม่เราหมดเอาเปรียบทุกอย่างค่าไฟไม่เคยจ่ายค่าน้ำไม่เคยจ่าย เขาไม่ได้มาอยู่ถาวร แต่มาอยู่ชั่วคราวเมื่อปลายปีเพราะโควิด ช่วงที่ยังไม่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชแม่เราเข้าโรงพยาบาล 6 เดือนแล้วก็พี่สาวเราเขาไปคบกับคนอิสลามเราต้องเข้าไปเป็นอิสลามแล้วก่อนหน้านี้มีลูกกับพี่กับแฟนคนเก่า 1 คนและให้แม่เลี้ยงอยู่ตอนนี้หลานคนโต 10 ขวบ ไม่เคยส่งค่าเลี้ยงดูเพราะลำพังแค่เขากับสามีคนใหม่ก็แทบจะไม่มีกินและตอนนี้ก็มีหลาน 3 ขวบ 1 คนและมีในท้องอีก 1 คน ตัวเราเองอายุแค่ 17 ปีตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นม 6 เรามีแฟนและยังโชคดีที่ว่าแฟนเราช่วยรับผิดชอบก็คือช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่เราจ่ายค่าเทอมให้เราและค่ากินที่เราไปโรงเรียนในแต่ละวัน แม่เราเลี้ยงเป็ดเพื่อที่จะนำไข่ไปขาย พี่ชายเราก็มาเอาไปกินทุกวัน จนทุกวันนี้แม่เราต้องชักทุนไปซื้ออาหารเป็ดค่ารักษาที่รพ.ตอนนี้ เราทำเรื่องให้แม่เข้าสังคมสงเคราะห์ เพราะทางรพ.เห็นว่าเป็นผู้ป่วยที่จ่ายค่ารักษาเอง ตลอดระยะเวลาพี่ชายเราไม่เคยพาแม่ไปรพ.ศิริราชเลย แม่จ้างลูกพี่ลูกน้องเราไปตลอด3ครั้ง เวลาไปหาหมอถ้าพี่ชายเราไป เขาก็จะให้แม่เราออกค่าน้ำมันเอง แต่เขาไปพูดกับคนอื่นว่าเขาออก สรุปคือทำตัวดี แต่จริงๆไม่ใช่ แม่เราก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะพี่ชายเราเล่นดนตรี ถ้าไม่มีพี่ชายจะไม่มีคนกดคีย์บอด สะใภ้ของแม่เราก็ชอบเหน็บเรา เราก็ชอบด่าเขาลงเฟซบุ๊กนะ เพราะเหตุผลที่ว่า ชามกินไม่ล้าง ไม่ทำอะไรเลยอะ เราทำงานบ้านเสร็จแล้วพอเขากลับมากินหรือว่าทำอะไรเลอะเทอะก็ไม่ทำเราทำหลายรอบแล้วก็รู้สึกเหนื่อยพอเราลงเฟซเหน็บๆเขาใช่ไหมเขาก็บอกว่าไปฟ้องพี่ชายเรา พี่ชายเราก็มาว่าเรา บางทีเราก็ลงเฉยๆอะ เขาร้อนตัวก็ไปฟ้องพี่ชายเขา เราเหนื่อยมากนะ ทุกวันนี้ ไปรพ.เราไปกับแม่ทุกครั้ง ทำเรื่องย้ายรพ.ก็เป็นเรา นอนเฝ้าแม่ ก็เป็นเรา แบบ เรื่องแม่เรารับผิดชอบคนเดียว เด็กอายุแค่17ปี เราเหลือแค่ขับรถกระบะได้ เราก็ทำได้เหมือนผู้ใหญ่แล้วอะ บางครั้งเขาไม่ว่างแฟนเราอาสาพาไป พอเห็นแฟนเราพาไป เขาก็ไม่ไปเลย พอแฟนเรามีงานสำคัญ จะให้เขาไปขับรถพาแม่ไปแทน เขากลับใส่ร้ายแฟนเรา แฟนเราเลยเหนื่อย ทำดีมาตลอด กลับโดนคนอื่นมองร้าย ทุกวันนี้เราทำเพื่อแม่ เพราะหมอบอกว่าท่านอยู่ได้ไม่นานเท่าคนอื่น พี่ชายเราเลยรอจะหุบบ้าน เราเลยไปปรึกษาป้าๆเรา เขาให้ทำพินัยกรรมให้เป็นของเราชื่อเรา เหมือนละครมากชีวิตเรา จะเอาทุกอย่าง บางทีพาคนทางบ้านเมียเขามานอนที่บ้านเราด้วยนะ ทำเสียงดังไม่เกรงใจแม่เราที่นอนป่วยเลย เราเลยจุดธูปหน้าพระทุกวัน ถ้าเราไล่เขาไม่ได้ เราเลยขอพระ ว่าให้ดลจิตดลใจเขากลับบ้านไปเถิด เราไม่อยากจะทะเลาะด้วย อย่าให้คนแบบนี้มาอยู่ที่บ้านเราเลย ทุกวันนี้พี่ชายเราน้อยใจแม่เราที่ว่าแม่ไม่เคยโทรหาเลย คือความจริงแม่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชเราเป็นลูกเราก็ควรจะโทรไปหาเขาไม่ใช่รอให้เขาโทรกลับมาหาเราบางทีแม่โทรมาเขาก็ทำเสียงที่แบบตะคอกไม่พอใจ แล้วก็เรื่องของแม่ทางโรงพยาบาลเขาไม่เคยไปติดต่อไปอะไรเลยสักอย่างมีแต่เราและเขาก็มารังแครังคัดเราด้วยว่าแม่มีอะไรก็ใช้แต่เราก็เพราะมีแค่เราเวลาอยู่กับแม่ที่เวลาแม่เป็นอะไรก็มีเรา เวลาคุณหมอจะติดต่อกันก็ให้เราเดินเรื่องให้เราทำอะไรในโรงพยาบาลแบบคล่องจนวันนั้นแม่โทรมาแบบว่าอยู่ได้ไหม เขาโทรมาถามว่าเราอยู่ได้ไหมเราบอกว่าอยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ได้ ทีนี้แม่ก็เลยโทรไปหาญาติพี่น้องๆของเขาชมเราว่ามีแต่เรานี่แหละที่อยู่ข้างแม่ เราเก่งเราคล่องไม่เคยมีใครมาทำให้เขา เขาก็บอกว่าเขาก็เป็นห่วงเรากับหลานคนโต10ขวบ เราทำได้แค่ระบาย แม่ป่วยขนาดนี้ ยังจะมาเบียดเบียนแม่ ทุกวันนี้ค่ารักษาแม่ก็ยืมกองทุนหมู่บ้านมารักษา เราหางานพาร์ทไทม์ก็ไม่มีใครรับ เราขอบคุณที่ทุกคนเข้ามาอ่านนะคะ แล้วจะเป็นการรบกวนทุกคนไหม เราขอให้ทุกคนช่วยให้กำลังใจเราช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตนี้ และช่วยให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้แม่เราด้วย ขอบคุณค่ะ
ตั้งรับกับคนเห็นแก่ตัวอย่างไรดี