ศาสตร์การให้ฤกษ์: นิจจะภังคะราชาโยค หรือปทุมเกณฑ์ สามารถใช้กับดาวเจ้าฤกษ์ได้หรือไม่

หลายท่านอาจรู้จักผมมาบ้างแล้วสำหรับกระทู้ก่อน ๆ ที่ผมเคยตั้ง ขอบคุณอาจารย์หลาย ๆ ท่านในห้องพรหมชาตินะครับที่กรุณาให้ความรู้เกี่ยวกับการอ่านลัคนาต่าง ๆ อย่างไม่หวงวิชาเลย และขออภัยด้วยนะครับที่ตอบช้าในกระทู้ก่อนหน้า ผมจะพยายามตอบให้เร็วขึ้นนะครับผม 

ขออนุญาตเข้าเรื่องนะครับผม ตอนนี้ผมศึกษาเรื่องนิจจะภังคะราชาโยคครับ (เกณฑ์ล้างโทษของดาวนิจ) ผมเห็นอาจารย์หลายท่านบัญญัติกฎไว้ว่าถ้าดาวนิจนั้นเข้าตามเกณฑ์ต่าง ๆ ในพื้นดวงชะตา ดาวนั้นก็จะพลิกกลับกลายมาให้ผลดีแทน (ดวงกลับ) หรือแม้แต่ปทุมเกณฑ์ ถึงแม้จะมีมาตรฐานเป็นนิจ เป็นประ เป็นกาลี มาจากเจ้าเรือนอริ มรณะ วินาศ ก็ย่อมให้คุณหนุนนำแก่ดวงชะตาดี จะพยากรณ์เสียมิได้เลย ซึ่งเห็นกฎนี้ใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในการอ่านพื้นดวงชะตา หรือแม้แต่การตั้งชื่อให้สอดคล้องกับลัคนาดวงกำเนิดก็ยังสามารถใช้กฎนี้ได้!! [ปกติการตั้งชื่อตามลัคนา จะใช้อักษรเดชศรี และอักษรนั้นต้องมาจากดาวที่เด่นและอยู่ในภพที่ดีของเจ้าชะตา มาเป็นตัวอักษรขึ้นต้นของชื่อ เว้นแต่เจ้าชะตาได้ปทุมเกณฑ์ แม้อักษรของดาวจันทร์จะมีมาตรฐานเป็นประเป็นนิจ หรือมาจากทักษาอื่นที่ไม่ใช่เดชหรือศรี (เป็นเพียงมูละ อายุ หรือบริวาร) ก็สามารถนำอักษรของดาวจันทร์มานำหน้าได้เช่นกัน เพราะเข้าเกณฑ์ยกเว้นพิเศษที่ทำให้ดาวร้ายกลายเป็นดาวเด่น]

ทีนี้ พอมาเรื่องฤกษ์เนี่ย ตามหลักการให้ฤกษ์คือผู้ให้ฤกษ์ต้องพยายามประคองมาตรฐานดาวเจ้าฤกษ์ในลัคนาฤกษ์ต้องได้มาตรฐานที่ดี เป็นอุจจ์ เป็นเกษตร ฤกษ์นั้นจะได้ให้คุณอย่างสูงสุด ไม่เกิดโทษแก่ผู้ใช้ ดังนั้นมันเลยนำมาสู่คำถามผมดังนี้ครับ

1. หากสมมุติผมจะใช้ฤกษ์ที่ดาวเจ้าฤกษ์ได้มาตรฐานเป็นนิจ แต่ดาวเจ้าฤกษ์นั้นเข้าเกณฑ์นิจจะภังคะ จะยังถือว่าฤกษ์ที่ใช้เป็นฤกษ์ที่ดาวเจ้าฤกษ์เสียอยู่หรือไม่ ต้องถือว่าดาวเจ้าฤกษ์ให้คุณหรือโทษครับ

[เช่นใช้มหัธโนฤกษ์ ลัคนาฤกษ์วางไว้ในราศีพิจิก เพื่อให้ดาวศุกร์อยู่ในภพเด่น ๆ เช่นภพลาภะ (ภพที่ 11) แต่ดาวศุกร์ไปอยู่ราศีกันย์ที่เป็นนิจ แต่ก็มีดาวพุธในเรือนกันย์ที่มีมาตรฐานเป็นอุจจ์มาช่วยล้างดาวศุกร์ให้แล้ว]

2. หากสมมุติผมจะใช้ฤกษ์ที่ดาวเจ้าฤกษ์ได้มาตรฐานเป็นประ แต่ดาวเจ้าฤกษ์นั้นเข้าเกณฑ์ปทุมเกณฑ์ จะยังถือว่าฤกษ์ที่ใช้เป็นฤกษ์ที่ดาวเจ้าฤกษ์เสียอยู่หรือไม่ ต้องถือว่าดาวเจ้าฤกษ์ให้คุณหรือโทษครับ

[เช่นใช้มหัธโนฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์ ลัคนาฤกษ์วางไว้ในราศีพิจิก เพื่อให้ดาวจันทร์อยู่ในภพเด่น ๆ เช่นภพลาภะ (ภพที่ 10) แต่ดาวจันทร์แม้อยู่ในภพลาภะ (ภพที่ 11) ได้เกณฑ์ปทุมเกณฑ์จริง แต่กลับอยู่ในราศีมังกรได้เป็นปรเกษตร]

3. พูดถึงมหัธโนฤกษ์ ตามหลาย ๆ แหล่งอ้างอิง ฤกษ์นี้มีดาวเจ้าฤกษ์เป็นศุกร์ ซึ่งควรประคองให้เด่น  แต่ผมเคยอ่านบทความหนึ่งผ่านตา (เข้าใจว่าเป็นวารสารโหร) ที่ว่าอาจารย์ท่านหนึ่งสอบถามการงานของสตรีท่านหนึ่ง แต่ก็ไม่ทราบเวลาเกิดของสุภาพสตรีท่านนั้น จึงบอกไม่ได้ว่าจะร้ายจะดี แต่สุภาพสตรีท่านนั้นออกเดินทางเวลาประมาณสิบโมงกว่า ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนบทความอ้างอิงว่าดาวเจ้าฤกษ์ของมหัธโนนั้นคือดาวจันทร์ และดันไปตกในภพอริ จึงทำให้ฤกษ์นั้นเป็นอริกับสตรีท่านนั้นและทำงานนั้นได้ไม่นานในท้ายที่สุด [อันนี้เขียนขึ้นจากความจำ ถ้าผิดขออภัยดก้วยนะครับ] คำถามคือตกลงแล้วดาวเจ้าฤกษ์ของมหัธโนฤกษ์ควรจะเป็นดาวศุกร์ (6) หรือดาวจันทร์ (2) กันแน่ครับ มีหลายตำราให้ความเห็นไว้ต่างกันหรือเปล่าครับผม

ตอนนี้เริ่มศึกษาได้ลึกขึ้นบ้างแล้วครับ ว่าจะไปหาอาจารย์เรียนอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยภาระการเรียนปัจจุบัน เลยยังไม่สามารถหาอาจารยเป็นตัวเป็นตนได้ในตอนนี้ครับ เลยต้องพึ่งความเมตตากรุณาจากสมาชิกห้องพรหมชาติ เพื่อสนองความอยากรู้เรื่อยเปื่อยของผม หากตอบช้าต้องขออภัยด้วยนะครับ แต่จะพยายามเข้ามาตรวจบ่อย ๆ เพื่อตอบสมาชิกทุกท่านให้ไวที่สุดครับผม ขอบคุณล่วงหน้าจริง ๆ ครับสำหรับคำตอบ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ยังไม่เห็นมีท่านใดมาตอบ ขอตอบนิดหน่อยไม่รู้ตรงคำถามไหม
ในมุมมองของผม การให้ฤกษ์เป็นศาสตร์สูงสุดของวิชาโหราศาสตร์ ต้องศึกษาจนทะลุปรุโปร่งจึงให้ฤกษ์ได้ ครูบาอาจารย์ถึงกับสาปแช่งคนที่ให้ฤกษ์ผิดให้ตาบอด ให้มีอันเป็นไปเพื่อให้ระมัดระวังในการให้ฤกษ์
ผมเองศึกษามาราวสิบปียังไม่ให้ฤกษ์ใคร และไม่กล้าให้ด้วย ได้แต่แกะดูฤกษ์ที่หมอดูสมัยนี้ให้กัน การดูฤกษ์ต้องดูไปถึงพ่อแม่ไม่ใช่แค่เด็กที่เกิดครับ อันดับแรกแม่ต้องปลอดภัย สองต้องให้เด็กแข็งแรง สามค่อยมองเรื่องความเจริญรุ่งเรือง

เพื่อนผมคนนึงยังด่าคนให้ฤกษ์ลูกถึงทุกวันนี้ ลูกหาหมอตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันสิบขวบแทบจะเดือนเว้นเดือน มีปัญหาสุขภาพมาก แถมดื้อและเลี้ยงยากมาก

ส่วนนิจจภังคะ และอุจจภังคะ ไม่ได้แปลว่าไม่เกิดนิจจ์หรืออุจจ์ และไม่ใช่จากร้ายกลายเป็นดี เข้าใจผิดครับ ต้องเกิดความเป็นนิจจ์และอุจจ์ก่อนแล้วจึงสลายลงไป เขาถึงเรียกนิจจ์ฟื้น อุจจ์พัง หรือนิจจ์แท้-นิจจ์เทียม อุจจ์แท้-อุจจ์เทียม ความจริงคนในเพจนี้ที่มาถามมีหลายดวงที่มีนิจจภังคะและอุจจภังคะ เหตุการณ์เป็นตามที่ผมบอกคือ พังแล้วฟื้นแต่ไม่ใช่กลับมารุ่งเรืองร่ำรวย ไม่ใช่จากนิจจ์กลายเป็นอุจจ์แบบตรงกันข้าม ตอนนี้คุณอ่านแต่ตำราจึงคิดและตีความไปเอง เมื่อได้ทายดวงจริงจำนวนนึงแล้วจะเข้าใจเองครับ เจ้าของดวงจะเฉลยเองเมื่อเราทายถูก

ในขั้นต้นนี้อยากให้เลิกสนใจเรื่องวางฤกษ์ไปก่อนครับ ต้องเข้าใจและอ่านดาวให้ขาดทุกดวงทุกตำแหน่งจึงวางฤกษ์ได้ ไม่ใช่หาฤกษ์ของตำแหน่งจันทร์ดวงเดียวตามที่คนส่วนมากเข้าใจ ต้องวางดาวทุกดวงในราศรีจักรให้ทะลุไปถึงนวางค์จักรด้วย ต้องแก้ดาวได้ การวางฤกษ์จึงเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาสตร์ของผู้เจนจบวิชา ผมเชื่อว่าถ้าคุณศึกษาโหราศาสตร์ไปเรื่อยๆ ได้ทายดวงจริงไปจำนวนที่มากพอ เมื่อคุณก้าวหน้ามากขึ้นคุณจะเข้าใจเรื่องฤกษ์เองครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่