ป่วยโควิดยัง 2 หมื่น พบเสียชีวิต 69 ราย อึ้ง! ป่วยสะสมระลอกปีใหม่เฉียดล้านราย
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3231562
ป่วยโควิดยัง 2 หมื่น พบเสียชีวิต 69 ราย อึ้ง! ป่วยสะสมระลอกปีใหม่เฉียดล้านราย
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวม 22,130 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 22,103 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 27 ราย ผู้ป่วยสะสม 983,520 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 23,508 ราย หายป่วยสะสม 788,794 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 225,889 ราย เสียชีวิต 69 ราย
ขณะที่ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากผลแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) อีก 15,650 ราย อาการหนักใช้ท่อช่วยหายใจ 453 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 1,353 ราย โดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ นครศรีธรรมราช ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี อยุธยา นครปฐม ราชบุรี และสงขลา
จีน สั่งล็อกดาวน์ 17 ล้านคนในเสิ่นเจิ้น หลังยอดโควิดพุ่ง
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3231303
จีน สั่งล็อกดาวน์ 17 ล้านคนในเสิ่นเจิ้น หลังยอดโควิดพุ่ง
รัฐบาลจีนต้องสั่งให้มีการล็อกดาวน์ในหลายเมือง หลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 3,400 ราย ส่งผลให้รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์หลายเมือง
ล่าสุดวันที่ 13 มีนาคม เมืองเสิ่นเจิ้นที่เป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่างหัวเว่ย และเทนเซ็นต์ ประกาศล็อกดาวน์ เมืองที่มีประชากร 17 ล้านคนลงแล้ว หลังจากเสิ่นเจิ้นพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอีก 66 ราย
ทั้งนี้ มาตรการควบคุมโรคล่าสุดของเมืองที่มีชายแดนเชื่อมต่อกับฮ่องกง รวมไปถึงการสั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน การประกาศปิดสถานที่ชุมชน รวมไปถึงการห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน
ของแพง-ต้นทุนพุ่ง ถึงคิว ‘อสังหาฯ’ ขึ้นราคา
https://www.matichon.co.th/economy/news_3231548
ของแพง-ต้นทุนพุ่ง ถึงคิว ‘อสังหาฯ’ ขึ้นราคา
ท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อ กระทบราคาพลังงานปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย จนเกิดปรากฏการณ์ “ของแพงทั้งแผ่นดิน”
ไม่ใช่แค่สินค้าอุปโภคบริโภคต้องเจอแรงถาโถมจากวิกฤตดังกล่าว ยังกลายเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากพิษโควิด-19 ที่รุนแรง ปิดแคมป์ แรงงานขาด ต้นทุนค่าแรงเพิ่ม
ล่าสุด เหล็ก ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง ปรับราคายกแผง ผลพวงจากน้ำมันที่ผันผวนหนัก พันมาถึงเงินเฟ้อ ค่าขนส่ง ยิ่งสงครามยังไม่จบ จากที่ประเมินไว้ต้นทุนก่อสร้างจะปรับขึ้น 3-5% อาจจะทะยานไปถึง 10%
มีเสียงยืนยันจากปากนักธุรกิจในวงการ เริ่มที่
“จรรยา สว่างจิตร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล ผู้ค้าเหล็ก ระบุว่า จากราคาน้ำมันและเศษเหล็กจากต่างประเทศทำให้ราคาเหล็กในประเทศปรับราคาขายขึ้น เมื่อปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรับขึ้น 2 บาท จาก 24 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 26 บาทต่อกิโลกรัม หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน คาดว่าจะปรับขึ้นอีกเป็น 28 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่สินค้าอื่นๆ
“สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจ.บุญถาวรกรุ๊ป ศูนย์รวมวัสดุและของตกแต่งบ้าน กล่าวเสริมว่า ปี 2565 ธุรกิจวัสดุก่อสร้างยังคงได้รับความผันผวนจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากราคาพลังงานและค่าขนส่ง ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างต้องปรับราคาขึ้นตาม โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตเริ่มทยอยปรับราคาแล้วประมาณ 5-10% เช่น กระเบื้อง สุขภัณฑ์
เรื่องตกแต่งก็ไม่น้อยหน้า ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์
“ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ” กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทเอสบี เฟอร์นิเจอร์ กล่าวว่า ในช่วง 3-4 เดือนจากนี้ เอสบียังไม่มีแผนปรับราคา แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เพราะภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังไม่ดี หากขึ้นราคาเกรงว่าลูกค้ารับภาระไม่ไหว แต่หากรัฐบาลไม่ตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตรอาจต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อต้นทุนต่างๆ สูง ส่งผลให้ราคาบ้านต้องขยับตาม จะเริ่มเห็นบ้านต้นทุนใหม่ ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เพราะในช่วงไตรมาสแรก บริษัทอสังหาฯกำลังเร่งระบายสต๊อกเก่าซึ่งเป็นบ้านต้นทุนเดิม หวังตุนยอดขายตั้งแต่ไตรมาสแรก เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเจอปัญหาอะไรหนักหน่วงขึ้นมาอีก ที่ส่งผลให้ผู้ซื้อเลื่อนการตัดสินใจจองหรือซื้อที่อยู่อาศัยหรืออาคารเพื่อการลงทุน
“วิชัย วิรัตกพันธ์” ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยผลสำรวจราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล ว่า มีบางโครงการปรับราคาขึ้นแล้วตามต้นทุนใหม่ โดยเฉลี่ยบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น 6% และคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 11% ซึ่งในไตรมาส 2 ปีนี้ จะเห็นปรับราคาอีกจำนวนมาก ตามราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่สูงขึ้น
ปัจจุบันที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมีทั้งราคาต้นทุนเดิมและต้นทุนใหม่ แต่มีบางพื้นที่ปรับราคาแล้ว เช่น สมุทรปราการเพิ่มขึ้น 20% คอนโดฯในกรุงเทพฯ เช่น โซนพญาไทเพิ่มขึ้น 8% จากต้นทุนสูงขึ้น จะหาซื้อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่าล้านไม่มีแล้ว
อีกผู้ประกอบการ
“อุทัย อุทัยแสงสุข” ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า ขณะนี้ต้นทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยสูงขึ้น 5% จากภาวะเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน ราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก ทำให้บ้านต้องขึ้นราคาตาม คาดว่าไม่เกินไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ของปีนี้ จะเห็นราคาบ้านปรับราคาขึ้น 3-5% ในส่วนของแสนสิริซื้อวัสดุก่อสร้างไว้ล่วงหน้า 6 เดือน เพื่อพยุงต้นทุนและราคาบ้าน
ขณะที่
“ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ระบุว่า พฤกษายังไม่มีแผนปรับราคาบ้าน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและยังมีบ้านต้นทุนเดิมเหลืออยู่ แต่จากต้นทุนก่อสร้างที่สูงขึ้น บริษัทได้รีดีไซน์แบบบ้านให้ตอบโจทย์ลูกค้า ลดบางฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็น ซึ่งได้ทำมาต่อเนื่อง 2 ปี สามารถลดต้นทุนไปได้กว่า 10% โดยเป็นต้นทุนที่ลดได้ของปีนี้ 2% จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ 2-3% อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนต่างๆ ทั้งราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้าง ค่าแรง ทำให้พฤกษาไม่สามารถสร้างราคาต่ำล้านเหมือนที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท
ที่อั้นไม่ไหวค่ายพร็อพเพอร์ตี้เฟอร์เฟค ทางเอ็มดี
“วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต” ย้ำชัดว่า ต้นปี 2565 บริษัทปรับราคาบ้านแล้ว 1-3% ทั้งบ้านสร้างเสร็จและสร้างใหม่ จากต้นทุนก่อสร้างที่ปรับขึ้น 5% คาดว่าราคาจะขยับขึ้นอีก หากสงครามยืดเยื้อ เพราะราคาที่ปรับขึ้นประเมินบนฐานราคาน้ำมันอยู่ที่ 80-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเหล็กปรับขึ้น 30-40% แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันเกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล คาดว่าต้นทุนขยับขึ้นอีกแน่ และหากปูนซีเมนต์ขึ้นราคา ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างอื่นขึ้นตาม เช่น กระเบื้องปูพื้น บุผนัง
ด้าน
“ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย กล่าวว่า บริษัทยังมีสต๊อกบ้านสร้างเสร็จ กำลังสร้างและคอนโดฯสร้างเสร็จเมื่อ 1-2 ปีแล้ว ที่ขายในราคาต้นทุนเดิม จึงยังไม่ปรับราคาขาย แม้ต้นทุนก่อสร้างจะปรับขึ้น 4% บวกลบ แต่อีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะมีบ้านต้นทุนใหม่ออกมา อาจจะปรับราคาขายโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดทาวน์โฮม ขึ้นอีก 2-3% เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจากสงครามส่งผลต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์ รวมถึงค่าขนส่ง
ช่วงนี้เป็นโอกาสทองของผู้บริโภคจะซื้อบ้าน เพราะได้บ้านต้นทุนเดิม ดอกเบี้ยต่ำ มีมาตรการรัฐลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง ซึ่งศุภาลัยมีสต๊อกบ้านและคอนโดฯอยู่ 5,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท กำลังเปิดขายผสมผสานกับโครงการใหม่
สอดคล้องกับ
“โอภาส ศรีพยัคฆ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า กำลังเร่งขายคอนโดฯสต๊อกเก่าราคาเดิมกว่า 3,000 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 1.7 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ามียอดขาย 4,000 ล้านบาท ส่วนโครงการใหม่มีแผนจะเปิด 2-3 โครงการในไตรมาส 2 นี้ จะปรับราคาขายขึ้น 5-10% ให้สอดรับต้นทุนที่ปรับขึ้นแล้วทั้งค่าขนส่ง น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และค่าแรง
“คอนโดฯต่ำล้านที่เราเคยทำตลาด ไม่ใช่สต๊อกเก่าคงไม่มีแล้ว ต่อไปจะเห็นคอนโดฯขนาด 24 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคาตารางเมตรละ 8-9 หมื่นบาท ออกสู่ตลาด”
ขณะที่ “อาภา อรรถบูรณ์วงศ์” นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันต้นทุนก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้น 2-5% เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ผันผวนสูง ขณะที่ผู้ค้าผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างทยอยแจ้งจะปรับราคาขายแล้ว เช่น กระเบื้อง ส่วนเหล็กปรับราคาขึ้นแล้ว 50-60% แต่ในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้ คงหลีกเลี่ยงไม่พ้น
ดีเวลลอปเปอร์ ต้องปรับราคาขายบ้านขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามภาระต้นทุนใหม่ เนื่องจากต้นทุนก่อสร้างเริ่มขยับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้น 1.5-3%
ที่ผ่านมาผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยอมแบกรับภาระแทนลูกค้า แต่ปี 2565 มีปัจจัยอยู่เหนือการควบคุมเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่รู้จะจบเมื่อไร ราคาน้ำมันที่สูง ภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงแรงงานขาดแคลน มาเป็นตัวเร่งให้ต้นทุนสูงขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ถือว่าช่วงนี้เป็นโอกาสของลูกค้าเลือกซื้อบ้านต้นทุนเดิม ขณะที่ผู้ประกอบการมีจัดโปรโมชั่นการขายมากมาย และรัฐยังมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
เป็นทั้งวิกฤตและโอกาสในห้วงที่อะไรก็แพง แม้แต่ “บ้าน” ของชิ้นใหญ่และเป็นปัจจัย 4 ของมนุษย์
JJNY : ป่วยยัง 2หมื่น เสียชีวิต69│จีนสั่งล็อกดาวน์เสิ่นเจิ้น│ถึงคิว ‘อสังหาฯ’ ขึ้นราคา│พท.จี้อย่าปล่อยท่องเที่ยวตาย
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3231562
ป่วยโควิดยัง 2 หมื่น พบเสียชีวิต 69 ราย อึ้ง! ป่วยสะสมระลอกปีใหม่เฉียดล้านราย
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวม 22,130 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 22,103 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 27 ราย ผู้ป่วยสะสม 983,520 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 23,508 ราย หายป่วยสะสม 788,794 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 225,889 ราย เสียชีวิต 69 ราย
ขณะที่ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากผลแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) อีก 15,650 ราย อาการหนักใช้ท่อช่วยหายใจ 453 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 1,353 ราย โดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ นครศรีธรรมราช ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี อยุธยา นครปฐม ราชบุรี และสงขลา
จีน สั่งล็อกดาวน์ 17 ล้านคนในเสิ่นเจิ้น หลังยอดโควิดพุ่ง
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3231303
จีน สั่งล็อกดาวน์ 17 ล้านคนในเสิ่นเจิ้น หลังยอดโควิดพุ่ง
รัฐบาลจีนต้องสั่งให้มีการล็อกดาวน์ในหลายเมือง หลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 3,400 ราย ส่งผลให้รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์หลายเมือง
ล่าสุดวันที่ 13 มีนาคม เมืองเสิ่นเจิ้นที่เป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่างหัวเว่ย และเทนเซ็นต์ ประกาศล็อกดาวน์ เมืองที่มีประชากร 17 ล้านคนลงแล้ว หลังจากเสิ่นเจิ้นพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอีก 66 ราย
ทั้งนี้ มาตรการควบคุมโรคล่าสุดของเมืองที่มีชายแดนเชื่อมต่อกับฮ่องกง รวมไปถึงการสั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน การประกาศปิดสถานที่ชุมชน รวมไปถึงการห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน
ของแพง-ต้นทุนพุ่ง ถึงคิว ‘อสังหาฯ’ ขึ้นราคา
https://www.matichon.co.th/economy/news_3231548
ของแพง-ต้นทุนพุ่ง ถึงคิว ‘อสังหาฯ’ ขึ้นราคา
ท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อ กระทบราคาพลังงานปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย จนเกิดปรากฏการณ์ “ของแพงทั้งแผ่นดิน”
ไม่ใช่แค่สินค้าอุปโภคบริโภคต้องเจอแรงถาโถมจากวิกฤตดังกล่าว ยังกลายเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากพิษโควิด-19 ที่รุนแรง ปิดแคมป์ แรงงานขาด ต้นทุนค่าแรงเพิ่ม
ล่าสุด เหล็ก ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง ปรับราคายกแผง ผลพวงจากน้ำมันที่ผันผวนหนัก พันมาถึงเงินเฟ้อ ค่าขนส่ง ยิ่งสงครามยังไม่จบ จากที่ประเมินไว้ต้นทุนก่อสร้างจะปรับขึ้น 3-5% อาจจะทะยานไปถึง 10%
มีเสียงยืนยันจากปากนักธุรกิจในวงการ เริ่มที่ “จรรยา สว่างจิตร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล ผู้ค้าเหล็ก ระบุว่า จากราคาน้ำมันและเศษเหล็กจากต่างประเทศทำให้ราคาเหล็กในประเทศปรับราคาขายขึ้น เมื่อปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรับขึ้น 2 บาท จาก 24 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 26 บาทต่อกิโลกรัม หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน คาดว่าจะปรับขึ้นอีกเป็น 28 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่สินค้าอื่นๆ “สิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจ.บุญถาวรกรุ๊ป ศูนย์รวมวัสดุและของตกแต่งบ้าน กล่าวเสริมว่า ปี 2565 ธุรกิจวัสดุก่อสร้างยังคงได้รับความผันผวนจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากราคาพลังงานและค่าขนส่ง ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างต้องปรับราคาขึ้นตาม โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตเริ่มทยอยปรับราคาแล้วประมาณ 5-10% เช่น กระเบื้อง สุขภัณฑ์
เรื่องตกแต่งก็ไม่น้อยหน้า ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ “ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ” กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทเอสบี เฟอร์นิเจอร์ กล่าวว่า ในช่วง 3-4 เดือนจากนี้ เอสบียังไม่มีแผนปรับราคา แม้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เพราะภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังไม่ดี หากขึ้นราคาเกรงว่าลูกค้ารับภาระไม่ไหว แต่หากรัฐบาลไม่ตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตรอาจต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อต้นทุนต่างๆ สูง ส่งผลให้ราคาบ้านต้องขยับตาม จะเริ่มเห็นบ้านต้นทุนใหม่ ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เพราะในช่วงไตรมาสแรก บริษัทอสังหาฯกำลังเร่งระบายสต๊อกเก่าซึ่งเป็นบ้านต้นทุนเดิม หวังตุนยอดขายตั้งแต่ไตรมาสแรก เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเจอปัญหาอะไรหนักหน่วงขึ้นมาอีก ที่ส่งผลให้ผู้ซื้อเลื่อนการตัดสินใจจองหรือซื้อที่อยู่อาศัยหรืออาคารเพื่อการลงทุน
“วิชัย วิรัตกพันธ์” ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยผลสำรวจราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล ว่า มีบางโครงการปรับราคาขึ้นแล้วตามต้นทุนใหม่ โดยเฉลี่ยบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น 6% และคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 11% ซึ่งในไตรมาส 2 ปีนี้ จะเห็นปรับราคาอีกจำนวนมาก ตามราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่สูงขึ้น
ปัจจุบันที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมีทั้งราคาต้นทุนเดิมและต้นทุนใหม่ แต่มีบางพื้นที่ปรับราคาแล้ว เช่น สมุทรปราการเพิ่มขึ้น 20% คอนโดฯในกรุงเทพฯ เช่น โซนพญาไทเพิ่มขึ้น 8% จากต้นทุนสูงขึ้น จะหาซื้อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่าล้านไม่มีแล้ว
อีกผู้ประกอบการ “อุทัย อุทัยแสงสุข” ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า ขณะนี้ต้นทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยสูงขึ้น 5% จากภาวะเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน ราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก ทำให้บ้านต้องขึ้นราคาตาม คาดว่าไม่เกินไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ของปีนี้ จะเห็นราคาบ้านปรับราคาขึ้น 3-5% ในส่วนของแสนสิริซื้อวัสดุก่อสร้างไว้ล่วงหน้า 6 เดือน เพื่อพยุงต้นทุนและราคาบ้าน
ขณะที่ “ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ระบุว่า พฤกษายังไม่มีแผนปรับราคาบ้าน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและยังมีบ้านต้นทุนเดิมเหลืออยู่ แต่จากต้นทุนก่อสร้างที่สูงขึ้น บริษัทได้รีดีไซน์แบบบ้านให้ตอบโจทย์ลูกค้า ลดบางฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็น ซึ่งได้ทำมาต่อเนื่อง 2 ปี สามารถลดต้นทุนไปได้กว่า 10% โดยเป็นต้นทุนที่ลดได้ของปีนี้ 2% จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ 2-3% อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนต่างๆ ทั้งราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้าง ค่าแรง ทำให้พฤกษาไม่สามารถสร้างราคาต่ำล้านเหมือนที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท
ที่อั้นไม่ไหวค่ายพร็อพเพอร์ตี้เฟอร์เฟค ทางเอ็มดี “วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต” ย้ำชัดว่า ต้นปี 2565 บริษัทปรับราคาบ้านแล้ว 1-3% ทั้งบ้านสร้างเสร็จและสร้างใหม่ จากต้นทุนก่อสร้างที่ปรับขึ้น 5% คาดว่าราคาจะขยับขึ้นอีก หากสงครามยืดเยื้อ เพราะราคาที่ปรับขึ้นประเมินบนฐานราคาน้ำมันอยู่ที่ 80-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเหล็กปรับขึ้น 30-40% แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันเกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล คาดว่าต้นทุนขยับขึ้นอีกแน่ และหากปูนซีเมนต์ขึ้นราคา ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างอื่นขึ้นตาม เช่น กระเบื้องปูพื้น บุผนัง
ด้าน “ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย กล่าวว่า บริษัทยังมีสต๊อกบ้านสร้างเสร็จ กำลังสร้างและคอนโดฯสร้างเสร็จเมื่อ 1-2 ปีแล้ว ที่ขายในราคาต้นทุนเดิม จึงยังไม่ปรับราคาขาย แม้ต้นทุนก่อสร้างจะปรับขึ้น 4% บวกลบ แต่อีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะมีบ้านต้นทุนใหม่ออกมา อาจจะปรับราคาขายโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดทาวน์โฮม ขึ้นอีก 2-3% เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจากสงครามส่งผลต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์ รวมถึงค่าขนส่ง
ช่วงนี้เป็นโอกาสทองของผู้บริโภคจะซื้อบ้าน เพราะได้บ้านต้นทุนเดิม ดอกเบี้ยต่ำ มีมาตรการรัฐลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง ซึ่งศุภาลัยมีสต๊อกบ้านและคอนโดฯอยู่ 5,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท กำลังเปิดขายผสมผสานกับโครงการใหม่
สอดคล้องกับ “โอภาส ศรีพยัคฆ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า กำลังเร่งขายคอนโดฯสต๊อกเก่าราคาเดิมกว่า 3,000 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 1.7 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ามียอดขาย 4,000 ล้านบาท ส่วนโครงการใหม่มีแผนจะเปิด 2-3 โครงการในไตรมาส 2 นี้ จะปรับราคาขายขึ้น 5-10% ให้สอดรับต้นทุนที่ปรับขึ้นแล้วทั้งค่าขนส่ง น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และค่าแรง
“คอนโดฯต่ำล้านที่เราเคยทำตลาด ไม่ใช่สต๊อกเก่าคงไม่มีแล้ว ต่อไปจะเห็นคอนโดฯขนาด 24 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคาตารางเมตรละ 8-9 หมื่นบาท ออกสู่ตลาด”
ขณะที่ “อาภา อรรถบูรณ์วงศ์” นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันต้นทุนก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้น 2-5% เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ผันผวนสูง ขณะที่ผู้ค้าผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างทยอยแจ้งจะปรับราคาขายแล้ว เช่น กระเบื้อง ส่วนเหล็กปรับราคาขึ้นแล้ว 50-60% แต่ในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้ คงหลีกเลี่ยงไม่พ้น
ดีเวลลอปเปอร์ ต้องปรับราคาขายบ้านขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามภาระต้นทุนใหม่ เนื่องจากต้นทุนก่อสร้างเริ่มขยับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้น 1.5-3%
ที่ผ่านมาผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยอมแบกรับภาระแทนลูกค้า แต่ปี 2565 มีปัจจัยอยู่เหนือการควบคุมเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่รู้จะจบเมื่อไร ราคาน้ำมันที่สูง ภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงแรงงานขาดแคลน มาเป็นตัวเร่งให้ต้นทุนสูงขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ถือว่าช่วงนี้เป็นโอกาสของลูกค้าเลือกซื้อบ้านต้นทุนเดิม ขณะที่ผู้ประกอบการมีจัดโปรโมชั่นการขายมากมาย และรัฐยังมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
เป็นทั้งวิกฤตและโอกาสในห้วงที่อะไรก็แพง แม้แต่ “บ้าน” ของชิ้นใหญ่และเป็นปัจจัย 4 ของมนุษย์