ประสบการณ์​ผ่าฟันคุดล่างซ้าย
สวัสดีค่ะ เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกเลย เหตุเกิดจากทางคลินิกที่จัดฟันประเมินฟันคุดด้านล่างทั้งสองข้างของเราแล้วทางคลินิกไม่มีอุปกรณ์มากพอที่จะเอาออกให้ได้ ต้องบอกว่าลักษณะฟันของเราค่อนข้างซี่ใหญ่ เราเลยขอใบส่งตัวมาทางรพ.ทันตกรรมมหิดล ใกล้ๆอนุสาวรีย์ค่ะ แต่ตอนที่ขอคุณหมอเรากักตัวอยู่เลยได้มาเป็นทางไลน์แทน ซึ่งวันที่25 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เราได้เดินทางไปรพ.ทันตกรรมมหิดลในช่วงเช้า ไปกับเพื่อนครั้งแรกเลย เราก็ทำทุกขั้นตอนตามที่เจ้าหน้าที่บอก เวชระเบียนตรวจเอกสารผู้ป่วยใหม่เขาจะถามว่าวันนี้มาทำอะไร ผู้ป่วยใหม่แบบเราเขาจะให้เราถ่ายรูป พอเสร็จจากตรงนี้แล้ว ก็จะมีกระดาษที่เขียนแผนกที่ต้องไป ของเราผ่าฟันคุดจะอยู่ชั้น3 ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันอยู่อีกแผนกชั้นที่2ค่ะ พอเราไปยื่นเคาน์เตอร์ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเราต้องปริ้นใบส่งตัวเป็นเอกสารมาให้หมอพิจารณา เราเกือบจะเลิกล้มแล้วล่ะค่ะเพราะว่าร้านถ่ายเอกสารเปิด9โมงกว่า5555+ นึกว่าจะไม่ได้ทำซะแล้ว>< พอปริ้นออกมาแล้วรีบขึ้นชั้น3เลย ยื่นให้เจ้าหน้าที่เรียบร้อย นั่งรอสักพัก เขาก็ให้ไปที่แผนกเอกซเรย์ เราเสียค่าฟิมล์ไป 300 บาทค่ะ แล้วก็กลับไปแผนกเดิมของ รอสักพักอีก เจ้าหน้าที่ก็ให้ใบนัดเรามาว่าเป็นวันที่ 28 มีนาคม 2565 ซึ่งมันเร็วจนตกใจ มี2เวลานัด 9.00 น.กับ 13.00 น. เราเลือกรอบเช้าค่ะ ส่วนเพื่อนที่ไปด้วยได้ใบนัดมาหลายแผนกเลย สรุปใครมีปัญหามากกว่ากัน ปล.เราชวนเพื่อนมาดันกลายเป็นเพื่อนน่าจะควรมามากกกว่า55555++
ปล.2 เรามีฉีดวัคซีนเข็ม3ที่ รพ.รามาธิบดีด้วย
วันเดียวทำทุกอย่างไปเล้ยยยยย
มาต่อๆๆ
  วันที่ 28 มีนาคม 2565 เราลืมเอาบัตรปชชไปด้วย ในใจคือจะได้ใช้ไหมนะ(กังวลว่าจะได้ใช้555+) เราก็ไปตามที่ได้นัดหมาย ตรวจเอกสารอะไรเรียบร้อย แค่มีบัตรผู้ป่วยก็โอเคแล้วค่ะ ขึ้นมาชั้น3รอที่แผนกเหมือนเดิม ยื่นใบนัดไว้หน้าเคาน์เตอร์เช่นเดิม นั่งรอประมาณจะ9โมง เจ้าหน้าที่จะเริ่มเรียกคิวค่ะ ตอนนั่งรอคือใจก็หวั่นๆ เป็นการผ่าฟันคุดครั้งแรกดูมาเยอะอ่านมาเยอะ5555+(จริงๆไม่แนะนำให้ดูแนวนี้มาก่อนผ่าฟันคุดนะคะ เพิ่มความกลัวให้ตัวเอง) แล้วพอเรียกคิวเราก็วัดความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ แล้วพี่หมอนศ.ทันตแพทย์ปี6 ก็พาเราไปห้องทันตกรรมค่ะ ตอนนั้นคือก็ถามว่าเคยตรวจสุขภาพไหม แพ้ยารึเปล่า และก็บอกว่าจะผ่าแบบไหน ทำอะไรบ้าง เราก็แบบกลัวๆแต่ก็มาละขั้นนี้แล้วถอยไม่ได้ ก็ถามนอกเรื่องกับพี่หมอไปบ้างให้ตัวเองผ่อนคลาย นั่งคุยสักพัก พี่หมอก็เริ่มทำการผ่าตัดฟันคุด ฉีดยาชาไปประมาณ 3-4เข็ม เติมจนเข็มที่4ไม่รู้สึกแล้วค่ะ>< แล้วก็ทำการกรอฟันพี่หมอก็จะบอกว่าเสียงดังนิดนึงนะคะ ตอนนั้นจะหลับก็หลับไม่ได้ แต่ตอนกรอฟันก็แบบลุ้นๆไปกับพี่หมอ มีการนับ123เพื่อให้เรานิ่งมากที่สุดและตัวของพี่หมอด้วยค่ะ มีอาจารย์หมอคอยบอกอยู่ตลอด ตอนที่ดึงฟันออกรากฟันเรางอค่ะ อาจารย์หมอก็สอนพี่หมอว่าจะดึงออกแบบไหนทำยังไงไม่ให้รากมันหัก ตอนที่ฟันออกมาหมดแล้วยังงงอยู่เลย ไม่รู้สึกถึงการหลุดของฟัน คือพี่หมอมือเบามากค่ะ เราไม่ได้กรีดเหงือกหรือเปิดflap แต่อาจารย์หมอวินิจฉัยให้เย็บแผลเนื่องจากกระดูกเรามันมีรอยร้าว อยากให้มันสมานไวขึ้นเลยต้องเย็บแผล ถ้าจำไม่ผิดเราดูเวลาผ่าตัดตั้งแต่เข้าไปน่าจะ 40 นาทีได้เพราะคุยรายละเอียดก็20 นาทีแล้วค่ะ 1ชม.พอดีที่ออกมาจากห้องทันตกรรม เราขอดูฟันตัวเองรากฟันงอมากจริงๆค่ะ พี่หมอเก่งมากกกกกกก ใจดีมากกกกกกกกกก ^^ 
  จากนั้น เรามารอที่แผนกเหมือนเดิมค่ะ รอจ่ายค่ารักษา ระหว่างที่รอพี่หมอที่ทำการผ่าตัดฟันคุดให้เราก็คอยเดินมาถามและก็เอาน้ำแข็งมาให้ประคบ น่ารักจริงๆ>< หลังจากนั้นก็เรียกชื่อได้ใบนัด ผ้าก๊อซมา จ่ายค่ารักษาไป 200 บาทค่ะ ส่วนยาให้ลงไปชั้น1 เข้าไปโซนเวชระเบียนแล้วยื่นเคาน์เตอร์ 7 จ่ายค่ายาไป 33 บาท ไม่รู้จะว่าไงมันราคาดีมากค่ะ(คนงบน้อยแบบเราน้ำตาจะไหล) เสร็จแล้วกลับบ้านกันค่ะ 
หลังจากกลับบ้านมาก็เปลี่ยนผ้าก๊อซ ประคบเย็นวนไปค่ะ พอเลือดหยุดไหลเราก็ทานข้าวเย็นเสร็จแล้วกินยาค่ะ เราไม่มีอาการบวมหรือปวดมากค่ะ เนื่องจากฤทธิ์ของยาค่อนข้างแรงอยู่แล้ว^^ โชคดีไปเนอะ
ลืมบอกไปนะคะถามพี่หมอว่าครั้งหน้าข้างขวาจะเป็นพี่หมอเหมือนเดิมไหม คำตอบที่ได้ไม่ใช่คนเดิมสุ่มค่ะ55555555+++ 
ยังไงก็อยากฝากทุกคนว่ารักษาสุขภาพให้ดีทุกๆด้านนะคะ ช่วงนี้โรคโควิด-19เอย แดดแรงมากอีกอาจทำให้เป็นไข้เอาได้ง่ายๆ มีรีวิวข้างขวาต่อแน่นอน
รอเราหน่อยน้าาา^^
ผิดพลาดอะไรก็อภัยนะคะ