คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ขออธิบายและแนะนำเพื่อเป็นแนวทาง เพราะไม่รู้หน้างานจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น
การตรวจวัดสายตาแล้วทำให้ค่าสายตาเกินไป ส่วนใหญ่คือผู้ตรวจใช้คำถามผิดว่า ชัดหรือไม่ชัด ซึ่งขั้นตอนการตรวจวัดสายตาโดยการอ่าน Snellen chart ควรใช้คำว่า อ่านได้หรือไม่ได้ หากผู้ถูกตรวจสามารถอ่าน snellen chart ที่บรรทัด 20/20 ซึ่งมารตรฐานกำหนดว่าคนตาปกติสามารถอ่านได้ถูกต้องครบทุกตัว ซึ่งไม่เกี่ยวกับชัดหรือไม่ชัด เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆในขั้นตอนการตรวจอีก เพื่อทำให้ภาพคมชัด หรือ ปัจจัยอื่นๆที่มีผลให้ภาพไม่คมชัด เช่น อาการตาแห้ง หรือตาล้า
การทดลองใส่ Trial Frame&Lens เพื่อทดลองเดินนั้น ใช้ทดสอบการปรับตัวกับแว่น บางกรณีที่ค่าสายตาถูกต้องแต่ผู้ใส่อาจยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับภาพได้ จึ่งจำเป็นต้องลดทอนค่าสายตาเพื่อให้ปรับตัวได้และใช้ในชีวิตประจำได้ไปก่อน คราวหน้ามาตัดใหม่ก็จะสามารถใส่ค่าสายตาที่ถูกต้องได้ครับ
แต่จากข้อมูลที่อ่าน วัดได้ -3.00 แต่จ่ายจริง -0.50 นั้น คิดว่าขั้นตอนการตรวจผิดพลาด แนะนำให้เปลี่ยนร้านที่มีประสบการณ์มากกว่าหรือร้านที่น่าเชื่อถือมากกว่าในบริเวณใกล้ที่พัก เพื่อง่ายต่อการแก้ไขและซ่อมบำรุง
เราสามารถช่วยลดปัจจัยในการเกิดข้อผิดพลาดจากการตรวจวัดสายตาด้วยตัวเอง โดย
1. พักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนการตรวจ
2. แจ้งปัญหาสุขภาพ หรือ โรคประจำตัว เพราะโรคบางอย่างมีผลต่อค่าสายตา อาจทำให้ค่าการตรวจมีผลไม่คงที่ หรือไม่ถูกต้อง
3. งดใช้สายตาระยะใกล้หนักๆ เช่น งดใช้มือถือและคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ระบบการเพ่งค้างหรือมีปัญหา ทำให้ผู้ตรวจที่ไม่มีความรู้การ Fogging ถูกหลอกจากระบบการเพ่งได้ง่าย
4. ไม่ควรไปตรวจวัดสายตาในตอนเย็นหรือหลังเลิกงาน เพราะมีการใช้สายตามาอย่างหนักหน่วง หากเจอร้านที่ไม่มีความรู้มากพอ ค่าสายตาที่ได้รับจะมีข้อผิดพลาดครับ
การตรวจวัดสายตาแล้วทำให้ค่าสายตาเกินไป ส่วนใหญ่คือผู้ตรวจใช้คำถามผิดว่า ชัดหรือไม่ชัด ซึ่งขั้นตอนการตรวจวัดสายตาโดยการอ่าน Snellen chart ควรใช้คำว่า อ่านได้หรือไม่ได้ หากผู้ถูกตรวจสามารถอ่าน snellen chart ที่บรรทัด 20/20 ซึ่งมารตรฐานกำหนดว่าคนตาปกติสามารถอ่านได้ถูกต้องครบทุกตัว ซึ่งไม่เกี่ยวกับชัดหรือไม่ชัด เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆในขั้นตอนการตรวจอีก เพื่อทำให้ภาพคมชัด หรือ ปัจจัยอื่นๆที่มีผลให้ภาพไม่คมชัด เช่น อาการตาแห้ง หรือตาล้า
การทดลองใส่ Trial Frame&Lens เพื่อทดลองเดินนั้น ใช้ทดสอบการปรับตัวกับแว่น บางกรณีที่ค่าสายตาถูกต้องแต่ผู้ใส่อาจยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับภาพได้ จึ่งจำเป็นต้องลดทอนค่าสายตาเพื่อให้ปรับตัวได้และใช้ในชีวิตประจำได้ไปก่อน คราวหน้ามาตัดใหม่ก็จะสามารถใส่ค่าสายตาที่ถูกต้องได้ครับ
แต่จากข้อมูลที่อ่าน วัดได้ -3.00 แต่จ่ายจริง -0.50 นั้น คิดว่าขั้นตอนการตรวจผิดพลาด แนะนำให้เปลี่ยนร้านที่มีประสบการณ์มากกว่าหรือร้านที่น่าเชื่อถือมากกว่าในบริเวณใกล้ที่พัก เพื่อง่ายต่อการแก้ไขและซ่อมบำรุง
เราสามารถช่วยลดปัจจัยในการเกิดข้อผิดพลาดจากการตรวจวัดสายตาด้วยตัวเอง โดย
1. พักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนการตรวจ
2. แจ้งปัญหาสุขภาพ หรือ โรคประจำตัว เพราะโรคบางอย่างมีผลต่อค่าสายตา อาจทำให้ค่าการตรวจมีผลไม่คงที่ หรือไม่ถูกต้อง
3. งดใช้สายตาระยะใกล้หนักๆ เช่น งดใช้มือถือและคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ระบบการเพ่งค้างหรือมีปัญหา ทำให้ผู้ตรวจที่ไม่มีความรู้การ Fogging ถูกหลอกจากระบบการเพ่งได้ง่าย
4. ไม่ควรไปตรวจวัดสายตาในตอนเย็นหรือหลังเลิกงาน เพราะมีการใช้สายตามาอย่างหนักหน่วง หากเจอร้านที่ไม่มีความรู้มากพอ ค่าสายตาที่ได้รับจะมีข้อผิดพลาดครับ
แสดงความคิดเห็น
ตัดแว่นครั้งแรกได้แบบนี้ ควรตัดใหม่ป่าวคะ ?
ที่ร้านใกล้บ้าน ไม่ใช่ที่ดังตามห้าง
วัดไปสองรอบได้เท่ากันคือ ค่าสายตา 300 แต่ได้แว่น 50 มา
เพราะตอนลองใส่มันชัดไม่ค่อยต่างกัน แยกไม่ค่อยออก
ลองเสียบหลายอันมาก แล้วพอหันหน้าหรือขยับ (เลนส์ที่ 100+) เหมือนภาพวืดแปปนึงแต่ไม่มึนนะ มองเห็นอยู่
คนตัดไม่ค่อยแนะนำไรเลย ลังเลจะเอา 100 ก็กลัวเวียนหัว
อยากรู้ว่า
- ตัดใหม่อีกรอบดีไหม เอาค่าสายตามากกว่านี้
- ถ้าใส่แบบนี้ไปนานๆ จะมีผลกับสายตาป่าว เพราะค่าต่างกันเยอะ
- ปกติคนที่ใส่ชินแล้วแบบเปลี่ยนบ่อย ควรใส่เท่าไหร่จะพอดี