ก่อนอื่นต้องขอท้าวความสั้นๆก่อนนะคะ
พี่สาวมีลูกสาว 2 คนแต่เป็นลูกคนละพ่อ แต่ทั้งสองคนรักกันมากๆ
ลูกสาวคนโตพ่ออยู่ ตจว เลยได้เจอเฉพาะปิดเทอม ส่วนคนเล็กเจอพ่อเค้าทุก ศุกร์-อาทิตย์
พี่สาวพอเลิกกับสามีก็จะเป็นคนที่เกลียดสามีมากๆ เกลียดแบบที่ว่าจะไม่อยากเผาผีกันเลย
แล้วพี่สาวก็มีพฤติกรรมคือไม่ดูแลลูก ไม่สนใจ แต่หวงลูกมาก ไม่อยากให้ลูกเจอพ่อ
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อน หลานสาวคนเล็กก็ไปเจอพ่อปกติ แต่พอเช้าวันอาทิตย์เค้ามีไข้ ปวดหัวอาเจียน
เลยได้ทำการตรวจ ATK แต่ไม่พบเชื้อ ด้วยความที่เรากังวลเลยให้พ่อเค้าพาไปตรวจ PCR เพราะกลัวว่าจะเอามาติดแม่(คุณยาย)
เพราะคุณแม่ก็มีอายุแล้ว พอตรวจก็เจอเชื้อเลยให้เค้ากักตัวอยู่กับพ่อเค้า และให้พาไปหาหมอ พอวันจันทร์หลานสาวคนเล็กฏ้ไม่มีอาการอะไรแล้ว ไม่ไอ ไม่ปวดหัวไม่มีไข้ คุณหมอเลยแนะนำให้กักตัวอยู่บ้าน
พี่สาวโมโหมาที่ลูกสาวคนเล็กติดโควิด ก็อาละวาด ด่าพ่อเด็กว่าพาออกไปข้างนอกทำไม ด่าหยาบๆแหละค่ะ
แล้วก็บอกว่าทำให้คุณภาพชีวิตของลูกตกต่ำ เจอแต่ความ
(อันนี้ก็ไม่รู้ว่าไปถึงขั้นนั้นได้ยังไง)
และก็มาโวยวายกับแม่ว่าจะไม่ให้ลูกสาวคนเล็กไปเจอกับพ่อเค้าอีก ให้ตัดขาดไปเลย เพราะพ่อสัพเพร่า
หลานก็กักตัวเรื่อยมาจนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หมอนัดไปตรวจอีกที หลานก็มีผลโควิดเป็นลบแล้ว
แต่.......คุณแม่ดันไปติดโควิดมา หลานคนเล็กก็เลยไม่ได้กลับบ้าน
ด้วยความที่ว่าคนที่บ้านต้องกักตัวทุกคน สามีเก่าของพี่สาวเลยแวะเอายากับชุดตรวจม่ห้อยไว้หน้าบ้านให้
ซึ่งพาหลานสาวมาด้วยแต่รออยู่ในรถ แล้วก็พาหลานสาวกลับไปด้วย
พี่สาวโมโหมาก มาด่าแม่ว่าใช้สมองส่วนไหนคิดที่ปล่อยให้หลานสาวคนเล็กกลับไปกับพ่อมัน
ทำไมไม่ให้กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อมันก็พาไปติดโควิดอีก......
แล้วหลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็ส่งข้อความมาฟ้องเราและพี่สาวคนโตว่าแม่ทำแบบนี้ได้ยังไง ไม่มีสมองคิด....
คือส่วนตัวเราคิดว่าแม่ทำถูกแล้วเพราะหลานเพิ่งหาย แล้วแม่เพิ่งเป็น ถ้าให้เค้ามาอยู่บ้านเดียวกันกับแม่เค้าก็จะติดอีก
แต่พี่สาวคิดว่าผิด เค้าควรจะกลับมานอนที่บ้านแล้วแยกกับพ่อได้แล้วเพราะพ่อเค้าเป็นคนสัพเพร่า
ก็นี่แหละค่ะคำถามคือเราตรรกะป่วย หรือพี่เราตรรกะป่วยกันแน่
เราก็คิดแล้วว่าถ้าเป็นลูกเราเราก็คงอยากให้เค้าแยกกับผู้ป่วยก่อน
อยากทราบว่าตรรกะของใครป่วยกันแน่ระหว่างเรากับพี่สาว
พี่สาวมีลูกสาว 2 คนแต่เป็นลูกคนละพ่อ แต่ทั้งสองคนรักกันมากๆ
ลูกสาวคนโตพ่ออยู่ ตจว เลยได้เจอเฉพาะปิดเทอม ส่วนคนเล็กเจอพ่อเค้าทุก ศุกร์-อาทิตย์
พี่สาวพอเลิกกับสามีก็จะเป็นคนที่เกลียดสามีมากๆ เกลียดแบบที่ว่าจะไม่อยากเผาผีกันเลย
แล้วพี่สาวก็มีพฤติกรรมคือไม่ดูแลลูก ไม่สนใจ แต่หวงลูกมาก ไม่อยากให้ลูกเจอพ่อ
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อน หลานสาวคนเล็กก็ไปเจอพ่อปกติ แต่พอเช้าวันอาทิตย์เค้ามีไข้ ปวดหัวอาเจียน
เลยได้ทำการตรวจ ATK แต่ไม่พบเชื้อ ด้วยความที่เรากังวลเลยให้พ่อเค้าพาไปตรวจ PCR เพราะกลัวว่าจะเอามาติดแม่(คุณยาย)
เพราะคุณแม่ก็มีอายุแล้ว พอตรวจก็เจอเชื้อเลยให้เค้ากักตัวอยู่กับพ่อเค้า และให้พาไปหาหมอ พอวันจันทร์หลานสาวคนเล็กฏ้ไม่มีอาการอะไรแล้ว ไม่ไอ ไม่ปวดหัวไม่มีไข้ คุณหมอเลยแนะนำให้กักตัวอยู่บ้าน
พี่สาวโมโหมาที่ลูกสาวคนเล็กติดโควิด ก็อาละวาด ด่าพ่อเด็กว่าพาออกไปข้างนอกทำไม ด่าหยาบๆแหละค่ะ
แล้วก็บอกว่าทำให้คุณภาพชีวิตของลูกตกต่ำ เจอแต่ความ (อันนี้ก็ไม่รู้ว่าไปถึงขั้นนั้นได้ยังไง)
และก็มาโวยวายกับแม่ว่าจะไม่ให้ลูกสาวคนเล็กไปเจอกับพ่อเค้าอีก ให้ตัดขาดไปเลย เพราะพ่อสัพเพร่า
หลานก็กักตัวเรื่อยมาจนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หมอนัดไปตรวจอีกที หลานก็มีผลโควิดเป็นลบแล้ว
แต่.......คุณแม่ดันไปติดโควิดมา หลานคนเล็กก็เลยไม่ได้กลับบ้าน
ด้วยความที่ว่าคนที่บ้านต้องกักตัวทุกคน สามีเก่าของพี่สาวเลยแวะเอายากับชุดตรวจม่ห้อยไว้หน้าบ้านให้
ซึ่งพาหลานสาวมาด้วยแต่รออยู่ในรถ แล้วก็พาหลานสาวกลับไปด้วย
พี่สาวโมโหมาก มาด่าแม่ว่าใช้สมองส่วนไหนคิดที่ปล่อยให้หลานสาวคนเล็กกลับไปกับพ่อมัน
ทำไมไม่ให้กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อมันก็พาไปติดโควิดอีก......
แล้วหลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็ส่งข้อความมาฟ้องเราและพี่สาวคนโตว่าแม่ทำแบบนี้ได้ยังไง ไม่มีสมองคิด....
คือส่วนตัวเราคิดว่าแม่ทำถูกแล้วเพราะหลานเพิ่งหาย แล้วแม่เพิ่งเป็น ถ้าให้เค้ามาอยู่บ้านเดียวกันกับแม่เค้าก็จะติดอีก
แต่พี่สาวคิดว่าผิด เค้าควรจะกลับมานอนที่บ้านแล้วแยกกับพ่อได้แล้วเพราะพ่อเค้าเป็นคนสัพเพร่า
ก็นี่แหละค่ะคำถามคือเราตรรกะป่วย หรือพี่เราตรรกะป่วยกันแน่
เราก็คิดแล้วว่าถ้าเป็นลูกเราเราก็คงอยากให้เค้าแยกกับผู้ป่วยก่อน