เชียงใหม่-เดินเล่นบ้านตึก ชมรถโบราณคันที่ ๓ ของเชียงใหม่ และบ้านที่เป็นที่สำหรับแสดงงานศิลปะ

กระทู้ขอเกริ่นก่อนว่าเป็นการเขียนถึงเชียงใหม่เพื่อระลึกถึงในความทรงจำ ภาพที่ถ่ายนี้ถ่ายตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๐ เรื่อยๆ มา
เรียกว่า ผ่านมาก็ถ่ายบ้าง หนักไปทางนั่งคุยกับทางคุณยายผู้ดูแล "บ้านตึก" หลังนี้ ซึ่งมีประวัติฯ มายาวนานทีเดียวครับ

..........บ้านโบราณเก่าแก่อายุร้อยกว่าปีของจังหวัดเชียงใหม่ที่กำลังจะกล่าวถึงนี้ 
คือบ้านของหลวงอนุสารสุนทรและนางอนุสารสุนทร (คำเที่ยง) บ้านหลังนี้ชาวเชียงใหม่เรียกกันว่า "บ้านตึก" 
ตัวบ้านอยู่ติดถนนท่าแพตรงกันข้ามกับพุทธสถานเชียงใหม่และวัดอุปคุต 
ก่อนจะกล่าวถึงเรื่องบ้านหลังนี้ควรจะทราบความเป็นมาของเจ้าของบ้านเสียก่อน 
นายซ้อ และ นางหงส์ แซ่แต้ ต้นตระกูลของหลวงอนุสารเป็นคนเชื้อสายจีน มาจากสายอยุธยา-ธนบุรี 
อพยพขึ้นเหนือไปอยู่นครสวรรค์เป็นแห่งแรกตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 และต่อมาก็ค่อย ๆ ย้ายไปอยู่ลำปาง ลำพูน 
ในที่สุดก็มาปักหลักอยู่ที่เชียงใหม่เป็นการถาวรจนบัดนี้ เป็นเวลาร่วมร้อยปีแล้ว 
ส่วนบรรพบุรุษสายนางอนุสารสุนทร คือ เจ้าคำเผื่อ และ เจ้าคำแดง สายล้านนา อพยพมาจากสิบสองปันนา

มองจากภายในบ้านออกไปที่ถนนท่าแพจะเห็นบานประตูไม้ขนาดใหญ่ และจะเห็นห้องแสดงรถโบราณครับ

.......ในปี พ.ศ.2460 หลวงอนุสารฯ ทำกิจการรถเมล์วิ่งระหว่างลำพูน-เชียงใหม่ โดยใช้รถยนต์ 2 คัน 
คันหนึ่งตั้งชื่อว่า "พญาผาบ" อีกคันหนึ่งชื่อ "เจริญเมือง" 
ส่วนตัวหลวงอนุสารฯเองได้ซื้อรถ ROVER รุ่น ค.ศ.1906 (พ.ศ.2449) มาใช้ในครอบครัว 
รถคันนี้เป็นรถคันที่ 3 ของเชียงใหม่ 
คันแรกเป็นของพระยาเจริญราชไมตรี คันที่ 2 เป็นของเจ้าอินทวโรรส เจ้าหลวงองค์ที่ 8 ในราชวงศ์กาวิละของเมืองเชียงใหม่
.......รถ ROVER คันนี้ได้รับเกียรติในงานฉลองกรุงเทพฯ 200 ปี ให้นำหน้าขบวนพาเหรดรถโบราณเป็นคันแรก
โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นรถโบราณเก่าที่สุดในประเทศไทยที่ยังวิ่งได้

ภายในหมู่ตึกจะมีต้นละมุดอายุกว่า ๑๐๐ ปี เด่นเป็นสง่าทีเดียวครับ

และต้นอโสกอายุกว่า ๖๐ ปี เรียกว่าทั้งต้นละมุดและอโสกนี้ สร้างร่มเงาให้แก่ผู้อยู่อาศัยและเหล่านกที่มาแวะพักได้อย่างดีเลยครับ
ทำให้บริเวณนี้ร่มรื่นมากๆ 


บริเวณชั้นล่างของตึกด้านริมถนนท่าแพ จะเป็นส่วนที่ใช้แสดงงานศิลปะ ที่หลายๆ ศิลปินมาใช้เปิดแสดงผลงาน
รวมไปถึงผลงานนักศึกษา นักเรียน และผู้ที่ต้องการใช้แสดงผลงาน รวมถึงชาวต่างชาติก็มาใช้แสดงด้วย

อาคารต่างๆ จะมีบันไดและทางเดินเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งคุณยายมักออกมานั่งเล่นกินลมชมวิวอยู่ที่ทางเชื่อมนี้เสมอๆ ครับ
ผมผ่านมาทีไรก็มักจะส่งเสียงทักทาย และหากไม่เป็นการรบกวนก็จะขึ้นไปเสวนาตามประสา สว.อย่างออกรสออกชาติกันทีเดียวครับ
ยังจำวันที่นั่งคุยกันนานซึ่งเป็นช่วงก่อนจัดงานแสดงภาพถ่ายฟิล์มกระจกของหลวงอนุสารฯ ไม่ลืมเลยครับ

ประตูบานไม้หน้าบ้านขนาดใหญ่ตรงทางเข้าบ้านตึกริมถนนท่าแพ

ห้องแสดงผลงานศิลปะของเหล่าศิลปิน หากมีงานแสดงก็จะเปิดประตูไม้ แต่มีประตูกระจกเพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา
ทราบว่ามีงานแสดงผลงานศิลปะ และแวะเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ 


ป้ายยืนยันและกำกับว่าสถานที่หรืออาคารแห่งนี้ได้รับการรับรองการอนุรักษ์

ลานกลางหมู่ตึกที่ร่มรื่นและเย็นสบาย

ทางเชื่อมหมู่ตึกยาวตลอดเป็นทั้งที่ทานข้าว พักผ่อนกินลมชมวิวของคุณยาย

บนทางเชื่อมดูสะอาดตา และลมโกรกตลอด ทำให้เหมาะกับการนั่งพักผ่อน เรียกว่า นั่งเพลินๆ มีโอกาสหลับได้

คุณยายเดินนำพาชม อดไม่ได้ที่จะแอบถ่ายคุณยาย เพราะคุณยายบอกว่า ไม่ได้แต่งตัว กลัวไม่สวย


อาคารเรือนไม้เก่าแก่

แอบถ่ายคุณยายอีกแล้วขณะพาเดินชมบ้านครับ คิดถึงคุณยายมากๆ ครับ ปกติคุณยายบอกว่าอายุห่างกันไม่เท่าไหร่
น่าจะเรียกพี่ก็พอ แต่ผมอยากเรียกให้ผมดูเด็กเท่านั้นเองครับ (ใครจะยอมแก่....)


บ้านตึกนี้มีความสวยงามมากๆ 
.........................
อนึ่ง ในหมู่ตึกนั้น อันที่จริงยังประกอบไปด้วยตึกขาว ตึกแดง เรือนแถว ตึกหลวง ซึ่งผมขอไม่กล่าวถึง
เพราะกระทู้นี้ตั้งใจเชิญชวนให้ท่านที่มีโอกาสผ่านไปละแวกนี้ ได้เข้าไปเยี่ยมชมรถโบราณคันที่ ๓ ของจังหวัดเชียงใหม่เป็นสำคัญครับ
ส่วนโอกาสที่แต่ละท่านจะได้รับในการเดินชมหมู่ตึกนั้น 
ก็ขอให้เป็นโชคของแต่ละท่านก็แล้วกันครับ
..........................
ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ ถ่ายหลายโอกาส ใช้เครื่องมือถ่ายภาพตามสะดวกที่พกติดตัวในแต่ละคราวครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่