ว่าไปแล้วเราผิดมั้ย ตอนนั้นเค้ามีแฟนค่ะแต่ตอนนั้นเราสังเกตพฤติกรรมเค้าคือเรารู้สึกเหมือนเค้าชอบมองเราตลอด อันนี้ไม่ได้มโนนะคะแต่ตอนม.6เราอยู่ห้องเดียวกันเค้านั่งหลังเราเยื้องๆกันอ่ะค่ะ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรแต่คือเค้าเป็นสายเล่นรองเท้าอ่ะค่ะพวกNike jordan af อะไรแบบนี้ เราก็เหมือนกันค่ะชอบดูชอบแชร์เหมือนกัน ละเค้าก็มากดความรู้สึกให้ในเฟซทั้งๆที่ไม่เคยไลค์เลยยยยเมื่อก่อน ละเค้าก็ตามมากดในไอจีตรงสตอรี่อะค่ะ เมื่อเรากดความรู้สึกในสตอรี่มันก็จะเด้งไปโผล่ที่ DMด้วยใช่มั้ยคะ และตอนนั้นก็มีคุยกันเรื่องรองเท้า กับเรื่องที่เรียนเพราะตอนนั้นกำลังสอบเข้ามหาลัยเค้าก็ปรึกษาว่ามหาลัยนี้ดีมั้ย นั้นนู้นนี่ คือคุยกันเเค่2เรื่องนี้จริงๆค่ะ ไม่มีการคุยเชิงชู้สาวไม่มีการบอกฝันดี กินข้าวด้วยนะอะไรทำนองนี้ไม่มีเลยค่ะ แต่พอนานๆไปเราก็เริ่มรู้สึกกับเค้าแต่ก็เตือนตัวเองตลอดว่าเค้ามีแฟนแล้ว เราก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรเค้าค่ะ เค้าก็เช่นเดียวกัน เเต่วันนึงแฟนเค้าทักมาข้างเราเราก็บอกหมดนะคะว่าเราคุยกันเเค่เรื่องรองเท้า และเรื่องเรียนจริงๆ เพราะเค้าเองก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกับเรามา3ปี คุยกันเเบบเพื่อนมากกว่าคุยกันเเบบชู้สาว แต่ไม่นานเค้าก็กับแฟนก็เลิกกันค่ะสาเหตุที่รู้ๆมาก็หลายเรื่องเหมือนกัน แฟนเค้าไม่ชอบให้เค้าออกไปเจอเพื่อนบ่อยๆ ไม่ชอบให้เค้าไปเที่ยว คงเป็นปัญหาสะสมแหละค่ะ หลังจากที่เค้าเลิกกันเราก็คุยกับเค้านะคะ คุยกันเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่แฟนเค้าเอาไปโพสทำนองที่ว่าเราไปแย่งของเค้า คือเราก็ไม่รู้ว่าเราถูกหรือเราผิดที่คบกับเค้าหลังจากที่เค้าเลิกกับแฟนไปไม่นาน แต่เราคิดว่าการที่เราไม่ได้วุ่นวายกับเค้าตอนที่เค้ามีแฟนอยู่นั้นก็แปลได้ว่าเราไม่ได้ไปแย่งใช่มั้ยคะเพราะเราบริสุทธิ์ใจจริงๆ แต่หลังจากที่เค้าเลิกกันอันนี้ก็ไม่แปลกใช่มั้ยคะถ้าเราก็คุยกับเค้าเยอะขึ้น เราผิดใช่มั้ยคะที่คบกับคนๆนี้