Pad Thai Diplomacy

ทุกๆคนบนโลกต้องกินอาหาร แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจมากขึ้นนั่นคือการแสดงถึงวัฒนธรรมของประเทศนั้นไม่ว่าจะมาจากภาคไหนหรือเจาะลึกไปจนถึงครอบครัวนั้นนั้นทุกคนจะมีวัฒนธรรมและรสชาติอาหารเป็นของตนเอง ยกตัวอย่างเช่นพิซซ่าที่ไม่เหมือนกันในสหรัฐอเมริกานิวยอร์กสไตล์และชิคาโกสไตล์ก็มีความแตกต่างกันเช่นแป้งบางกรอบและอีกอันหนึ่งมีความหนาเป็นอย่างมากรวมถึงประชากรในพื้นที่นั้นนั้นด้วยชาวเม็กซิกัน จีนและอิตาลีคิดเป็นประชากรมากกว่าหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาซึ่งก็ส่งผลให้ร้านอาหารประเทศนั้นนั้นอยู่สามอันดับแรกของเครือข่ายร้านอาหาร 

แต่ถ้าหากเรามาดูอันดับที่สี่เราจะพบความน่าสงสัยเพราะนั่นคืออาหารไทยที่ได้รับความนิยมอันดับสี่ในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากจำนวนร้านอาหารไทยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรนั้นแตกต่างกันอย่างมากโดยในปี 2018 มีการรวบรวมข้อมูลว่ามีร้านอาหารไทยประมาณ 5300 แห่งในสหรัฐอเมริกาในขณะที่มีประชากรไทยในสหรัฐเพียงแค่ 300,000 คนเท่านั้นนั่นเป็นอัตราส่วนร้านอาหารหนึ่งแห่งต่อคนไทย 57 คนหากเปรียบเทียบกับชนชาติอื่นเช่นชาวเม็กซิกันจำนวนสาม 36 ล้านคนแต่กลับมีร้านอาหารแมกซิกันเพียงแค่ 54,000 แห่งเท่านั้นซึ่งเทียบเป็นอัตราส่วนร้านอาหารเม็กซิกันหนึ่งแห่งต่อชาวเม็กซิกัน 678 คนอีกทั้งข้อสังเกตที่สถานที่ที่ร้านอาหารไทยนั้นได้เปิดเช่นในเมือง Fairbanks ใน Alsaka ที่มีประชาชนเพียงแค่ 32,000 คนเท่านั้นแต่กลับมีร้านอาหารไทยถึง 24 แห่งซึ่งในที่แห่งนั้นแทบจะไม่มีชาวไทยอาศัยอยู่เลย 

ในความเป็นจริงอัตราส่วนประชากรชาวไทยในสหรัฐมีน้อยมากโดยน้อยกว่า 0.35% จากประชากรทั้งหมดด้วยซ้ำซึ่งตอบย้ำว่าการที่ร้านอาหารประเทศนั้นนั้นจะเกิดขึ้นได้ต้องมาจากการที่มีผู้อพยพมายังประเทศนั้นนั้นแล้วทำการเปิดร้านอาหารซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลที่ได้เกี่ยวกับชาวไทยในสหรัฐอเมริกาเพราะบางแห่งมีร้านอาหารไทยทั้งๆที่ไม่มีชาวไทยอยู่เลยด้วยซ้ำ คำตอบก็คือ Gastrodiplomacy 

Gastrodiplomacy คือการเจริญความสัมพันธ์ทางการทูตด้วยอาหาร ถูกต้องแล้ว อย่าหาว่าผมบ้า การที่ร้านอาหารไทยโผล่ขึ้นทุกหนแห่งในสหรัฐและยุโรปเกิดจากนโยบายทางภาครัฐของประเทศไทยเพื่อมัดใจชาวต่างชาติกับประเทศไทย และต้องบอกเลยว่ามันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก 

บทความนี้ถูกตีพิมพ์ขึ้นครั้งแรกในปี 2001 ในหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal กล่าวว่ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ได้มีแผนปล่อยร้านอาหารไทยกว่า 3000 แห่งทั่วโลกโดยเขากล่าวว่าพวกเราต้องการเป็น “Mcdonald’s of Thai food” หากพูดถึง Mcdonald’s ในความหมายนี้แน่นอนพวกเราจะนึกถึงสาขาที่มากมายแต่อีกทั้งรวมไปถึงมาตรฐานที่เหมือนกันทุกที่ เป็นอะไรที่เข้าถึงง่าย เป็นที่น่าจดจำ ประสบการณ์ที่จะเหมือนกันทุกที่ 

Dr.Mark Padoongpatt อาจารย์ในสาขา Asian and Asian American Studio ที่ University of Nevada Las Vegas อธิบายว่า “พวกเขาฝึกพ่อครัวแล้วกระจายไปทั่วทุกมุมโลกเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยรวมถึงสร้างมาตรฐานให้อาหารไทยในต่างประเทศด้วย เนื่องจากรัฐบาลได้สังเกตุเห็นถึงรสชาติที่ไม่แน่นอนในร้านอาหารไทยในต่างประเทศและจะสร้างภาพพจที่ไม่ดีต่อประเทศไทยและเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วย” ในหัวข้อสุดท้ายเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างแผนนี้มาจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ด้วยการส่งออกวัตถุดิบจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจเช่นเดียวกันถ้าหากให้ยกตัวอย่างในปี 2001 ประเทศไทยมีรายได้การส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารมาถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยส่วนใหญ่จะมาจากเครื่องเทศและสมุนไพรเช่นมะกรูดและข่าซึ่งเป็นของที่ปลูกในไทยและถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพในต่างประเทศด้วย 

อีกอย่างคือการที่ร้านอาหารไทยถูกสร้างในประเทศอื่นๆมันไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่เผยแพร่วัฒนธรรมไทยเท่านั้นมันยังเพิ่มธุรกิจการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศไทยเข้ามาในประเทศนั้นๆด้วย การที่ทำให้ชาวต่างชาติติดใจกับรสชาติและเครื่องปรุงที่หาได้แค่ในประเทศไทยเท่านั้นอีกทั้งยังสามารถปรับปรุงรสชาติให้เข้ากับคนในพื้นที่โดยไม่เสียอัตลักษณ์ของอาหารนั้นนั้นด้วย เช่น เผ็ดน้อยลง และนี่ก็คือความอัจฉริยะของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย ตัวอย่างความสำเร็จสามารถถามได้จากบุคคลรุ่นพ่อของพวกเราโดยยกตัวอย่างเช่น อาหารไทยในสหรัฐเมื่อยุค 70’s จะไม่มีความคล้ายครึงกับอาหารไทยในประเทศแม้แต่น้อยเนื่องจากน้ำปลาและมะกรูดที่หายากมากในสหรัฐแต่ในระยะหลังสหรัฐได้นำเข้าวัตถุดิบจากไทยและประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นเป็นอย่างมาก 

แน่นอนว่า Gastrodiplomacy สามารถทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาในร้านอาหารไทยแล้วเกิดความชอบในรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้วกลับบ้านไปด้วยความพึงพอใจและมีความต้องการใช้เงินเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์จากไทยเพิ่มขึ้นหรือแม้กระทั่งวางแผนไปเที่ยวประเทศไทยในอนาคต เพราะฉะนั้นก่อนที่ชาวต่างชาติจะซื้อตั๋วมาเที่ยวในประเทศไทยจึงควรคำนึงไว้ว่าการทูตของไทยได้ทำการโน้มน้าวชาวต่างชาติคนนั้นให้มาเที่ยวในประเทศไทยสำเร็จแล้ว 

Source : https://royalcoastreview.com/2021/06/how-and-why-thailand-pioneered-gastrodiplomacy-worldwide/ 
               http://repository.umy.ac.id/bitstream/handle/123456789/17182/5.%20BAB%20I.pdf?sequence=5&isAllowed=y 
              http://www.lionbrand.com.au/blog/gastrodiplomacy-why-are-there-so-many-thai-restaurants
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่