ลีก NBA กําลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของฤดูกาลปกติ การเบียดเเย่งรางวัล MVP จะถูกตัดสินในช่วงนี้ด้วยโดย top-3 candidate ที่จะได้รางวัลก็มี Nikola Jokic, Joel Embidd เเละ Giannis Antetokounmpo

Embiid กับ Jokic ดูมีภาษีดีกว่าเเต่ผลโหวตก็ยังไม่ lock เเละเปลี่ยนเเปลงได้อยู่โดยเมื่อปีก่อน Jokic เฉือนเอาชนะ Embiid ไปได้เนื่องจากมีผลงานที่ดีกว่าเเละมีจํานวนเกมส์ที่ลงมากกว่า

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการได้รางวัล MVP มีดังนี้:

จํานวนเกมส์ที่ลง

ไม่เคยมี MVP คนไหนที่พลาดลงสนามเกิน 11 เกมส์มาก่อนใน 40 ปีหลังสุดซึ่ง Embiid พลาดลงไปเเล้ว 13 เเละ Greek Freak ไม่ได้ลง 12 เกมส์เเต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะหมดสิทธิ์ 100% เพราะคนโหวตน่าจะเข้าใจดีว่าบางคนติดมาตรการกักตัวโควิดเลยลงไม่ได้เเต่การไม่ได้ลงเยอะๆ ก็ยังทําให้พวกเขาเสียเปรียบ Jokic ที่ลงไม่ได้เเค่ 7 เกมส์

เเต้มเฉลี่ยต่อเกมส์

ทั้ง 3 คนทําได้เกิน 25 PPG ซึ่งนี่เป็นเกณฑ์ขั้นตํ่าของคนที่เคยได้รางวัล MVP ในปีก่อนๆ เเต่ Embiid กับ Giannis ทําได้เกือบ 30 PPG ทําให้ Jokic ที่มีสถิติ 26.1 PPG ดูด้อยกว่าสองคนนั้น

จํานวนเกมส์ที่ชนะ

ใน 22 ฤดูกาลที่ผ่านมา คนที่ได้รางวัล MVP ทั้งหมด 16 คนจะมาจากทีมที่ได้ seed 1 เเละอีก 4 คนมาจาก seed 2

มีเเค่ Jokic เเละ Russell Westbrook ที่เคยได้รางวัลตอนต้นสังกัดอยู่ seed 3 เเละ 6 เเต่ปีที่เต่าได้เพราะเขาทํา triple double ได้สูงเป็นประวัติศาสตร์ด้วย มันเลยมีเกณฑ์ที่เเตกต่างจากปีอื่นๆ ดังนั้นถ้า Nuggets ตกมาอยู่โซน play-in ที่ seed 7 จะทําให้โอกาสที่ Jokic จะได้รางวัล MVP มีน้อยลงมากเพราะจะสู้กับ Embiid เเละ Greek Freak ที่อยู่ seed 2 เเละ 3 ได้ยาก

จะว่าไปก็น่าสงสาร Jokic นะที่ต้องเเบกทีมคนเดียวมาทั้งฤดูกาลทําให้มีงานหนักกว่าใคร ดังนั้นเพื่อนร่วมทีม Nuggets ก็ต้องพยายามช่วยเขาให้มากกว่านี้เเละอย่าให้อันดับหล่นไปอยู่ในโซน play-in อย่างเด็ดขาดซึ่งตอนนี้พวกเขามีสถิตินําหน้า Wolves เหลือเเค่ครึ่งเกมส์เท่านั้น