คือ ตอนนี้ผมสับสนมากครับ ต้องขอเล่าประวัติ ชีวิตของผมแบบย่อๆ ก่อนละกัน
ผมอยู่ต่างจังหวัด เป็นจังหวัดที่ไม่ได้เจริญมากนัก ตอนเกิดขึ้นมาได้ประมาณ 10 เดือน พ่อแม่ก็แยกทางกันด้วยสาเหตุบางอย่าง ผมถูกเลี้ยงดูโดยครอบครัวฝั่งแม่ เมื่อโตขึ้น แม่ประสบปัญหาภาระหนี้ ชำระไม่ไหว ส่งผมเรียนต่อไม่ไหว ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่อง และกำลังจะเข้า ม.4 ผมเข้า ม. 4 มาได้มาได้สักพัก ผมก็ย้ายมาอยู่กับปู่ครอบครัวทางฝั่งพ่อ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยพูดเวลาอยู่กับครอบครัว ไม่ค่อยหยอกล้อกับคนในครอบครัว ไม่ค่อยสนิทกัน พอย้ายมาอยู่กับปู่ใหม่ๆ ผมปรับตัวยังไม่ได้ ที่ ปู่เอาแต่สั่งงานหนัก ทำงานหนักๆ และบ่นด่าเสียงดัง แบบไม่คิดเห็นใจคนอื่น ถึงมันจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ด่าในทำนองที่แรงกว่าคนปกติเขาตักเตือนกัน ผมเองก็ไม่ได้อยากมาอยู่ตั้งแต่แรก มาอยู่เพราะความจำเป็น พอเริ่มห่างจากครอบครัวแม่มาอยู่ฝั่งพ่อ จากที่ไม่สนิทกันอยู่แล้ว ก็กลายเป็นห่างเหินถึงผม จะแวะเวียนไปหา ยายอยู่บ่อยครั้งก็เถอะ ผมรู้สึกห่างจากพวกเขาออกมาเรื่อยๆ อยู่กับทางปู่ ผมก็เข้ากับใครไม่ได้ ไม่สนิทกับใครเลย ทั้งน้อง ทั้ง อา ย่า หรือแม้แต่ พ่อ ที่ผมสนิท คุยด้วยบ่อยๆและคุยแล้วสบายใจที่สุดคือ คนงานที่มาทำงานด้วยกันครับ ผมรู้สึกสนิทกับเขามากกว่าครอบครัวอีก ตอนนี้เวลาก็ผ่านมา 2 จะ 3 ปี แล้ว ผมกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย ใจจริงๆผมอยากหาเงินส่งตัวเองเรียนหรือไม่ก็สอบทุน ไม่อยากยุ่งกับครอบครัวพ่ออีก อยากอยู่ห่างๆ แต่จะให้กลับไปทางฝั่งแม่ ผมก็รู้สึกห่างเหิน ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม แม่ผมเองก็ไม่ได้เจอหน้ากันร่วม 4 ปี แล้ว อีกอย่างคือ ผมโกรธแม่ และบอกไม่ต้องติดต่อกันอีก หลังจากรู้ว่า เงินที่ผมเก็บไว้ตั้งแต่เด็ก ประมาณ 3-4หมื่น ที่เป็นความหวังของผมในตอนนั้น แม่เอาออกไปใช้หมดแล้ว และยังมาขอเงินผมอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตอนผมทำงานกับ ย่า หรือพ่อ แกจะให้ค่าขนมมาวันละ ร้อยสองร้อยผมก็เก็บมาเรื่อยๆ จนครบหมื่นนิดๆ แม่ผมก็โทรมาขออยู่เรื่อย ๆใช้หนี้บ้าง ไม่ตังกินข้าวบ้าง ผมก็สงสารเลยโอนให้ไป ครั้งละหลายพันอยู่เหมือนกัน ถ้านับรวมกันคือ 8-9 พัน ครั้งสุดท้ายที่ผมบอกแม่ไปว่าไม่มีให้อีกแล้วนะผมจะเก็บไว้เรียน แม่ก็มาขอ อีก โดยอ้างแม่ก็เข้าใจนะที่เก็บเอาไว้เรียนต่อแต่ แม่ขอเอาไปใช้หนี้ก่อนได้มั้ย แม่ไม่มีทางออกจริงๆ ผมเลยโกรธเพราะทุกๆครั้งแกก็พูดแบบนี้ผมไม่เคยขอเงินคืนเลย ผมขอแค่ไม่ต้องขออีกแม่ผมก็ทำไม่ได้ ผมโกรธมากและก็ไม่ติดต่อกับแม่อีกเลยตั้งแต่วันนั้น ตอนนี้เองผมก็เก็บเงินได้ครบหมื่นอีกรอบแล้วก็เริ่มอุ่นใจขึ้นมาบ้าง แต่ผมรู้สึกเหมือนผมเป็น ลูกอกตัญญู เป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแค่ตัวเองรอดคนเดียว จะเชื่อมสัมพันธ์กับปู่และย่าก็ทำไม่ได้เพราะมี อคติอยู่ในใจ ไม่อยากยุ่งกับเขาอีก จะกลับไปทางแม่และยาย ก็ไปไม่ได้เพราะรู้สึกห่างเหินและทะเลาะกันมา ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก วันนี้ผมพึ่งมาเยี่ยมยาย ที่พึ่งผ่าตัดเสร็จ ญาติก็มากินข้าวด้วยกันพอดีเลยคนเยอะหน่อย ทุกคนดูสนิทกันมาก และยังมีการโทรถามข่าวญาติที่ติดโควิด น้ำเสียงการพูดของเด็กทางฝั่งนั้น กับญาติๆที่พูดคุยกันเขาสนิทสนมกันมากเลย ผมรู้สึกมีแต่ผมคนเดียวที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว มีแค่ผมคนเดียวที่ไม่เคยเชื่อมความสัมพันธ์ให้สนิทกับพวกเขา มีแค่ผมที่ทำตัวออกห่าง ผมเสียใจมากๆ ผมควรทำยังดีครับ ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมากครับ
ผมจะสร้างความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวตัวเองยังไงครับ
ผมอยู่ต่างจังหวัด เป็นจังหวัดที่ไม่ได้เจริญมากนัก ตอนเกิดขึ้นมาได้ประมาณ 10 เดือน พ่อแม่ก็แยกทางกันด้วยสาเหตุบางอย่าง ผมถูกเลี้ยงดูโดยครอบครัวฝั่งแม่ เมื่อโตขึ้น แม่ประสบปัญหาภาระหนี้ ชำระไม่ไหว ส่งผมเรียนต่อไม่ไหว ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่อง และกำลังจะเข้า ม.4 ผมเข้า ม. 4 มาได้มาได้สักพัก ผมก็ย้ายมาอยู่กับปู่ครอบครัวทางฝั่งพ่อ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยพูดเวลาอยู่กับครอบครัว ไม่ค่อยหยอกล้อกับคนในครอบครัว ไม่ค่อยสนิทกัน พอย้ายมาอยู่กับปู่ใหม่ๆ ผมปรับตัวยังไม่ได้ ที่ ปู่เอาแต่สั่งงานหนัก ทำงานหนักๆ และบ่นด่าเสียงดัง แบบไม่คิดเห็นใจคนอื่น ถึงมันจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ด่าในทำนองที่แรงกว่าคนปกติเขาตักเตือนกัน ผมเองก็ไม่ได้อยากมาอยู่ตั้งแต่แรก มาอยู่เพราะความจำเป็น พอเริ่มห่างจากครอบครัวแม่มาอยู่ฝั่งพ่อ จากที่ไม่สนิทกันอยู่แล้ว ก็กลายเป็นห่างเหินถึงผม จะแวะเวียนไปหา ยายอยู่บ่อยครั้งก็เถอะ ผมรู้สึกห่างจากพวกเขาออกมาเรื่อยๆ อยู่กับทางปู่ ผมก็เข้ากับใครไม่ได้ ไม่สนิทกับใครเลย ทั้งน้อง ทั้ง อา ย่า หรือแม้แต่ พ่อ ที่ผมสนิท คุยด้วยบ่อยๆและคุยแล้วสบายใจที่สุดคือ คนงานที่มาทำงานด้วยกันครับ ผมรู้สึกสนิทกับเขามากกว่าครอบครัวอีก ตอนนี้เวลาก็ผ่านมา 2 จะ 3 ปี แล้ว ผมกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย ใจจริงๆผมอยากหาเงินส่งตัวเองเรียนหรือไม่ก็สอบทุน ไม่อยากยุ่งกับครอบครัวพ่ออีก อยากอยู่ห่างๆ แต่จะให้กลับไปทางฝั่งแม่ ผมก็รู้สึกห่างเหิน ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม แม่ผมเองก็ไม่ได้เจอหน้ากันร่วม 4 ปี แล้ว อีกอย่างคือ ผมโกรธแม่ และบอกไม่ต้องติดต่อกันอีก หลังจากรู้ว่า เงินที่ผมเก็บไว้ตั้งแต่เด็ก ประมาณ 3-4หมื่น ที่เป็นความหวังของผมในตอนนั้น แม่เอาออกไปใช้หมดแล้ว และยังมาขอเงินผมอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตอนผมทำงานกับ ย่า หรือพ่อ แกจะให้ค่าขนมมาวันละ ร้อยสองร้อยผมก็เก็บมาเรื่อยๆ จนครบหมื่นนิดๆ แม่ผมก็โทรมาขออยู่เรื่อย ๆใช้หนี้บ้าง ไม่ตังกินข้าวบ้าง ผมก็สงสารเลยโอนให้ไป ครั้งละหลายพันอยู่เหมือนกัน ถ้านับรวมกันคือ 8-9 พัน ครั้งสุดท้ายที่ผมบอกแม่ไปว่าไม่มีให้อีกแล้วนะผมจะเก็บไว้เรียน แม่ก็มาขอ อีก โดยอ้างแม่ก็เข้าใจนะที่เก็บเอาไว้เรียนต่อแต่ แม่ขอเอาไปใช้หนี้ก่อนได้มั้ย แม่ไม่มีทางออกจริงๆ ผมเลยโกรธเพราะทุกๆครั้งแกก็พูดแบบนี้ผมไม่เคยขอเงินคืนเลย ผมขอแค่ไม่ต้องขออีกแม่ผมก็ทำไม่ได้ ผมโกรธมากและก็ไม่ติดต่อกับแม่อีกเลยตั้งแต่วันนั้น ตอนนี้เองผมก็เก็บเงินได้ครบหมื่นอีกรอบแล้วก็เริ่มอุ่นใจขึ้นมาบ้าง แต่ผมรู้สึกเหมือนผมเป็น ลูกอกตัญญู เป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแค่ตัวเองรอดคนเดียว จะเชื่อมสัมพันธ์กับปู่และย่าก็ทำไม่ได้เพราะมี อคติอยู่ในใจ ไม่อยากยุ่งกับเขาอีก จะกลับไปทางแม่และยาย ก็ไปไม่ได้เพราะรู้สึกห่างเหินและทะเลาะกันมา ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก วันนี้ผมพึ่งมาเยี่ยมยาย ที่พึ่งผ่าตัดเสร็จ ญาติก็มากินข้าวด้วยกันพอดีเลยคนเยอะหน่อย ทุกคนดูสนิทกันมาก และยังมีการโทรถามข่าวญาติที่ติดโควิด น้ำเสียงการพูดของเด็กทางฝั่งนั้น กับญาติๆที่พูดคุยกันเขาสนิทสนมกันมากเลย ผมรู้สึกมีแต่ผมคนเดียวที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว มีแค่ผมคนเดียวที่ไม่เคยเชื่อมความสัมพันธ์ให้สนิทกับพวกเขา มีแค่ผมที่ทำตัวออกห่าง ผมเสียใจมากๆ ผมควรทำยังดีครับ ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมากครับ