เราเคยคุยกับคนนึงๆ อายุห่างกัน4ปี หน้าที่การงานเขาก็ดี ตอนนั้นเราฝึกงานอยู่ ใกล้จะเรียนจบ
เชื่อมั้ยว่าเราคุยกันแค่เกือบ3เดือนเอง รวมๆเวลาที่เลิกคุยกันตอนนี้ก็ปีกว่าๆแล้ว แต่เราไม่เคยลืมเขาเลยสักวัน
เขาเป็นคนที่ดีมากๆ เราอยู่คนละจ.กัน ขับรถประมาณ3ชม.ก็ถึง เราขอจีบเขาผ่านigวันที่10ธ.ค. หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ
เวลาจะมาหาเรา เขามักจะลิสต์ร้านอาหาร สถานที่ที่จะไปด้วยกันใส่ในกระดาษ ส่วนใหญ่เขาชอบเข้าวัด ไหว้ศาลเจ้า ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยคบหรือคุยกับใคร ไม่เคยมีใครทำแบบนี้เลยจริงๆ
เขาเป็นคนที่ชัดเจนกับเรา ลงสตอรี่มักจะแท็กเราเสมอ ต่างคนต่างเม้นกันในเฟสเวลาที่แชร์ต่างๆนานาเป็นปกติ ใส่ใจสุขภาพของเราเช่น ขอให้ลดชาเย็นลง มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันหรือแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆมักจะเล่าให้เราฟังเสมอ
เขาชอบแต่งรถมากๆ เวลาจะแต่งอะไรเพิ่ม มักจะขออนุญาตเรา ทั้งๆที่เป็นรถของเขา เงินเขาเองที่จะแต่งรถ
เราบอกเขาว่าจะไปบริจาคร่างกาย เขาก็ขอให้เรารอไปกับเขา เพราะเขาอยากมีส่วนร่วมกับเราในทุกๆอย่าง
เขาเป็นคนที่ให้เกียรติเรามากๆ ใจดี ใจเย็น สุภาพ
แม้แต่วันปีใหม่ ตอนนั้นญาติเรามานอนที่บ้านกันเยอะ เราก็ต้องนอนกับญาติๆในห้อง ซึ่งคิดเอาไว้ตอนแรกว่าเราจะเคาท์ดาวน์ผ่านวิดีโอคอลกัน แต่ญาติๆเรานอนหลับปิดไฟกันหมดแล้ว เขาก็ยังวิดีโอคอล ส่วนเราได้แต่เปิดแสงมือถือให้เขาเห็นหน้า แต่ไม่ได้ยินเสียงเราพูด เพราะกลัวคนอื่นๆตื่น เขาก็ไม่เคยรำคาญเลย แถมยังคุยกันจนต่างคนต่างง่วงนอน
รวมๆแล้วเขาเป็นคนดีมากๆๆๆ ต่างคนต่างอยากสร้างอนาคตที่ดีไปด้วยกัน
แต่เราดันได้ใจที่เขาใส่ใจเรา คอยหึงหวงเราเพราะเราไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน เลยได้ใจเกินไป เรางี่เง่า เอาแต่ใจ เรียกร้องต้องการเวลาจากเขาเยอะเกินไป
ซึ่งตอนนั้นมันเป็นช่วงที่เขาอ่านหนังสือรอสอบบรรจุหรือสอบอะไรสักอย่าง เราไม่ค่อยแน่ใจ เขาก็พยายามคาสายกับเราทุกคืน แต่เรายังคงเอาแต่ใจ จนมันเริ่มระหองระแหงกันประมาณอาทิตย์นึง เหมือนเขาเหนื่อยจากงานแล้วยังต้องมาง้อเราด้วยแทบทุกวัน(ตอนนั้นยังโตไม่พอจริงๆ สมองชั้นนน)
เราเลยอึดอัด จึงให้เขาพูดออกมาว่าจะเอายังไง จนเขาบอกว่า ให้แยกย้ายกันไปเติบโต เขาพิมพ์มายาวมากๆ ยาวแบบ1หน้าไลน์เลยพร้อมกับคลิปเสียงเขา
ในตอนนั้นอารมณ์เราร้อน โมโห เสียใจและผิดหวังจริงๆ เราอ่านแค่2บรรทัดมั้งเพราะอ่านต่อไม่ไหว ใจเราหน่วงมากๆตอนนั้น จับใจความได้แค่ว่า ขอให้แยกย้ายกันไปเติบโต เขายังอยู่ที่เดิมมีอะไรปรึกษาได้เสมอ ส่วนคลิปเสียงของเขา เราก็ไม่กดฟังเพราะเราร้องไห้หนักมากจนไม่อยากฟังอะไรแล้ว
จนเวลาผ่านไป เรายังคงส่องเขาบ่อยๆ ยังคงถามสารทุกข์สุขดิบจากเพื่อนๆลูกศิษย์ของเขาบ้าง มีทักไปง้อเขาแต่เขาไม่กลับมาจริงๆ เราเลยพยายามหาคนคุยไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายเราลืมเขาไม่ได้ จนปลายๆปีเราทักไปง้อเขาแบบจริงจัง ง้อ1เดือนเต็มๆจนเขาบล็อคเราทุกช่องทาง5555
และเหมือนครั้งนี้เรายอมรับจริงๆว่ายังไงเขาก็ไม่กลับมาแล้ว ตั้งแต่เขาบล็อคเรา เราก็ไม่เคยเอาเฟสอวตารหรือให้เพื่อนสนิทไปส่องอีกเลย อยู่ๆความคิดมันก็ผุดขึ้นมาว่าเราไม่อยากรับรู้อะไรจากเขาแล้ว ถ้าหากเราส่องแล้วเขามีแฟนใหม่หรือกำลังคุยกับใครอยู่ สุดท้ายก็เราเองที่เก็บมานั่งคิดทุกวันตลอดเวลา
ตลอดเวลาปีกว่า เรายอมรับตรงๆว่าเราไม่เคยลืมเขาสักวัน ยังคงไปสถานที่ที่ๆเคยไปด้วยกัน แต่ไม่เคยเขาไปดูชีวิตเขาอีกแล้ว เราได้แต่นั่งคิดว่าถ้าวันนั้นที่เราทะเลาะกัน เรายื้อและขอให้เติบโตไปด้วยกัน เขาจะยอมมั้ย ได้แต่คิดว่าเราจะวนกลับมาในเวลาที่เหมาะสมมั้ย
ตอนนี้เราไม่ลืมเขา และไม่หาใครมาแทนที่เขา แค่ยอมรับความจริง และเก็บเขาไว้ในความทรงจำ
(ยังอวยพรให้เขาไปได้ดีเสมอ )
เราไม่ได้จมปลัก แค่ตอนนี้เราไม่ได้ต้องการใครเราเลยคิดถึงและรักเขาไปเรื่อยๆ...ก็แค่นั้น
เลยอยากมาเล่าประสบการณ์คุยแค่2เดือนกว่า แต่หลงรักมาตลอดแล้ว และอาจนานเลยมั้ง
แยกย้ายกันไปเติบโต เรายังมีโอกาสวนกลับมาเจอกันอีกมั้ย
เชื่อมั้ยว่าเราคุยกันแค่เกือบ3เดือนเอง รวมๆเวลาที่เลิกคุยกันตอนนี้ก็ปีกว่าๆแล้ว แต่เราไม่เคยลืมเขาเลยสักวัน
เขาเป็นคนที่ดีมากๆ เราอยู่คนละจ.กัน ขับรถประมาณ3ชม.ก็ถึง เราขอจีบเขาผ่านigวันที่10ธ.ค. หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ
เวลาจะมาหาเรา เขามักจะลิสต์ร้านอาหาร สถานที่ที่จะไปด้วยกันใส่ในกระดาษ ส่วนใหญ่เขาชอบเข้าวัด ไหว้ศาลเจ้า ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยคบหรือคุยกับใคร ไม่เคยมีใครทำแบบนี้เลยจริงๆ
เขาเป็นคนที่ชัดเจนกับเรา ลงสตอรี่มักจะแท็กเราเสมอ ต่างคนต่างเม้นกันในเฟสเวลาที่แชร์ต่างๆนานาเป็นปกติ ใส่ใจสุขภาพของเราเช่น ขอให้ลดชาเย็นลง มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันหรือแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆมักจะเล่าให้เราฟังเสมอ
เขาชอบแต่งรถมากๆ เวลาจะแต่งอะไรเพิ่ม มักจะขออนุญาตเรา ทั้งๆที่เป็นรถของเขา เงินเขาเองที่จะแต่งรถ
เราบอกเขาว่าจะไปบริจาคร่างกาย เขาก็ขอให้เรารอไปกับเขา เพราะเขาอยากมีส่วนร่วมกับเราในทุกๆอย่าง
เขาเป็นคนที่ให้เกียรติเรามากๆ ใจดี ใจเย็น สุภาพ
แม้แต่วันปีใหม่ ตอนนั้นญาติเรามานอนที่บ้านกันเยอะ เราก็ต้องนอนกับญาติๆในห้อง ซึ่งคิดเอาไว้ตอนแรกว่าเราจะเคาท์ดาวน์ผ่านวิดีโอคอลกัน แต่ญาติๆเรานอนหลับปิดไฟกันหมดแล้ว เขาก็ยังวิดีโอคอล ส่วนเราได้แต่เปิดแสงมือถือให้เขาเห็นหน้า แต่ไม่ได้ยินเสียงเราพูด เพราะกลัวคนอื่นๆตื่น เขาก็ไม่เคยรำคาญเลย แถมยังคุยกันจนต่างคนต่างง่วงนอน
รวมๆแล้วเขาเป็นคนดีมากๆๆๆ ต่างคนต่างอยากสร้างอนาคตที่ดีไปด้วยกัน
แต่เราดันได้ใจที่เขาใส่ใจเรา คอยหึงหวงเราเพราะเราไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน เลยได้ใจเกินไป เรางี่เง่า เอาแต่ใจ เรียกร้องต้องการเวลาจากเขาเยอะเกินไป
ซึ่งตอนนั้นมันเป็นช่วงที่เขาอ่านหนังสือรอสอบบรรจุหรือสอบอะไรสักอย่าง เราไม่ค่อยแน่ใจ เขาก็พยายามคาสายกับเราทุกคืน แต่เรายังคงเอาแต่ใจ จนมันเริ่มระหองระแหงกันประมาณอาทิตย์นึง เหมือนเขาเหนื่อยจากงานแล้วยังต้องมาง้อเราด้วยแทบทุกวัน(ตอนนั้นยังโตไม่พอจริงๆ สมองชั้นนน)
เราเลยอึดอัด จึงให้เขาพูดออกมาว่าจะเอายังไง จนเขาบอกว่า ให้แยกย้ายกันไปเติบโต เขาพิมพ์มายาวมากๆ ยาวแบบ1หน้าไลน์เลยพร้อมกับคลิปเสียงเขา
ในตอนนั้นอารมณ์เราร้อน โมโห เสียใจและผิดหวังจริงๆ เราอ่านแค่2บรรทัดมั้งเพราะอ่านต่อไม่ไหว ใจเราหน่วงมากๆตอนนั้น จับใจความได้แค่ว่า ขอให้แยกย้ายกันไปเติบโต เขายังอยู่ที่เดิมมีอะไรปรึกษาได้เสมอ ส่วนคลิปเสียงของเขา เราก็ไม่กดฟังเพราะเราร้องไห้หนักมากจนไม่อยากฟังอะไรแล้ว
จนเวลาผ่านไป เรายังคงส่องเขาบ่อยๆ ยังคงถามสารทุกข์สุขดิบจากเพื่อนๆลูกศิษย์ของเขาบ้าง มีทักไปง้อเขาแต่เขาไม่กลับมาจริงๆ เราเลยพยายามหาคนคุยไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายเราลืมเขาไม่ได้ จนปลายๆปีเราทักไปง้อเขาแบบจริงจัง ง้อ1เดือนเต็มๆจนเขาบล็อคเราทุกช่องทาง5555
และเหมือนครั้งนี้เรายอมรับจริงๆว่ายังไงเขาก็ไม่กลับมาแล้ว ตั้งแต่เขาบล็อคเรา เราก็ไม่เคยเอาเฟสอวตารหรือให้เพื่อนสนิทไปส่องอีกเลย อยู่ๆความคิดมันก็ผุดขึ้นมาว่าเราไม่อยากรับรู้อะไรจากเขาแล้ว ถ้าหากเราส่องแล้วเขามีแฟนใหม่หรือกำลังคุยกับใครอยู่ สุดท้ายก็เราเองที่เก็บมานั่งคิดทุกวันตลอดเวลา
ตลอดเวลาปีกว่า เรายอมรับตรงๆว่าเราไม่เคยลืมเขาสักวัน ยังคงไปสถานที่ที่ๆเคยไปด้วยกัน แต่ไม่เคยเขาไปดูชีวิตเขาอีกแล้ว เราได้แต่นั่งคิดว่าถ้าวันนั้นที่เราทะเลาะกัน เรายื้อและขอให้เติบโตไปด้วยกัน เขาจะยอมมั้ย ได้แต่คิดว่าเราจะวนกลับมาในเวลาที่เหมาะสมมั้ย
ตอนนี้เราไม่ลืมเขา และไม่หาใครมาแทนที่เขา แค่ยอมรับความจริง และเก็บเขาไว้ในความทรงจำ
(ยังอวยพรให้เขาไปได้ดีเสมอ )
เราไม่ได้จมปลัก แค่ตอนนี้เราไม่ได้ต้องการใครเราเลยคิดถึงและรักเขาไปเรื่อยๆ...ก็แค่นั้น
เลยอยากมาเล่าประสบการณ์คุยแค่2เดือนกว่า แต่หลงรักมาตลอดแล้ว และอาจนานเลยมั้ง