#ดวงชาตาที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนโหราศาสตร์ไทย
การเรียนวิชาโหราศาสตร์ไทย เหมือนกับการเรียนด้านอักษรศาสตร์ เนื่องจากเป็นวิชาที่ละเอียดอ่อน ต้องใช้ความสุขุมรอบคอบ ต้องใช้สมาธฺิ จิตวิทยา ในการตรวจสอบดวงชาตาทั้งดวงชาตาเดิมและดวงชาตาจร การที่ใช้ความรู้เพียงผิวเผินนั้น ไม่สามารถพยากรณ์ดวงชาตาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ท่านบูรพาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า วิชาโหราศาสตร์ไทย เป็นศาสตร์ลี้ลับมหัสจรรย์ ผู้ที่พยากรณ์ดวงชาตาได้อย่างแม่นยำจะต้องมีพรสวรรค์ โดยเฉพาะมีดาวที่เป็นอนาคตังสตญาณ(Sixsense) จึงจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักพยากรณ์ที่ดี มีความสามารถในการพยากรณ์ได้แม่นยำ ทั้งดวงชาตาเดิมและดวงชาตาจร ดาวที่เป็นอนาคตังสตญาณ (sixsense) คือ ดาวพฤหัส(๕) ดาวเกตุ(๙) ดาวมฤตยู(๐) และดาวราหู(๘) ส่งกำลังถึงลัคนา หรือเป็นองค์เกณฑ์ (เป็น ๑ ๔ ๗ และ ๑๐ จากลัคนา หรือจากจ้าเรือนลัคนาและจากดาวจันทร์(๒)
๑. ดาวพฤหัส(๕) ตามคำจำกัดความว่า “ปัญญาบริสุทธิทายพฤหัส” เป็นดาวนักปราชญ์ เป็นดาวประเภทพุทธจริต คือ การใช้ความรู้ความสามารถ ความคิดแบบคนมีสติในการตัดสินใจและการกระทำ เป็นหัวหน้าดาวฝ่ายดี (หัวหน้าดาวฝ่ายศุภเคราะห์) เจ้าชาตาที่มีดาวพฤหัส(๕) เด่นและถึงลัคนาทั้งในดวงราศีจักร์และดวงนวางค์จักร์ จะเป็นสัญลักษณ์ของคนที่มีสติปัญญาดี สามารถศึกษาและเรียนรู้อะไรได้เร็ว มีอุปนิสัยรักการเรียน มีความอดทนที่จะศึกษาหาความรู้จากตำราได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ จะเป็นชอบศึกษาเล่าเรียนหาความรู้อยู่ตลอดเวลา มิใช่เฉพาะในวัยเรียนเท่านั้น แต่จะเป็นคนที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา
๒. ดาวมฤตยู(๐) ดาวมฤตยู(๐) หรือ ดาวยูเรนัส (Uranus)
ดาวมฤตยู เป็นดาวเคราะห์ที่ใช้เลข ๐ เป็นเครื่องหมาย ดาวมฤตยู(๐) หากอยู่ในเรือนเกณฑ์ (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด และสิบจากลัคนาหรือจากดาวเจ้าเรือนลัคนหรือจากจันทร์) จะเป็นไปตามคำจำกัดความที่ว่า “ ภัยอาเพททายมฤตยู” ซึ่งหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
ดาวมฤตยู(๐) หากส่งกำลังถึงลัคนาจะเป็นดาวที่ครอบงำด้านความคิดอ่านและสติปัญญาของมนุษย์ เช่นเดียวกับดาวพุธ แต่ความคิดอ่านของดาวมฤตยูนั้น เกิดจากสัญชาตญาณ(Instinct) และความคิดฝัน (Imagination) อันเกิดจากความรู้สึกภายในของตัวเราเอง คนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวมฤตยู จะเป็นคนที่มีความหยิ่งในตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแรงกล้า เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการ ที่มีจิตใจสัมพันธ์อยู่กับสิ่งลึกลับที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ เป็นนักจิตวิเคราะห์ (psychoanalysis) และมีอนาคตังสญาณ (สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้แม่นยำ) ต้องการความเป็นอิสระเสรีไม่ขึ้นแก่ใคร ต้องการเป็นตัวเองไม่ว่าในด้านความคิดอ่าน การกระทำและการแสดงออก รักเสรีภาพ เป็นนักประชาธิปไตย มีมนุษยธรรม ชอบแสวงหาและทำสิ่งใหม่ ๆ เป็นนักต่อสู้และโต้เถียง เพื่อให้เกิดปัญญาความรู้ และไม่ชอบความอคติลำเอียงในทุกเรื่อง
นักโหราศาสตร์ตะวันตก ลงความเห็นว่า อาชีพของผู้ที่เกิดมาใต้อิทธิพลของดาวมฤตยู(๐) ได้แก่อาชีพเหล่านี้
-นักประดิษฐ์ (Inventors)
-ผู้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ (Discoverers)
-ผู้สนับสนุนหรือผู้ส่งเสริม (Promotors)
-ผู้จัดการงานในด้านธุรกิจบันเทิง (Impresarios)
-สาธยากรผู้เจนจบในวิชาการโฆษณา ( Exponents of Publicity)
-นักจิตวิทยา (Psychologists)
-นักจิตวิเคราะห์( Psycho-Anallysts)
-นักโหราศาสตร์ (Astrologers)
-นักสะกดจิต (Hypnotists)
-นักวิชาการลึกลับ (Occultists)
-นักวิชาการเกี่ยวกับจิตและวิญญาณ (Metaphysics)
-นักวิชาการหลอกลวงบางประเภท( Imposters)
๓. ดาวเกตุ(๙) ดาวเกตุ(๙) คำนิยาม “ทายอายุยืนอยู่ทายเกตุ” ตามลักษณะภายนอกดวงชาตาที่ดาวเกตุถึงลัคนา หมายถึงดวงชาตาที่จะมีอายุยืนยาว นิ้วยาว มือยาว เท้ายาว หูยาว กล่าวง่าย ๆ ก็คือดาวเกตุอยู่ในเรือนเกณฑ์(เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด สิบจากลัคนาหรือจากจันทร์หรือจากดาวเจ้าเรือนลัคนา) ก็ทำให้ภพนั้นมีอวัยวะยาว .
แต่ถ้าเป็นลักษณะภายในเป็นดาวประเภทวิญญาณธาตุ หมายถึง จิต วิญญาณ ญาณหรือสรรพวิชาลี้ลับต่าง ๆ ฉะนั้น บุคคลใดมีดาวเกตุอยู่ในเรือนเกณฑ์ (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด สิบจากลัคนา หรือจากดาวเจ้าเรือนลัคนาหรือจากจันทร์) มักจะมีจิตเหนือคนอื่น มีญาณพิเศษ (Sixsense) สามารถคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ มีความเชียวชาญในวิชาลี้ลับต่าง ๆ เช่น ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ วิญญาณศาสตร์ หรือจิตศาสตร์ อย่างใดอย่างหนึ่ง
อีกประการหนึ่ง ดาวเกตุเป็นดาวที่เกินความพอดี จะทำให้เกิดความยุ่งยากและวุ่นวาย เมื่อดาวเกตุไปสถิตก็ทำให้ดาวเกษตรของเจ้าเรือนราศีนั้นกลายเป็นดาววิญญาณไปด้วย เช่น เกตุกุมลัคน์หรือร่วมราศีกับดาวเจ้าเรือนปัตนิ จะเป็นคนมีความรักแบบพิศดาร ความต้องการทางเพศสูง เช่นคนที่เป็นเกย์คิง เกย์ควีน เลสเบี้ยน พวกรักร่วมเพศ หญิงชายประเภทสอง ท่านอาจารย์ประทีปแห่งวัดระฆังโฆสิตารามท่านกล่าวว่า ดาวเกตุอยู่ในภพลาภะ ท่านว่าชาตานั้นคุ้มภัย คือไม่ตายโหง ท่านเจ้าคุณสุเมธีวรคุณแห่งวัดเกาะหลัก จังหวัประจวบคีรีขันธ์ ท่านว่าดาวเกตุอยู่ในภพปุตตะ ท่านว่าเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ชอบเอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ มีความต้องการไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ เป็นที่น่าเบื่อสำหรับคนใกล้ชิด ท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(อุตรภัทร์) ท่านว่า ดาวเกตุอยู่ในภพอริ จากลัคนา เป็นชาตารวยหนึ้ เป็นคนหาเจ้าหนี้ได้เก่ง มีทักษะและความสามารถในการยิบยืมเงินทองคนอื่น โดยที่ตัวเองไม่ได้มีหลักฐานและฐานะอะไรเลย แต่สามารถหาเจ้าหนี้ได้เป็นล้าน ๆ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดาวเกตุอยู่ในภพกดุมภะจากลัคนาเป็นคนหมุนเงินเก่ง ดาวเกตุเป็นวิญญาณธาตุเมื่อมาอยู่เรือนการเงิน ก็ทำให้เงินติดปีก เงินหมุนเวียนตลอดเวลาได้เงินมาก็จ่ายไป แม้แต่ทรัพย์สินอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน
จุดเด่นของเจ้าชาตาที่ดาวเกตุ(๙)ถึงลัคนา นอกจากทำให้เจ้าชาตามีความต้องการทางเพศสูงแล้ว ยังมีความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ สามารถประดิษฐ์สร้างสรรค์ความสวยงามแบบแปลกและพิสดารมากกว่าพวกที่ดาวศุกร์(๖)ถึงลัคนา คนที่ดาวเกตุ(๙) ถึงลัคนา จะมีอารมณ์แบบคน ๒ เพศ มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งสวยงามที่ไม่เหมือนใคร แบบแปลก ๆ พิสดาร เช่น การออกแบบเครื่องแต่งกาย การออกแบบทรงผม
๔.ดาวราหู(๘) ดาวราหู(๘) ท่านบูรพาจารย์ให้คำจำกัดความว่า “มัวเมาทายราหู” จะมีคำหลักอยู่ ๒ คำ คือ คำว่า มัว กับคำว่า เมา ท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยาอารักษ์ ท่านกล่าวว่า คำว่า มัว หมายถึงความไม่กระจ่างแจ้งในสิ่งทั้งหลาย คำว่า เมา หมายถึง ความขาดสติ ทำอะไรไม่รู้เนื้อรู้ตัว ดาวราหู(๘) ท่านเปรียบเสมือนเป็นตัวมอด คอยทำลายตัวเอง เช่น ถูกโรคภัยรบกวน ถูกคนอื่นทรยศหักหลัง ดาวราหู(๘) เป็นคชนาม หมายถึงช้าง คือความกว้างใหญ่เก้งก้างใหญ่โต ความเป็นนักเลงโต ความเป็นคนหูเบา เชื่อคนง่าย บ้ายอ แต่บางครั้งก็ใจน้อย ดาวราหู(๘) เป็นดาวประเภทโมหะจริต หมายถึงความหลงไหลงมงายในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร ทำอะไรตามใจตนเอง ขาดความยั้งคิด
คนที่ดาวราหู(๘)อยู่ในเรือนเกณฑ์(เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด สิบจากลัคนาหรือจากดาวเจ้าเรือนลัคนา)หรือจากจันทร์
ลักษณะของคนที่ดาวราหู(๘) ถึงลัคนา เจ้าชาตาจะเป็นคนมีเสน่ห์ เป็นคนน่ารัก มีใบหน้าสวยงามคมคาย ทำให้เพศตรงข้ามรู้สึกสนใจหรือนึกชอบ อยากสนิทสนมด้วย แต่เจ้าชาตาจะเป็นคนทันคนและรู้ทันเพศตรงข้าม อุปนิสัยที่สำคัญของคนที่ดาวราหู(๘)ถึงลัคนา ส่วนมากจะเป็นคนค่อนข้างเจ้าอารมณ์ เปลี่ยนใจง่าย เอาใจยาก หากเป็นหญิง จะมีจิตใจคล้าย ๆ ชาย ประเภทใจถึง ทำความรู้จักได้ง่าย แต่จะเอาเปรียบเธอนั้น ยากกว่าที่คิด หากเป็นชายที่มีดาวราหูกุมลัคนา มักจะทำตัวแบบสนุกสนาน ท่าทางที่แสดงออกแบบเปิดเผย แต่ไม่สนิทกับใครง่าย ๆ ปกติคนที่ดาวราหู(๘) ถึงลัคนา มักจะเป็นคนเจ้าอารมณ์ไม่ชอบเอาใจใคร แต่ชอบให้คนอื่นมาเอาใจตน จะมีอุปนิสัยแบบคนคนเจ้าเล่ห์ แบบสุขุมนุ่มลึก การแสดงออกตามลักษณะภายนอกเป็นแบบนักเลง เป็นคนเปิดเผย แต่ส่วนลึกของจิตใจจะเป็นคนระมัดระวังตัว หวาดระแวง จะเป็นที่คนอื่นเข้าถึงได้ง่าย แต่เข้าถึงแบบคนสนิทได้ยาก คนที่ดาวราหูถึงลัคนาจะเป็นคนที่รู้ทันคนอื่นได้รวดเร็ว มีไหวพริบ จึงทำให้เป็นคนที่ระมัดระวังตัว เพศตรงข้ามถึงเข้าถึงตัวได้ยาก นอกจากเจ้าตัวพอใจเท่านั้น ถึงจะเข้าถึงตัวได้ อีกประการหนึ่ง คนที่ดาวราหู(๘) ถึงลัคนา จะเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว แต่มักจะแสดงตัวว่าเป็นคนใจกว้าง แต่ใจกว้างไม่จริง อีกประการหนึ่งคนที่ดาวราหู(๘) ถึงลัคนามักจะมีพรสวรรค์ทางด้านการพนัน มีพรสวรรค์ในเรื่องการเสี่ยงโชค
#การที่ถือดาวที่เป็นอนาคตังสตญาณ(Sixsense) เป็นหลักสำคัญในการเรียนโหราศาสตร์ไทย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้โหราศาตร์ไทยได้อย่างแท้จริง สามารถนำความรู้ทางด้านโหราศาสต์ไทยมาใช้การพยากรณ์ดวงชาตาทั้งดวงชาตาเดิมและดวงชาตาจรได้ถูกต้องแม่นยำ
#สนใจตรวจสอบดวงชาตาหรือสมัครเรียนโหราศาสตร์ไทย ให้อินบ๊อก :m.me/arjarnthi
ดวงชะตาผู้เรียนโหราศาสตร์
การเรียนวิชาโหราศาสตร์ไทย เหมือนกับการเรียนด้านอักษรศาสตร์ เนื่องจากเป็นวิชาที่ละเอียดอ่อน ต้องใช้ความสุขุมรอบคอบ ต้องใช้สมาธฺิ จิตวิทยา ในการตรวจสอบดวงชาตาทั้งดวงชาตาเดิมและดวงชาตาจร การที่ใช้ความรู้เพียงผิวเผินนั้น ไม่สามารถพยากรณ์ดวงชาตาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ท่านบูรพาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า วิชาโหราศาสตร์ไทย เป็นศาสตร์ลี้ลับมหัสจรรย์ ผู้ที่พยากรณ์ดวงชาตาได้อย่างแม่นยำจะต้องมีพรสวรรค์ โดยเฉพาะมีดาวที่เป็นอนาคตังสตญาณ(Sixsense) จึงจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักพยากรณ์ที่ดี มีความสามารถในการพยากรณ์ได้แม่นยำ ทั้งดวงชาตาเดิมและดวงชาตาจร ดาวที่เป็นอนาคตังสตญาณ (sixsense) คือ ดาวพฤหัส(๕) ดาวเกตุ(๙) ดาวมฤตยู(๐) และดาวราหู(๘) ส่งกำลังถึงลัคนา หรือเป็นองค์เกณฑ์ (เป็น ๑ ๔ ๗ และ ๑๐ จากลัคนา หรือจากจ้าเรือนลัคนาและจากดาวจันทร์(๒)
๑. ดาวพฤหัส(๕) ตามคำจำกัดความว่า “ปัญญาบริสุทธิทายพฤหัส” เป็นดาวนักปราชญ์ เป็นดาวประเภทพุทธจริต คือ การใช้ความรู้ความสามารถ ความคิดแบบคนมีสติในการตัดสินใจและการกระทำ เป็นหัวหน้าดาวฝ่ายดี (หัวหน้าดาวฝ่ายศุภเคราะห์) เจ้าชาตาที่มีดาวพฤหัส(๕) เด่นและถึงลัคนาทั้งในดวงราศีจักร์และดวงนวางค์จักร์ จะเป็นสัญลักษณ์ของคนที่มีสติปัญญาดี สามารถศึกษาและเรียนรู้อะไรได้เร็ว มีอุปนิสัยรักการเรียน มีความอดทนที่จะศึกษาหาความรู้จากตำราได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ จะเป็นชอบศึกษาเล่าเรียนหาความรู้อยู่ตลอดเวลา มิใช่เฉพาะในวัยเรียนเท่านั้น แต่จะเป็นคนที่จะศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา
๒. ดาวมฤตยู(๐) ดาวมฤตยู(๐) หรือ ดาวยูเรนัส (Uranus)
ดาวมฤตยู เป็นดาวเคราะห์ที่ใช้เลข ๐ เป็นเครื่องหมาย ดาวมฤตยู(๐) หากอยู่ในเรือนเกณฑ์ (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด และสิบจากลัคนาหรือจากดาวเจ้าเรือนลัคนหรือจากจันทร์) จะเป็นไปตามคำจำกัดความที่ว่า “ ภัยอาเพททายมฤตยู” ซึ่งหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
ดาวมฤตยู(๐) หากส่งกำลังถึงลัคนาจะเป็นดาวที่ครอบงำด้านความคิดอ่านและสติปัญญาของมนุษย์ เช่นเดียวกับดาวพุธ แต่ความคิดอ่านของดาวมฤตยูนั้น เกิดจากสัญชาตญาณ(Instinct) และความคิดฝัน (Imagination) อันเกิดจากความรู้สึกภายในของตัวเราเอง คนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวมฤตยู จะเป็นคนที่มีความหยิ่งในตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแรงกล้า เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการ ที่มีจิตใจสัมพันธ์อยู่กับสิ่งลึกลับที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ เป็นนักจิตวิเคราะห์ (psychoanalysis) และมีอนาคตังสญาณ (สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้แม่นยำ) ต้องการความเป็นอิสระเสรีไม่ขึ้นแก่ใคร ต้องการเป็นตัวเองไม่ว่าในด้านความคิดอ่าน การกระทำและการแสดงออก รักเสรีภาพ เป็นนักประชาธิปไตย มีมนุษยธรรม ชอบแสวงหาและทำสิ่งใหม่ ๆ เป็นนักต่อสู้และโต้เถียง เพื่อให้เกิดปัญญาความรู้ และไม่ชอบความอคติลำเอียงในทุกเรื่อง
นักโหราศาสตร์ตะวันตก ลงความเห็นว่า อาชีพของผู้ที่เกิดมาใต้อิทธิพลของดาวมฤตยู(๐) ได้แก่อาชีพเหล่านี้
-นักประดิษฐ์ (Inventors)
-ผู้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ (Discoverers)
-ผู้สนับสนุนหรือผู้ส่งเสริม (Promotors)
-ผู้จัดการงานในด้านธุรกิจบันเทิง (Impresarios)
-สาธยากรผู้เจนจบในวิชาการโฆษณา ( Exponents of Publicity)
-นักจิตวิทยา (Psychologists)
-นักจิตวิเคราะห์( Psycho-Anallysts)
-นักโหราศาสตร์ (Astrologers)
-นักสะกดจิต (Hypnotists)
-นักวิชาการลึกลับ (Occultists)
-นักวิชาการเกี่ยวกับจิตและวิญญาณ (Metaphysics)
-นักวิชาการหลอกลวงบางประเภท( Imposters)
๓. ดาวเกตุ(๙) ดาวเกตุ(๙) คำนิยาม “ทายอายุยืนอยู่ทายเกตุ” ตามลักษณะภายนอกดวงชาตาที่ดาวเกตุถึงลัคนา หมายถึงดวงชาตาที่จะมีอายุยืนยาว นิ้วยาว มือยาว เท้ายาว หูยาว กล่าวง่าย ๆ ก็คือดาวเกตุอยู่ในเรือนเกณฑ์(เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด สิบจากลัคนาหรือจากจันทร์หรือจากดาวเจ้าเรือนลัคนา) ก็ทำให้ภพนั้นมีอวัยวะยาว .
แต่ถ้าเป็นลักษณะภายในเป็นดาวประเภทวิญญาณธาตุ หมายถึง จิต วิญญาณ ญาณหรือสรรพวิชาลี้ลับต่าง ๆ ฉะนั้น บุคคลใดมีดาวเกตุอยู่ในเรือนเกณฑ์ (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด สิบจากลัคนา หรือจากดาวเจ้าเรือนลัคนาหรือจากจันทร์) มักจะมีจิตเหนือคนอื่น มีญาณพิเศษ (Sixsense) สามารถคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ มีความเชียวชาญในวิชาลี้ลับต่าง ๆ เช่น ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ วิญญาณศาสตร์ หรือจิตศาสตร์ อย่างใดอย่างหนึ่ง
อีกประการหนึ่ง ดาวเกตุเป็นดาวที่เกินความพอดี จะทำให้เกิดความยุ่งยากและวุ่นวาย เมื่อดาวเกตุไปสถิตก็ทำให้ดาวเกษตรของเจ้าเรือนราศีนั้นกลายเป็นดาววิญญาณไปด้วย เช่น เกตุกุมลัคน์หรือร่วมราศีกับดาวเจ้าเรือนปัตนิ จะเป็นคนมีความรักแบบพิศดาร ความต้องการทางเพศสูง เช่นคนที่เป็นเกย์คิง เกย์ควีน เลสเบี้ยน พวกรักร่วมเพศ หญิงชายประเภทสอง ท่านอาจารย์ประทีปแห่งวัดระฆังโฆสิตารามท่านกล่าวว่า ดาวเกตุอยู่ในภพลาภะ ท่านว่าชาตานั้นคุ้มภัย คือไม่ตายโหง ท่านเจ้าคุณสุเมธีวรคุณแห่งวัดเกาะหลัก จังหวัประจวบคีรีขันธ์ ท่านว่าดาวเกตุอยู่ในภพปุตตะ ท่านว่าเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ชอบเอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ มีความต้องการไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ เป็นที่น่าเบื่อสำหรับคนใกล้ชิด ท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(อุตรภัทร์) ท่านว่า ดาวเกตุอยู่ในภพอริ จากลัคนา เป็นชาตารวยหนึ้ เป็นคนหาเจ้าหนี้ได้เก่ง มีทักษะและความสามารถในการยิบยืมเงินทองคนอื่น โดยที่ตัวเองไม่ได้มีหลักฐานและฐานะอะไรเลย แต่สามารถหาเจ้าหนี้ได้เป็นล้าน ๆ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดาวเกตุอยู่ในภพกดุมภะจากลัคนาเป็นคนหมุนเงินเก่ง ดาวเกตุเป็นวิญญาณธาตุเมื่อมาอยู่เรือนการเงิน ก็ทำให้เงินติดปีก เงินหมุนเวียนตลอดเวลาได้เงินมาก็จ่ายไป แม้แต่ทรัพย์สินอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน
จุดเด่นของเจ้าชาตาที่ดาวเกตุ(๙)ถึงลัคนา นอกจากทำให้เจ้าชาตามีความต้องการทางเพศสูงแล้ว ยังมีความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ สามารถประดิษฐ์สร้างสรรค์ความสวยงามแบบแปลกและพิสดารมากกว่าพวกที่ดาวศุกร์(๖)ถึงลัคนา คนที่ดาวเกตุ(๙) ถึงลัคนา จะมีอารมณ์แบบคน ๒ เพศ มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งสวยงามที่ไม่เหมือนใคร แบบแปลก ๆ พิสดาร เช่น การออกแบบเครื่องแต่งกาย การออกแบบทรงผม
๔.ดาวราหู(๘) ดาวราหู(๘) ท่านบูรพาจารย์ให้คำจำกัดความว่า “มัวเมาทายราหู” จะมีคำหลักอยู่ ๒ คำ คือ คำว่า มัว กับคำว่า เมา ท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยาอารักษ์ ท่านกล่าวว่า คำว่า มัว หมายถึงความไม่กระจ่างแจ้งในสิ่งทั้งหลาย คำว่า เมา หมายถึง ความขาดสติ ทำอะไรไม่รู้เนื้อรู้ตัว ดาวราหู(๘) ท่านเปรียบเสมือนเป็นตัวมอด คอยทำลายตัวเอง เช่น ถูกโรคภัยรบกวน ถูกคนอื่นทรยศหักหลัง ดาวราหู(๘) เป็นคชนาม หมายถึงช้าง คือความกว้างใหญ่เก้งก้างใหญ่โต ความเป็นนักเลงโต ความเป็นคนหูเบา เชื่อคนง่าย บ้ายอ แต่บางครั้งก็ใจน้อย ดาวราหู(๘) เป็นดาวประเภทโมหะจริต หมายถึงความหลงไหลงมงายในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร ทำอะไรตามใจตนเอง ขาดความยั้งคิด
คนที่ดาวราหู(๘)อยู่ในเรือนเกณฑ์(เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด สิบจากลัคนาหรือจากดาวเจ้าเรือนลัคนา)หรือจากจันทร์
ลักษณะของคนที่ดาวราหู(๘) ถึงลัคนา เจ้าชาตาจะเป็นคนมีเสน่ห์ เป็นคนน่ารัก มีใบหน้าสวยงามคมคาย ทำให้เพศตรงข้ามรู้สึกสนใจหรือนึกชอบ อยากสนิทสนมด้วย แต่เจ้าชาตาจะเป็นคนทันคนและรู้ทันเพศตรงข้าม อุปนิสัยที่สำคัญของคนที่ดาวราหู(๘)ถึงลัคนา ส่วนมากจะเป็นคนค่อนข้างเจ้าอารมณ์ เปลี่ยนใจง่าย เอาใจยาก หากเป็นหญิง จะมีจิตใจคล้าย ๆ ชาย ประเภทใจถึง ทำความรู้จักได้ง่าย แต่จะเอาเปรียบเธอนั้น ยากกว่าที่คิด หากเป็นชายที่มีดาวราหูกุมลัคนา มักจะทำตัวแบบสนุกสนาน ท่าทางที่แสดงออกแบบเปิดเผย แต่ไม่สนิทกับใครง่าย ๆ ปกติคนที่ดาวราหู(๘) ถึงลัคนา มักจะเป็นคนเจ้าอารมณ์ไม่ชอบเอาใจใคร แต่ชอบให้คนอื่นมาเอาใจตน จะมีอุปนิสัยแบบคนคนเจ้าเล่ห์ แบบสุขุมนุ่มลึก การแสดงออกตามลักษณะภายนอกเป็นแบบนักเลง เป็นคนเปิดเผย แต่ส่วนลึกของจิตใจจะเป็นคนระมัดระวังตัว หวาดระแวง จะเป็นที่คนอื่นเข้าถึงได้ง่าย แต่เข้าถึงแบบคนสนิทได้ยาก คนที่ดาวราหูถึงลัคนาจะเป็นคนที่รู้ทันคนอื่นได้รวดเร็ว มีไหวพริบ จึงทำให้เป็นคนที่ระมัดระวังตัว เพศตรงข้ามถึงเข้าถึงตัวได้ยาก นอกจากเจ้าตัวพอใจเท่านั้น ถึงจะเข้าถึงตัวได้ อีกประการหนึ่ง คนที่ดาวราหู(๘) ถึงลัคนา จะเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว แต่มักจะแสดงตัวว่าเป็นคนใจกว้าง แต่ใจกว้างไม่จริง อีกประการหนึ่งคนที่ดาวราหู(๘) ถึงลัคนามักจะมีพรสวรรค์ทางด้านการพนัน มีพรสวรรค์ในเรื่องการเสี่ยงโชค
#การที่ถือดาวที่เป็นอนาคตังสตญาณ(Sixsense) เป็นหลักสำคัญในการเรียนโหราศาสตร์ไทย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้โหราศาตร์ไทยได้อย่างแท้จริง สามารถนำความรู้ทางด้านโหราศาสต์ไทยมาใช้การพยากรณ์ดวงชาตาทั้งดวงชาตาเดิมและดวงชาตาจรได้ถูกต้องแม่นยำ
#สนใจตรวจสอบดวงชาตาหรือสมัครเรียนโหราศาสตร์ไทย ให้อินบ๊อก :m.me/arjarnthi