กรณีผู้เช่าซื้อนำรถที่ผ่อนอยู่ไปกระทำผิดกฎหมายอาญา ศาลมีอำนาจสั่งริบให้ตกเป็นของหลวงได้ครับ
โดยไฟแนนซ์สามารถยื่นคำร้องขอรับรถคืนในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้ภายในเวลา1ปี
ซึ่งจะได้คืนหรือไม่ขึ้นอยู่กับศาลจะวินิจฉัยว่าอย่างไร(ส่วนมากจะได้คืนครับ)
ส่วนสัญญาเช่าซื้อนั้นเป็นอันสิ้นสุดนับแต่ศาลมีคำพิพากษา ก็ถือเป็นการเลิกสัญญาทันที

เมื่อได้รถคืนไฟแนนซ์ก็จะนำรถไปแก้ไขให้ถูกกฎหมายก่อนนำขายทอดตลาด และค่อยฟ้องเรียกส่วนต่าง
เอากับอดีตผู้เช่าซื้อในกรณีที่หักลบแล้วยังคงมีหนี้เหลืออยู่
ส่วนนี้ไฟแนนซ์ไม่สามารถนำรถกลับมาให้ผู้เช่าซื้อคนเดิมทำสัญญาผ่อนต่อได้ เพราะถือเป็นการละเมิดคำสั่งศาล
มีโทษทางอาญา แม้ศาลอาจจะไม่ได้ลงมาตรวจสอบ แต่ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไฟแนนซ์จะตรวจสอบเอง
พนักงานหรือระดับผู้จัดการไม่มีใครกล้าเสี่ยงกล้าทำ เพราะโทษไม่ใช่แค่ไล่ออก แต่โดนบริษัทฟ้องอาญาด้วย
ทั้งยักยอกทรัพย์บริษัท ทั้งละเมิดคำสั่งศาล หมดอนาคตแถมติดคุกหลายปีครับ

ในกรณีศาลมีคำวินิจฉัยไม่คืนของกลาง บางคดีศาลให้กรมบังคับคดีนำรถออกประมูลเอง
หรือบางครั้งก็สั่งให้นำรถไปทำลายทิ้งเสีย(เช่นรถแต่งซิ่งหลุดโลก,รถแว๊น) แบบนี้ไฟแนนซ์
ก็ฟ้องเรียกส่วนต่างที่เหลือเต็มๆได้เลยครับ