ทำไมเด็กสมัยนี้มักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับความกตัญญูในการเลี้ยงดูบุพการี

เห็นหลายกระทู้ที่มักจะอ้างอิงว่าต่างประเทศไม่เห็นต้องกตัญญูพ่อ-แม่ ทำไมเด็กไทยต้องส่งเงินเลี้ยงดูพ่อ-แม่ยามแก่เฒ่า ทำไมรัฐบาลไม่เลี้ยงดูประชาชนของตัวเอง...บลา บลา บลา

เราคิดว่าคนที่เข้ามาตั้งกระทู้ นอกจากจะเด็กแล้ว ประสบการณ์น้อย หรือไม่ก็ พ่อ-แม่ ให้ความสำคัญกับลูกมากเกินไปจนกลายเป็น ศูนย์รวมจักรวาล ปัญหานีส่วนตัวคิดว่าจะว่าแต่เด็กไม่ได้ คนไทยหลายเปอร์เซนต์ยังเลี้ยงลูกแบบนี้อยู่ จริงๆ มันคือความรักความผูกพันแหละ แต่เท่าที่เคยอยู่อเมริกามาหลายปี เราพบว่า ครอบครัวเค้าโดยมากเลี้ยงลูกให้พึ่งพาตัวเอง ดังนั้น สังคมของเด็กที่เรียนจบ High School /College มักจะต้องมีงานทำ หรือ บางคนทำงานตั้งแต่ยังไม่จบก็มี อันนี้คือคนส่วนใหญ่ที่ฐานะปานกลาง เด็กก็อยากหางานเพราะเพื่อนๆ ก็ทำงานกันทั้งนั้น ถ้าไม่ทำก็จะถูกบูลลี่หรือมองแปลกๆ อายุ 20 ปี ถ้ายังอาศัยอยู่กับพ่อ-แม่ คือแปลกมากกกกกกกกกกกกกกกกก คนในหมู่บ้านนี่คือ เห็นหน้าปั๊บ นินทาปุ๊บ แบบหนังไทยนั่นแหละ 

ทีนี้ภาษีในแต่ละรัฐที่เรียกเก็บไม่เท่ากันนั้น ก็จะมีสวัสดิการให้ไม่เหมือนกันไปด้วย แต่ประชากรส่งภาษีไหวไง เพราะเลี้ยงลูกเต็มที่ก็ 20 ปี พ่อแม่หลายคนอายุยังไม่มาก มีปัญญาส่งภาษีอีกเกือบ 30 ปีหรือมากกว่า เอาค่าภาษีคูณจำนวนปีที่รัฐฯ เอาเงินไปหมุน มันก็แน่นอนว่า รัฐต้องเอาดอกฯ มาเลี้ยงคนของตัวเองผ่าน Social Security 

ส่วนคนไทยนั้น........... เลี้ยงลูกอุ้มชูฟูมฝักตั้งแต่เกิดไปยัน 40-50 ปีก็มี ประมาณไม่แต่งฯ พ่อ-แม่ก็เลี้ยงได้ มีให้เห็นอยู่ เด๋วนี้คนไทยแต่งงานช้า บางคน 30 กว่าแล้ว ยังไม่มีวี่แวว ผู้ชายบางคนเกือบ 40 เพิ่งแต่งภรรยา กว่าจะได้ลูกตัวก็ 40 กว่าเข้าไปแล้ว ยิ่งแก่เรายิ่งมีความรักและผูกพันกับสายเลือดตัวเอง ลูกที่เราเลี้ยงเลยกลายเป็นลูกเทวดา  เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อยากได้อะไรก็มีคนหามาให้ จนแทบไม่สนแล้วว่า พ่อ-แม่หาเงินได้เดือนเท่าไหร่ ภาระค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แล้วต้องมาสนองความต้องการลูกเนี่ยะ กู้หนี้ยืมเงินใครมา เห้อ.............

ถ้าไม่ใช่แบบข้างต้น ก็จะเป็นแบบเลี้ยงลูกมาประหนึ่งคนใช้ เกิดมาก็ต้องทำงานบ้าน โตมาหาตังค์ได้ก็ต้องมาโดนกดดันให้ส่งครอบครัว หรือไม่บางครอบครัวก็ขายลูกแลกเงินกันก็ยังพอเห็น  

เอวัง ก็เลยอาจจะทำให้เด็กไทยสมัยนี้มี Question กับการเลี้ยงดู กตัญญู พ่อ-แม่ ก็เป็นได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
มันเป็นเรื่องปกติของการตอบรับจากการเลี้ยงดู และ ประสบกาณ์ที่เขาเจอมานะครับ
คำกล่าวที่ว่า ปลูกอะไร ย่อมออกผลเป็นสิ่งนั้น ก็ยังใช้ได้เรื่อยๆอยู่

นั่นหมายถึงว่า มีพ่อแม่หลายๆคน ปลูก สะเดา แล้วอยากให้ออกผลเป็นมะม่วง
มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ

ไม่ใช่แค่อยากได้ผลก็จะได้ผล แต่เราควรดูแล รดน้ำ ใส่ใจมันด้วยนะครับ
ไม่งั้น ปลูกมะม่วงไปแครแกรน แมลงลง ก็อดเช่นกัน

แล้วหากดูแลดีๆ มะม่วงก็จะต่อยอดไปเรื่อยๆ เมล็ดหล่นลงพื้น งอกใหม่ เราก็ได้กินอีก เรื่อยๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อยากเท่ อยากแนว ดูอยู่นอกกรอบ หาข้ออ้างไม่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ ข้ออ้างพวกนี้จะมาแนวๆเดัยวกันคือ
-ไม่ได้อยากเกิด แต่พ่อแม่เป็นคนอยากให้เกิดมาเอง ตัวเองเกิดมาสนองพ่อแม่แล้ว ต้องเลี้ยงดูตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ถือเป็นบุญคุณกัน
-ทั้งๆที่ความเป็นจริงพ่อแม่ให้เกิดมา แต่มีสิทธิที่จะเลี้ยงแบบส่งๆก็ได้ ไม่ต้องหาของดีๆให้ ไม่ต้องดูแลอย่างดี ไม่ต้องส่งเรียนสูง ไม่ต้องยกทรัพย์สินอะไรให้ก็ได้ แค่เลี้ยงให้โตและส่งเรียนตามกฎหมายกำหนดแล้วปล่อยยังได้ แต่หลายคนไม่ทำเพราะเขารัก บุญคุณจึงอยู่ที่การเลี้ยงดู ไม่ใช่ทำให้เกิดมา
ความคิดเห็นที่ 3
คนสมัยใหม่กล้าพูดกล้าทำมากกว่าคนสมัยก่อน
มันดีเสียอีกที่มีคนกล้าพูดแบบนั้น
พ่อแม่ไม่ใช่จะมีควมรับผิดชอบกับลูกๆทุกคน
พ่อแม่ไม่ใช่คนที่ดีทีสุดทุกคน
พ่อแม่ที่เคยทำผิดพลาดจะได้แก้ไขวันนี้ให้ดีที่สุดเตรียมตัวเตรียมใจกับอดีตใว้ถ้าลูกของท่านจะพูดแบบนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่