หวัง อี้'เชิญรมว.ต่างประเทศไทย- 3 ชาติอาเซียนเยือนจีนสัปดาห์นี้
นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของ 4 ชาติในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จะเดินทางเยือนจีนในสัปดาห์นี้ ตามคำเชิญของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน
รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย เมียนมา ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย จะเดินทางเยือนจีนเป็นรายประเทศในระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย.
โดยรัฐมนตรีดังกล่าวประกอบด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย นายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา นายทีโอโดโร ลอคซิน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ และนางเรตโน มาร์ซูดิ รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย
https://www.bangkokbiznews.com/world/996182
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ว่า นายปรัก สุคน รมว.การต่างประเทศของกัมพูชา กล่าวเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับการเลื่อนกำหนดการประชุมสุดยอดระดับผู้นำ ระหว่างสหรัฐ กับกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เนื่องในโอกาสที่ปีนี้ฉลองครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย “มีอันต้องเลื่อนออกไปก่อน” จากกำหนดการเดิม คือระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งของรัฐบาลพนมเปญ ในฐานะประธานอาเซียนประจำปีนี้ ให้เหตุผลว่า จำเป็นต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เนื่องจาก “มีผู้นำบางประเทศ” ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมตามวันและสถานที่ดังกล่าวได้ โดยไม่ได้ชี้ชัดว่าหมายถึงใคร
อย่างไรก็ตาม สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ เสนอให้มีการเลื่อนประชุมออกไปก่อน เนื่องจาก “ตารางเวลาทับซ้อน” ด้านทำเนียบขาวยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ
อนึ่ง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เน้นย้ำการมีส่วนร่วมและความเป็นหุ้นส่วนของสหรัฐต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก “ที่มีความเป็นเสรีและเปิดกว้าง” ด้วยการยกระกับความสัมพันธ์กับอาเซียน เพื่อให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “เป็นศูนย์กลาง” ขณะเดียวกัน ไบเดนยังกล่าวถึง “การให้ความสำคัญ” ของรัฐบาลวอชิงตันต่ออาเซียน การรักษาไว้และส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี “คือหมุดหมายของการธำรงไว้ซึ่งความยืดหยุ่น ความรุ่งเรือง และความมั่นคงของภูมิภาค”
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/840347/
จีนเขาทำงานเร็วนะคะ เชิญกลุ่มย่อยแทนกลุ่มใหญ่ อย่างนี้ไม่ติดขัดไปได้ทุกประเทศค่ะ
💛มาลาริน/'หวัง อี้'เชิญรมว.ตปท.ไทย- 3ชาติอาเซียนเยือนจีนสัปดาห์นี้/กัมพูชาประธานอาเซียนเลื่อนประชุมสุดยอดผู้นำกับสหรัฐฯ
นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของ 4 ชาติในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จะเดินทางเยือนจีนในสัปดาห์นี้ ตามคำเชิญของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน
รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย เมียนมา ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย จะเดินทางเยือนจีนเป็นรายประเทศในระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย.
โดยรัฐมนตรีดังกล่าวประกอบด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย นายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา นายทีโอโดโร ลอคซิน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ และนางเรตโน มาร์ซูดิ รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย
https://www.bangkokbiznews.com/world/996182
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ว่า นายปรัก สุคน รมว.การต่างประเทศของกัมพูชา กล่าวเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับการเลื่อนกำหนดการประชุมสุดยอดระดับผู้นำ ระหว่างสหรัฐ กับกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เนื่องในโอกาสที่ปีนี้ฉลองครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย “มีอันต้องเลื่อนออกไปก่อน” จากกำหนดการเดิม คือระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งของรัฐบาลพนมเปญ ในฐานะประธานอาเซียนประจำปีนี้ ให้เหตุผลว่า จำเป็นต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เนื่องจาก “มีผู้นำบางประเทศ” ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมตามวันและสถานที่ดังกล่าวได้ โดยไม่ได้ชี้ชัดว่าหมายถึงใคร
อย่างไรก็ตาม สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ เสนอให้มีการเลื่อนประชุมออกไปก่อน เนื่องจาก “ตารางเวลาทับซ้อน” ด้านทำเนียบขาวยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ
อนึ่ง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เน้นย้ำการมีส่วนร่วมและความเป็นหุ้นส่วนของสหรัฐต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก “ที่มีความเป็นเสรีและเปิดกว้าง” ด้วยการยกระกับความสัมพันธ์กับอาเซียน เพื่อให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “เป็นศูนย์กลาง” ขณะเดียวกัน ไบเดนยังกล่าวถึง “การให้ความสำคัญ” ของรัฐบาลวอชิงตันต่ออาเซียน การรักษาไว้และส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี “คือหมุดหมายของการธำรงไว้ซึ่งความยืดหยุ่น ความรุ่งเรือง และความมั่นคงของภูมิภาค”
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/840347/