เล่นกับผี





บางทีคนที่เราเล่นด้วยก็อาจไม่ใช่มนุษย์

ฟังแบบเสียงได้ที่นี่ค่ะ https://youtu.be/jmn-lHezKNk





เล่นกับผี
 
ล. วิลิศมาหรา

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2510 ตอนนั้นผมกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมสี่ เด็กประถมสี่แถวบ้านผมสมัยนั้นตัวค่อนข้างโตและแข็งแรงมาก เพราะต้องออกแรงช่วยพ่อแม่ทำงาน เด็กผู้หญิงจะช่วยแม่ทำงานบ้านและเลี้ยงน้อง เด็กผู้ชายจะช่วยพ่อแม่ทำงานกลางทุ่งนา ต้อนวัวควายไปกินหญ้าทุกวัน บางครั้งก็ออกไปหาปลาในลำคลอง อีกอย่าง การละเล่นต่าง ๆ ของเด็ก ๆ ก็เป็นการออกกำลังกายล้วน ๆ เช่น เล่นตี่จับ เล่นซ่อนแอบ เล่นกระโดดเชือก ว่ายน้ำเล่นตามแม่น้ำลำคลอง ปีนต้นไม้เล่น เป็นต้น และยังรู้จักเอาตัวรอดได้ดีกว่าเด็กสมัยนี้มาก

หมู่บ้านที่ผมอยู่เป็นหมู่บ้านชนบท อยู่ห่างจากตัวเมืองออกมาค่อนข้างมาก มีลำคลองไหลผ่านที่ท้ายหมู่บ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนทำนา ว่างจากทำนาก็จะเข้าป่าหาของป่ามาทำเป็นอาหาร หรือเอามาขายในตลาด มักจะพากันไปหาตามภูเขา ตามห้วยหนองคลองบึงต่าง ๆ บ้านก็ปลูกอยู่ห่าง ๆ กัน จึงมักมีพื้นที่ว่างให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ท้ายหมู่บ้านเป็นวัดที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นหนาแน่น ให้ร่มเงาร่มครึ้มอยู่รายรอบบริเวณวัด แถวกำแพงวัดมีต้นตาลสูงตระหง่านขึ้นเรียงรายไปรอบแนวกำแพง ตอนกลางคืนพอมองไปที่วัดจะเห็นเงาของต้นตาลสูงชะลูด ยิ่งเวลามีลมพัด ใบตาลที่ห้อยย้อยลงมาจะแกว่งไกว มองไปเหมือนพวกผีเปรตกำลังโบกมือทักทายกับผู้คน ผมซึ่งมีบ้านอยู่ไม่ไกลจากวัดจึงไม่ค่อยอยากมองไปทางวัดตอนกลางคืนบ่อยนัก
โรงเรียนประถมของพวกผมตั้งอยู่ติดกับวัดนั่นเอง มีเพียงกำแพงวัดกั้น สมัยนั้นโรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ชั้น ป. หนึ่ง ถึง ป. เจ็ด เด็กนักเรียนมีเป็นจำนวนมาก พอถึงเวลาพักที พวกเรามักจะมาวิ่งเล่นกันใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างกำแพงวัด เพราะเป็นที่ร่มรื่นดี ต้นไม้ต้นนี้ก็มีประวัติอันชวนขนหัวลุก ซึ่งผมยังจำได้ดี และเป็นเรื่องที่ไม่มีใครมาพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่

ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้น ป. 1 ผมกับเพื่อน ๆ หลายคนพอพักเที่ยง กินข้าวกันเสร็จก็พากันมาวิ่งเล่นใต้ต้นไม้ตามปกติ พวกเราเล่นตี่จับกันอยู่ ขณะกำลังเล่นอยู่ดี ๆ ก็มีเสียงซ่า ๆ ดังมาจากต้นไม้ พวกเราทั้งหมดหยุดชะงักจากการเล่น ต่างแหงนหน้าดูว่าเป็นเสียงอะไร ทันใดนั้นเอง ต้นไม้ก็เอนลำต้นลงมาช้า ๆ ทำท่าว่าจะล้มลงมา พวกผมที่อยู่ใต้ต้นไม้ก็พากันวิ่งแตกกระจายออกไป เราทุกคนเห็นคาตาว่าในที่สุดต้นไม้ต้นนั้นก็ล้มฟาดลงกับพื้นเสียงดังสนั่น
ผมกับเพื่อนเลยวิ่งไปบอกคุณครูในห้องพักครูว่ามีต้นไม้ล้มอยู่ข้างกำแพงวัด ครูหลายคนรีบวิ่งออกมาดู แต่ปรากฏว่าต้นไม้ต้นนั้นมันไม่ได้ล้มไปไหนเลย ลำต้นยังคงตั้งตรงอยู่ตามเดิม พวกผมทุกคนต่างพากันงงเป็นไก่ตาแตก ครูคิดว่าพวกเราโกหก หลอกให้ครูวิ่งมาดู ถึงพวกผมจะยืนยันกันหลายคน พวกผู้ใหญ่ก็ไม่มีใครเชื่อ ในที่สุดเราก็เลยไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องต้นไม้ล้มอีก แต่พวกเราก็ไม่เข้าไปวิ่งเล่นกันที่นั่นอีกเลย

(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  เรื่องเล่าสยองขวัญ เรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่