จากกระแสข่าวที่หลายๆท่านทราบว่า ประธานสโมสรสมุทรปราการอาจจะเลิกทำทีม (ข้อมูลจากSIAMSPORT) ทำให้"ยาสุชิ โยชิดะ" ปรมาจารย์เทพบอลเด็ก ชาวญี่ปุ่น อาจต้องเดินทางกลับไปญี่ปุ่น
สำหรับ "ยาสุชิ โยชิดะ"ฉายาปรมาจารย์เทพบอลเด็ก ฉายานี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ในช่วงชีวิตส่วนใหญ่จะทำทีมฟุตบอลเยาวชน ทั้งทำทีมเยาวชนทีมชาติญี่ปุ่น U-19 , U-20 ถึง 8 ปี อีกทั้งยังเป็นผู้ปลุกปั้นสตาร์นักเตะดังจากญี่ปุ่นมากมาย อาทิ ชินจิ คากาวะ, โทโมอากิ มาคิโนะ, อัตสึโตะ อุจิดะ, โยสึเกะ คาชิวากิ ,โยสึเกะ คาชิวากิ อีกมากมายป้อนสู่เจลีกและลีกชั้นนำในยุโรป ตำแหน่งการทำงานล่าสุดก่อนเข้ามาเป็นกุนซือใหญ่สโมสรสมุทรปราการ ได้ดำรงตำแหน่ง ผอ.อูราวะ เรด ไดมอนส์ อะคาเดมี ซึ่งปั้นนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่อูราวะ เรด อย่างมากมาย
หากหลายๆท่านได้ชมและติดตามสโมสรสมุทรปราการมาตลอด จะสังเกตุเห็นว่า สโมสรสมุทรปราการดันตัวเยาวชนขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำทีมสู้ทีมในไทยลีก1ได้อย่างสนุก ขาดแต่เรื่องการจบสกอร์ ที่ยังไม่คม ทำให้ผลงานของทีมไม่ดี ทีมมีปัญหาตั้งแต่สมัยช่วง"อิชิอิ"ยังคุมทีมอยู่ แต่เมื่อย้อนมาสถิติในแต่ละเกมส์ของสโมสรสมุทรปราการ จะเห็นว่ามีอัตราการครอบครองบอลสูง อัตราการจ่ายบอลสูง อัตราการจบสกอร์สูง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ตัวอย่างเช่น สมุทรปราการ vs ปทุม ยูไนเต็ด แม้ทีมจะแพ้ถึง 0-3 จะเห็นจากสถิติ มีอัตราครอบครองบอล อัตราการจ่ายบอลที่สูงกว่าอย่างชัดเจน และอัตราการยิงก็สูสี แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า วิธีการทำทีมของ"ยาสุชิ โยชิดะ"ไม่ได้แย่เลย ปัญหามันมาจากทรัพยากรภายในทีม ที่มีอย่างจำกัด
หากเราย้อนมองเยาวชนทีมชาติของไทย ซึ่งการคุมทีมระดับเยาวชน มีความแตกต่างจากทีมชาติชุดใหญ่ ต้องมีจิตวิทยากับเด็กเป็นอย่างสูง ต้องคลุกคลีอยู่กับเด็กๆเหมือนเป็นบิดาคนที่สอง ซึ่ง"ยาสุชิ โยชิดะ"มีคุณสมบัตินี้ทั้งหมด การันตีความสำเร็จและปลุกปั้นสตาร์ชื่อดังในฟุตบอลเยาวชนทีมชาติญี่ปุ่นมาอย่างมากมาย ดังนั้น ผู้บริหารสมาคมควรให้โอกาสปรมาจารย์เทพบอลเด็กเข้ามาคุมทีมเยาวชนทั้งชุดU-19ถึงU-23 แล้วผลักเอคโคโน่ออกไปจากวงโคจร
"ยาสุชิ โยชิดะ" ปรมาจารย์กุนซือเขี้ยวสมุทรชาวญี่ปุ่น ต้องได้คุมเยาวชนทีมชาติไทย
สำหรับ "ยาสุชิ โยชิดะ"ฉายาปรมาจารย์เทพบอลเด็ก ฉายานี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ในช่วงชีวิตส่วนใหญ่จะทำทีมฟุตบอลเยาวชน ทั้งทำทีมเยาวชนทีมชาติญี่ปุ่น U-19 , U-20 ถึง 8 ปี อีกทั้งยังเป็นผู้ปลุกปั้นสตาร์นักเตะดังจากญี่ปุ่นมากมาย อาทิ ชินจิ คากาวะ, โทโมอากิ มาคิโนะ, อัตสึโตะ อุจิดะ, โยสึเกะ คาชิวากิ ,โยสึเกะ คาชิวากิ อีกมากมายป้อนสู่เจลีกและลีกชั้นนำในยุโรป ตำแหน่งการทำงานล่าสุดก่อนเข้ามาเป็นกุนซือใหญ่สโมสรสมุทรปราการ ได้ดำรงตำแหน่ง ผอ.อูราวะ เรด ไดมอนส์ อะคาเดมี ซึ่งปั้นนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่อูราวะ เรด อย่างมากมาย
หากหลายๆท่านได้ชมและติดตามสโมสรสมุทรปราการมาตลอด จะสังเกตุเห็นว่า สโมสรสมุทรปราการดันตัวเยาวชนขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำทีมสู้ทีมในไทยลีก1ได้อย่างสนุก ขาดแต่เรื่องการจบสกอร์ ที่ยังไม่คม ทำให้ผลงานของทีมไม่ดี ทีมมีปัญหาตั้งแต่สมัยช่วง"อิชิอิ"ยังคุมทีมอยู่ แต่เมื่อย้อนมาสถิติในแต่ละเกมส์ของสโมสรสมุทรปราการ จะเห็นว่ามีอัตราการครอบครองบอลสูง อัตราการจ่ายบอลสูง อัตราการจบสกอร์สูง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ตัวอย่างเช่น สมุทรปราการ vs ปทุม ยูไนเต็ด แม้ทีมจะแพ้ถึง 0-3 จะเห็นจากสถิติ มีอัตราครอบครองบอล อัตราการจ่ายบอลที่สูงกว่าอย่างชัดเจน และอัตราการยิงก็สูสี แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า วิธีการทำทีมของ"ยาสุชิ โยชิดะ"ไม่ได้แย่เลย ปัญหามันมาจากทรัพยากรภายในทีม ที่มีอย่างจำกัด
หากเราย้อนมองเยาวชนทีมชาติของไทย ซึ่งการคุมทีมระดับเยาวชน มีความแตกต่างจากทีมชาติชุดใหญ่ ต้องมีจิตวิทยากับเด็กเป็นอย่างสูง ต้องคลุกคลีอยู่กับเด็กๆเหมือนเป็นบิดาคนที่สอง ซึ่ง"ยาสุชิ โยชิดะ"มีคุณสมบัตินี้ทั้งหมด การันตีความสำเร็จและปลุกปั้นสตาร์ชื่อดังในฟุตบอลเยาวชนทีมชาติญี่ปุ่นมาอย่างมากมาย ดังนั้น ผู้บริหารสมาคมควรให้โอกาสปรมาจารย์เทพบอลเด็กเข้ามาคุมทีมเยาวชนทั้งชุดU-19ถึงU-23 แล้วผลักเอคโคโน่ออกไปจากวงโคจร